รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ญี่ปุ่นนับเป็นอย่างของประเทศที่มีการพัฒนา ด้านเศรษฐกิจ สังคมและสภาพแวดล้อม แต่ยังคงสามารถอนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิมและสภาพแวดล้อม ทางธรรมชาติเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเห็นได้จากการมีโบราณสถานและชุมชนเก่าแก่ตั้งอยู่ท่ามกลางเมือง ยุคใหม่เช่นเดียวกับประเทศไทย อันเป็นสิ่งที่แสดงถึงความคล้ายกันของสองประเทศ ทั้งนี้ญี่ปุ่นมีความโดดเด่นด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรม วิถีชีวิตและชุมชนดั้งเดิม ทำให้มีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติอยู่มากมาย จูงใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวชม ช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศ อาทิ โบราณสถาน ชุมชนเก่าร้านอาหารอร่อยและร้านขนมเก่าแก่ รวมถึงมีการอนุรักษ์ต้นไม้โบราณโดยประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของชาติ ซึ่งได้นำแนวทางดังกล่าวมาปรับใช้ในการดำเนินโครงการต่างๆ ของ วธ. เพื่อให้เกิดการอนุรักษ์ สืบสานวัฒนธรรมไทยช่วยสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและประชาชน อาทิ โครงการรุกขมรดกแห่งแผ่นดิน ใต้ร่มพระบารมี โครงการถนนสายวัฒนธรรมและตลาดวัฒนธรรม โครงการร้านอาหารอร่อย 100 ปี เป็นต้น
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นมีพิพิธภัณฑ์อยู่ทั่วประเทศ ซึ่งพิพิธภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นควรที่จะเข้าไปศึกษาหาความรู้อย่างมาก 3 แห่ง ได้แก่ เนชั่นแนลมิวเซียมออฟ เทคโนโลยี เมืองโอซาก้าจัดแสดงผลงานด้านมนุษยวิทยาในยุคก่อนประวัติศาสตร์ยุคประวัติศาสตร์และยุคใหม่ทั่วโลก และเมจิมุระมิวเซียม เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแสดงสถาปัตยกรรมประวัติศาสตร์และสิ่งของในยุคเมจิ รวมถึงเอโดะ-โตเกียวมิวเซียม จัดแสดงประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของเมืองโตเกียวในยุคเอโดะจนถึงปัจจุบัน มีนิทรรศการประจำจัดแสดงแบบจำลอง อาทิ สะพานนิฮมบะชิโรงละครสมัยเอโดะ เป็นต้น ซึ่งเป็นแบบอย่างของพิพิธภัณฑ์ที่แสดงความเป็นมาของการสร้างเมืองให้แก่ประเทศต่างๆ ได้เป็นอย่างดี