SUPER ปักหมุดโรงไฟฟ้ากังหันลมเวียดนาม 240 MW ปูทางผงาด! ผู้นำด้านพลังงานทดแทนของเอเชีย

31 Jan 2018
เปิดศักราชใหม่ "SUPER" เปิดเกมรุกบุกตลาดต่างประเทศเต็มเหนี่ยวประเดิมลงเสาเข็มก่อสร้างโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม 2 โครงการ Bac Lieu- Soc Trang ประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิตรวม 240 เมกะวัตต์ บิ๊กบอส "จอมทรัพย์ โลจายะ" พร้อมลุยทำงานตามคำมั่นสัญญาการลงนาม MOA กับพันธมิตรเวียดนาม 700 เมกะวัตต์ ดันผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทนของเอเชีย
SUPER ปักหมุดโรงไฟฟ้ากังหันลมเวียดนาม 240 MW ปูทางผงาด! ผู้นำด้านพลังงานทดแทนของเอเชีย

นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER ดำเนินธุรกิจการให้บริการด้านการปฏิบัติการดูแลบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ รวมทั้งบริการ ให้คำปรึกษาด้านธุรกิจพลังงานทดแทน ประกอบด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานขยะ และพลังงานลม เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้เปิดพิธีการก่อสร้างโครงการผลิตไฟฟ้าจากโครงการพลังงานลม 2 โครงการรวมกำลังการผลิตรวม 240 เมกะวัตต์ ในเมือง Bac Lieu กำลังการผลิต 142 เมกะวัตต์ และเมือง Soc Trang กำลังการผลิต 98 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มทยอยก่อสร้างกลางปี 2561 และรับรู้รายได้ใน 2 ปีข้างหน้า (2562-2563 )

"ถือเป็นฤกษ์ดีในการลงมือดำเนินธุรกิจในต่างประเทศของ SUPER ซึ่งโครงการกังหันลม 240 เมกะวัตต์ ดังกล่าวเป็นหนึ่งในโครงการการร่วมทุนกับพันธมิตรในประเทศเวียดนาม ที่ได้มีการลงนามตกลงความร่วมมือ (MOA) พัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม ขนาดกำลังการผลิตรวม 700 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนามก่อนหน้านี้ ส่วนที่เหลือคาดว่าจะทยอยเห็นในช่วงครึ่งหลังปีนี้" นายจอมทรัพย์ กล่าว

ทั้งนี้ ในส่วนการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม ขนาดกำลังการผลิตรวม 700 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนาม เฟสแรก 100 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มทยอยก่อสร้างตั้งแต่ไตรมาส 1/2561และจำนวน 40 เมกะวัตต์ น่าจะสามารถ COD ได้ในปี 2562 ขณะที่ส่วนที่เหลือจำนวน 60 เมกะวัตต์ จะ COD ได้ในปีต่อไป

" ประเทศเวียดนามถือเป็นพระเอก ที่โฟกัสในช่วง 1-2 ปีข้างหน้านี้ โดยบริษัทฯ มีความพร้อมในการด้านการลงทุน เนื่องจากปัจจุบัน SUPER มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและสถาบันการเงินพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ผมจึงวางรายได้ปีนี้เติบโตอย่างต่อเนื่องหรือโต 25% จากปีก่อน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ไม่สูงและดำเนินงานอย่างระมัดระวัง จากงานในมือที่ออกมาทั้งโครงการพลังงานลม ขยะและแสงอาทิตย์ ในประเทศและต่างประเทศที่ปีนี้เริ่มทยอยเห็นการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนงานจากต่างประเทศที่ 30% จากเดิมที่มีสัดส่วนงานในประเทศ 100% ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีของการเพิ่มช่องทางและฐานรายได้ในอนาคต" นายจอมทรัพย์ กล่าว

ทั้งนี้ เนื่องจากประเทศเวียดนามมีความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก และมีศักยภาพด้านโรงไฟฟ้าพลังงานลม ซึ่งคาดว่าจะทยอยเห็นโครงการใหม่ๆเพิ่มเติมต่อเนื่อง ผลักดันผลการดำเนินงานของบริษัทฯเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

อย่างไรก็ตาม SUPER วางแผนที่จะขยายการลงทุนในตลาดต่างประเทศอื่นๆ เพิ่มเติมด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในประเทศภูมิภาคอาเซียน ตามแผนการขยายธุรกิจ ในช่วง 3 ปีข้างหน้า (ระหว่างปี 2560-2562) สัดส่วนรายได้จะมาจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 20-30% จากปัจจุบัน 5% ขณะที่การเพิ่มรายได้จากในประเทศจะทำควบคู่ไปเช่นกัน เพื่อสนับสนุนให้มีรายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และคาดว่าในปี 2561 จะเป็นปีที่ผลประกอบการจะสะท้อนภาพการเจริญเติบโตของบริษัทตามแผนงานที่วางไว้