นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ K PLUS SHOP แอปพลิเคชันสำหรับร้านค้าเพื่อชำระด้วยคิวอาร์ โค้ด เปิดตัวเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ธนาคารกสิกรไทยได้พัฒนาฟีเจอร์บน K PLUS SHOP อย่างต่อเนื่อง และได้ผ่านทดสอบใน Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว ธนาคารจึงสามารถขยายพื้นที่ให้บริการ K PLUS SHOP ไปยังร้านค้าทั่วประเทศได้ โดยเชื่อมั่นว่า K PLUS SHOP จะสามารถตอบสนองการใช้งานของร้านค้าต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ด้วยจุดเด่นของแอปฯ ที่จะช่วยร้านค้าทั้งในด้านการรับชำระที่สะดวกยิ่งขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการ ดังนี้
เพิ่มช่องทางการรับชำระเงินเพิ่มโอกาสในการขาย คิวอาร์โค้ดที่สร้างโดย K PLUS SHOP เป็นคิวอาร์โค้ดมาตรฐาน พร้อมรองรับการชำระผ่านโมบาย แบงกิ้ง ของทุกธนาคารในไทย โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการใช้งานทั้งฝั่งร้านค้า และฝั่งลูกค้าที่ซื้อสินค้าและบริการในวงเงินไม่เกิน 50,000 บาท จึงเพิ่มความสะดวกให้ทั้งร้านค้าและผู้ซื้อ พร้อมลดการเสียโอกาสจากการที่ลูกค้าพกเงินสดมาไม่พอ ลดความผิดพลาดจากการทอนเงินผิด หรือกดเลขบัญชี/หมายเลขโทรศัพท์ผิดตอนโอนเงิน ลดภาระในการจัดการเงินสด ไม่ต้องนับเงินเมื่อหมดวัน เพราะเงินจะโอนเข้าบัญชีที่ผูกกับ K PLUS SHOP เมื่อปิดยอดทุกวัน
รองรับการชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดของ Alipay และ WeChat Pay นับเป็นอีกจุดเด่นที่สำคัญ เนื่องจาก Alipay และ WeChat Pay มีฐานลูกค้าที่ใช้คิวอาร์โค้ดมากที่สุดในโลกถึง 500 ล้านราย และ 650 ล้านรายตามลำดับ และ K PLUS SHOP เป็นแอปพลิเคชันแรกของธนาคารไทยที่รองรับการชำระเงินของลูกค้า Alipayและ WeChat Pay ได้แล้ว จึงช่วยเพิ่มโอกาสให้ร้านค้าที่ใช้งานแอปฯ K PLUS SHOP สามารถขายสินค้าและบริการให้แก่กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หมุนเวียนเดินทางเข้ามาในประเทศไทยสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 มีจำนวนปีละกว่า 9 ล้านคน และในอนาคตจะมีการพัฒนาให้สามารถชำระเงินสำหรับการค้าออนไลน์ด้วยคิวอาร์โค้ดได้ ก็จะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าให้ร้านค้าได้อีกจำนวนมหาศาล
K PLUS SHOP จะแจ้งยอดเงินเข้าและสร้างรายงานยอดขาย ช่วยให้ร้านค้าสามารถบริหารจัดการข้อมูลทางการเงินของร้านได้ง่ายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยทุกครั้งที่ร้านค้าได้รับชำระ K PLUS SHOP จะแจ้งเตือนยอดเงินเข้าแบบเรียลไทม์ และจะโอนเงินเข้าบัญชีทุกวันหลังปิดยอด นอกจากนี้ยังมีรายงานสรุปยอดขายแบบรายชั่วโมง รายวัน และรายเดือน
ลูกค้าสามารถสมัครใช้บริการ K PLUS SHOP ได้ง่ายด้วยตัวเองผ่านแอปฯ K PLUS ได้ทันที ขั้นตอนคือ ล็อกอินเข้าระบบ K PLUS แล้วกดเมนู K+Appซึ่งจะปรากฏในหน้าแรก ดำเนินการตามขั้นตอนการลงทะเบียนบนระบบ K PLUS จนกระทั้งระบบนำไปสู่การดาวน์โหลดแอปฯ K PLUS SHOP จึงล็อกอินเข้าแอปฯ K PLUS SHOP สร้างโปรไฟล์ร้านค้า และเข้าสู่ขั้นตอนการสร้าง QR ของฉัน ก็เสร็จสมบูรณ์ สามารถนำคิวอาร์โค้ดที่ได้ไปใช้งานได้ทันที สามารถดูรายละเอียด K PLUS SHOP เพิ่มเติมได้ที่ www.kasikornbank.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. K-Biz Contact Center 02-8888822
นางสาวขัตติยา กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากการออกจาก Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว คาดว่าจะเกิดการกระตุ้นการใช้งานคิวอาร์โค้ดในการชำระค่าสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารฯ ประเมินว่าการชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ดจะได้รับความนิยมสูงมากจนกลายเป็นหนึ่งในช่องทางหลักของการชำระเงิน เนื่องจากสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางโมบาย แบงกิ้งสูงกว่าช่องทางอื่นๆ โดยธนาคารกสิกรไทยจะเดินหน้าโปรโมทการใช้จ่ายด้วยคิวอาร์โค้ด ในแคมเปญชื่อ ""ปิ๊บจังออนทัวร์"" ในพื้นที่หัวเมืองทั่วประเทศ เช่น เชียงใหม่ พัทยา อุดรธานี หาดใหญ่ พร้อมจัดโปรโมชั่นทั้งฝั่งร้านค้าที่ใช้ K PLUS SHOP และฝั่งลูกค้าที่จ่ายเงินด้วยฟีเจอร์คิวอาร์โค้ดของ K PLUS ดังนี้
โปรโมชั่น K PLUS SHOP สำหรับร้านค้าที่สมัครใช้งาน K PLUS SHOP จะได้รับโปรโมชั่น 2 ต่อ คือ ต่อที่ 1 รับเงินคืน 300 บาทเมื่อมียอดรับชำระอย่างน้อย200 บาท 1 รายการ ภายใน 60 วันนับจากวันที่สมัคร สงวนสิทธิ์ 1 สิทธิ์/ท่าน/ตลอดรายการ และต่อที่ 2 ""Member Get Member"" รับเงินคืนสูงสุด 5,000 บาท เมื่อแนะนำเพื่อนทางธุรกิจสมัครใช้งาน K PLUS SHOP สงวนสิทธิ์ 1 สิทธิ์/ท่าน/ตลอดรายการ และโปรโมชั่น K PLUS สำหรับผู้ใช้งาน K PLUS เมื่อใช้จ่ายด้วยคิวอาร์โค้ดครบ 300บาท/รายการ จะได้รับเงินคืน 50 บาท จำกัดจำนวนสิทธิ 1 ท่าน/เดือน ทั้งนี้ โปรโมชั่นแคมเปญ ""ปิ๊บจังออนทัวร์"" มีจำนวนจำกัด เริ่มตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2560
นอกจากนี้ ธนาคารยังร่วมกับพันธมิตรในกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ เพื่อขยายช่องทางการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด คาดว่าจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าหันมาใช้จ่ายเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเพิ่มขึ้นอีก 20% ตั้งเป้าหมาย ภายในสิ้นปี 2560 จะมีมูลค่าการรับชำระด้วยคิวอาร์โค้ดของ K PLUS SHOP กว่า 800 ล้านบาท มีร้านค้า K PLUS SHOP กว่า 200,000 ร้านค้า และเพิ่มเป็น 1,000,000 ร้านค้า ในสิ้นปี 2561
นางสาวขัตติยา กล่าวตอนท้ายว่า การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของโมบาย แบงกิ้ง ทำให้ธนาคารมุ่งพัฒนาช่องทางการทำธุรกรรมการเงินด้วยตนเองบนแอปฯ K PLUS และเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาแอปฯ สำหรับร้านค้าบน K PLUS SHOP ที่ใช้ในการรับชำระค่าสินค้าและบริการผ่าน คิวอาร์โค้ด ถือเป็นการเพิ่มช่องทางการรับชำระและเพิ่มความสะดวกสบายให้ร้านค้าและลูกค้า ตอกย้ำศักยภาพของธนาคารในฐานะผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจโมบาย แบงกิ้งที่คาดว่าจะมีลูกค้าผู้ใช้งาน K PLUSถึง 8 ล้านรายภายในสิ้นปี 2560 นี้ และเป็น 10.8 ล้านรายในสิ้นปี 2561 ภายใต้กลยุทธ์ ""Digital Cross-border Payment"" คือ การให้บริการระบบชำระเงินผ่านโมบาย แบงกิ้ง ที่ครอบคลุมทั้งลูกค้ารายย่อยทั้งกลุ่มผู้ใช้บริการชาวไทย และกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยปีละกว่า 9 ล้านคน และกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการขนาดย่อม ที่เน้นรูปแบบซื้อง่ายขายคล่อง
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit