ตัวเลขยอดส่งมอบรถยนต์ใหม่รวมทั้งสิ้น 5,390 คันในภูมิภาคนี้ จะนับเป็นการนับรวมผลงานจากประเทศไต้หวันในฐานะตลาดที่อยู่ภายใต้การบริหารของปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิค เป็นปีสุดท้าย ตั้งแต่ปีใหม่นี้เป็นต้นไป ปอร์เช่ได้ดำเนินการจัดตั้งหน่วยงานในการกำกับดูแลขึ้นใหม่ในประเทศไต้หวัน โดยจะรับบทบาทหน้าที่ในการส่งเสริมและรักษาอัตราการเจริญเติบโตผ่านการปฏิบัติงานของหน่วยงานอิสระแต่ยังคงประสานงานอย่างใกล้ชิดกับต้นสังกัดเดิมเนื่องจากประเทศไต้หวันได้กลายมาเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่ม ทั้งนี้ในส่วนของประเทศสิงคโปร์และประเทศเวียดนามนั้นถือเป็นอีก 2 ประเทศที่มีส่วนสำคัญในการสร้างผลงานยอดขายในปี 2017 ด้วย
ปอร์เช่ มาคันน์ (Porsche Macan) ยังคงเป็นรถรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดในภูมิภาคนี้ เห็นได้ชัดจากยอดจำหน่ายที่สูงกว่า 2,375 คัน เช่นเดียวกับ คาเยนน์ (Cayenne) ที่ถึงแม้จะเพิ่งเปิดตัวรุ่นใหม่ไปด้วยระยะเวลาไม่นานนัก แต่กลับสามารถสร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจด้วยตัวเลขยอดส่งมอบถึง 1,377 คัน กับอีกหนึ่งตำนานยนตรกรรมสปอร์ตพันธุ์แท้รุ่นอมตะตลอดกาลอย่างปอร์เช่ 911 (Porsche 911) ก็ไม่น้อยหน้ารุ่นน้องด้วยฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นที่ยอดจำหน่าย 367 คัน ยิ่งไปกว่านั้นส่วนใหญ่ของสุดยอดรถสปอร์ตรุ่นนี้เหล่าผู้นิยมชมชอบในความแรงให้การต้อนรับเป็นอย่างดีคือรุ่นเรือธงสูงสุดของสายพันธุ์นั่นเอง
Arthur Willmann กรรมการผู้จัดการคนใหม่ของปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิค ได้แสดงความคิดเห็นไว้ว่า "เราทุกคนรู้สึกยินดีกับผลงานอันยอดเยี่ยมในปี 2017 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะเสียงตอบรับที่ดีจากพานาเมร่ารุ่นใหม่ (The new Panamera)ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค นี้ สำหรับในปี 2018 เราจะพยายามรักษาผลงานให้เป็นปีแห่งความสำเร็จอย่างงดงามต่อเนื่องไปอีกปี การมาถึงของ คาเยนน์ ใหม่ นั้น(The new Cayenne) ก่อให้เกิดแรงผลักดันและสร้างกระแสความสนใจให้แก่ตลาดของเรา รวมทั้งยนตรกรรมสปอร์ตในรุ่นอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความน่าตื่นเต้นเร้าใจ อาทิ พานาเมร่า สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera Sport Turismo) ติดตั้งขุมพลังไฮบริด ซึ่งสะท้อนภาพของแนวคิดในการพัฒนายานพาหนะพลังงานทางเลือกอย่าง Porsche E-Performance"
"มองไปในอนาคตข้างหน้า ผมรู้สึกถึงศักยภาพที่ดีเยี่ยมของตลาดในเอเชีย แปซิฟิค แน่นอนว่าภูมิภาคนี้คือหนึ่งในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความสำคัญและตอบรับกับแผนกลยุทธ์การดำเนินงานที่มุ่งเน้นไปในทิศทางการเติบโตของยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารล้ำยุคในรถยนต์ ผมแทบจะทนรอสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ไม่ไหว" เขากล่าวทิ้งท้าย
เกี่ยวกับ ปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิค
ปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิค เริ่มดำเนินงานอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2001 ก่อตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการทำหน้าที่ควบคุมดูแลการปฏิบัติงานในตลาดภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิคอย่างใกล้ชิด โดยปอร์เช่สำนักงานใหญ่มุ่งเน้นในการเสริมสร้างความสัมพันธ์รวมทั้งให้ความช่วยเหลือผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ทั้งในด้านของงานบริการ การพัฒนาธุรกิจ การตลาด การสื่อสารมวลชนและประชาสัมพันธ์ รวมทั้งงานขาย ปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิค รับบทบาทในการประสานงานครอบคลุม 12 ประเทศในภูมิภาค ประกอบด้วย บรูไน, กัมพูชา, เฟรนช์ โพลีนีเซีย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, มองโกเลีย, นิว คาลิโดเนีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ศรีลังกา, ไทย และเวียดนาม ผลงานในปี 2017ปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิค สามารถส่งมอบรถยนต์จำนวน 5,390 คัน ให้แก่ลูกค้า ซึ่งประกอบด้วย ปอร์เช่ 911 (Porsche 911), คาเยนน์ (Cayenne), มาคันน์ (Macan), พานาเมร่า (Panamera), 718 บ็อกซเตอร์ (718 Boxster) และ 718 เคย์แมน (718 Cayman)
เกี่ยวกับ AAS Auto Service
ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่าง เป็นทางการ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการ ทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามี จำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 12 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึง ความสำคัญ ในเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกร ของเราให้มีคุณภาพสูงสุด ตามนโยบาย หลักของบริษัทที่ว่า "เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR" เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า "AAS The Name you can Trust" ซึ่งพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit