นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER ดำเนินธุรกิจการให้บริการด้านการปฏิบัติการดูแลบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ รวมทั้งบริการ ให้คำปรึกษาด้านธุรกิจพลังงานทดแทน ประกอบด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานขยะ และพลังงานลม เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้เปิดพิธีการก่อสร้างโครงการผลิตไฟฟ้าจากโครงการพลังงานลม 2 โครงการรวมกำลังการผลิตรวม 240 เมกะวัตต์ ในเมือง Bac Lieu กำลังการผลิต 142 เมกะวัตต์ และเมือง Soc Trang กำลังการผลิต 98 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มทยอยก่อสร้างกลางปี 2561 และรับรู้รายได้ใน 2 ปีข้างหน้า (2562-2563 )
"ถือเป็นฤกษ์ดีในการลงมือดำเนินธุรกิจในต่างประเทศของ SUPER ซึ่งโครงการกังหันลม 240 เมกะวัตต์ ดังกล่าวเป็นหนึ่งในโครงการการร่วมทุนกับพันธมิตรในประเทศเวียดนาม ที่ได้มีการลงนามตกลงความร่วมมือ (MOA) พัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม ขนาดกำลังการผลิตรวม 700 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนามก่อนหน้านี้ ส่วนที่เหลือคาดว่าจะทยอยเห็นในช่วงครึ่งหลังปีนี้" นายจอมทรัพย์ กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม ขนาดกำลังการผลิตรวม 700 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนาม เฟสแรก 100 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มทยอยก่อสร้างตั้งแต่ไตรมาส 1/2561และจำนวน 40 เมกะวัตต์ น่าจะสามารถ COD ได้ในปี 2562 ขณะที่ส่วนที่เหลือจำนวน 60 เมกะวัตต์ จะ COD ได้ในปีต่อไป
" ประเทศเวียดนามถือเป็นพระเอก ที่โฟกัสในช่วง 1-2 ปีข้างหน้านี้ โดยบริษัทฯ มีความพร้อมในการด้านการลงทุน เนื่องจากปัจจุบัน SUPER มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและสถาบันการเงินพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ผมจึงวางรายได้ปีนี้เติบโตอย่างต่อเนื่องหรือโต 25% จากปีก่อน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ไม่สูงและดำเนินงานอย่างระมัดระวัง จากงานในมือที่ออกมาทั้งโครงการพลังงานลม ขยะและแสงอาทิตย์ ในประเทศและต่างประเทศที่ปีนี้เริ่มทยอยเห็นการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนงานจากต่างประเทศที่ 30% จากเดิมที่มีสัดส่วนงานในประเทศ 100% ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีของการเพิ่มช่องทางและฐานรายได้ในอนาคต" นายจอมทรัพย์ กล่าว
ทั้งนี้ เนื่องจากประเทศเวียดนามมีความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก และมีศักยภาพด้านโรงไฟฟ้าพลังงานลม ซึ่งคาดว่าจะทยอยเห็นโครงการใหม่ๆเพิ่มเติมต่อเนื่อง ผลักดันผลการดำเนินงานของบริษัทฯเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม SUPER วางแผนที่จะขยายการลงทุนในตลาดต่างประเทศอื่นๆ เพิ่มเติมด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในประเทศภูมิภาคอาเซียน ตามแผนการขยายธุรกิจ ในช่วง 3 ปีข้างหน้า (ระหว่างปี 2560-2562) สัดส่วนรายได้จะมาจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 20-30% จากปัจจุบัน 5% ขณะที่การเพิ่มรายได้จากในประเทศจะทำควบคู่ไปเช่นกัน เพื่อสนับสนุนให้มีรายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และคาดว่าในปี 2561 จะเป็นปีที่ผลประกอบการจะสะท้อนภาพการเจริญเติบโตของบริษัทตามแผนงานที่วางไว้
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit