3 ผู้เสียหายเปิดใจ ในรายการเจาะประเด็น หลังยื่นฟ้อง ยิ่งยง ยอดบัวงาม

05 Feb 2018
จากกรณีผู้เสียหาย 13 ราย รวมตัวกันยื่นฟ้องบริษัท แทนคุณแผ่นดินสยาม จำกัด และ นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ยิ่งยง ยอดบัวงาม และพวก ใน คดีฉ้อโกงชาวบ้านจากการขายสินค้าและผลิตภัณฑ์เกษตร โดยศาลตัดสินจำคุกลูกทุ่งดัง"ยิ่งยง ยอดบัวงาม" เป็นเวลา 20 ปี พร้อมพวกอีก 2 คน ก่อนพิจารณาให้ประกันตัว ตีราคาประกันคนละ 500,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศนั้น ล่าสุด เมื่อวันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561 ได้มีผู้เสียหาย1ใน 13 คน ทั้งหมด 3 ราย คุณเจี๊ยบ คุณแดง และ คุณอ้อย (ใช้นามสมมติ) มาให้ข้อเท็จจริงกับทางรายการ เจาะประเด็น ทาง ช่อง 8 โดยมี "ต่วย-ภคพงศ์ อุดมกัลยารักษ์ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ เกี่ยวกับการเข้าไปลงทุนกับผลิตภัณฑ์เกษตรดังกล่าว
3 ผู้เสียหายเปิดใจ ในรายการเจาะประเด็น หลังยื่นฟ้อง ยิ่งยง ยอดบัวงาม

ขอถามข้อเท็จจริงกับผู้เสียหายว่าได้รู้จักกับบริษัทนี้ได้อย่างไร และไปลงทุนในลักษณะใดบ้าง

ผู้เสียหายรายที่ 1 : มีคนมาชักชวนให้เราซื้อปุ๋ยมาใช้ ซึ่งอาชีพของพี่ไม่ได้ทำเกษตรมาก่อน และที่เราตัดสินใจลองซื้อปุ๋ยมาใช้เพราะเห็นว่าคุณยิ่งยงมาลงทุนทำปุ๋ย แล้วพอซื้อมาใช้ครั้งแรก ใช้แล้วมันก็ดี แล้วคนที่ชักชวนเราเค้าก็บอกว่า หรือจะอยากลงทุนเยอะๆก็ได้นะแบบฝากขาย และให้เอาเงินไปลงทุนแบบไม่ต้องเอาปุ๋ยมาใช้ เป็นการลงเงิน แล้วจะได้ผลตอบแทนตามที่บริษัทกำหนดให้ค่ะเป็นเปอร์เซ็น แล้วถ้าเราไปชักชวนคนอื่นๆให้มาลงทุน เราก็จะได้ผลตอบแทนเป็นขั้นบันได ครั้งแรกลงทุนประมาณหลักแสน แล้วจะได้ผลตอบแทนประมาณ 10 เปอร์เซ็นต่อเดือนค่ะ

มาที่ผู้เสียหายคนที่ 2 คุณแดง (นามสมมติ) ว่าได้ไปลงทุนกับบริษัทนี้ได้อย่างไรครับ

ผู้เสียหายรายที่ 2 : ช่วงแรกมีเพื่อนมาแนะนำว่าคุณยิ่งยงมาทำตลาดขายตรงปุ๋ย เราเลยลงทุนเพราะเห็นว่าคุณยิ่งยงมาลงทุนและเป็นพรีเซ็นเตอร์ เบื้องต้นก่อนจะลงทุนก็เปิดเวปไซต์หาข้อมูล เราก็เลยรู้ว่าคุณยิ่งยงเป็นเจ้าของบริษัท แทนคุณแผ่นดินสยาม ครั้งแรกก็ซื้อปุ๋ยของบริษัทนี้มาใช้ค่ะ พอใช้ช่วงแรกก็ใช้ดีเราก็ซื้อมาใช้แล้วจะได้รับส่วนลด ทำให้เราได้ราคาปุ๋ยที่ถูกลง เราก็โอเค พอเราใช้ดี มีการบอกต่อแนะนำ เราก็จะได้เงินที่เป็นค่าตอบแทนจากการแนะนำ โดยได้ลงเงินไปเป็นหลักแสน และมีได้รับผลตอบแทนเป็น 2 ส่วน ก็คือ ลงเงิน และ บอกต่อแนะนำค่ะ

แล้วเริ่มมาสังเกตอย่างไรว่าบริษัทนี้มีความผิดปกติ

คุณแดง ผู้เสียหายรายที่ 2 : ช่วงแรกก็ไม่ได้มีความผิดปกติ คนที่ลงทุนได้รับค่าตอบแทนดีมาก เราก็เริ่มชักชวนคนอื่นๆมาลงทุน แต่พอผ่านไปสักระยะหนึ่งแล้ว ปุ๋ยที่ซื้อไปใช้กันเริ่มจะไม่เห็นผล เลยมีเริ่มแนะนำมาให้มาลงทุนแบบเป็นการฝากขาย ไม่ต้องซื้อสินค้า โดยพอหลังจากฝากขายได้ครบ 365 วัน ก็จะมีเงินตอบแทน ให้ 6 เปอร์เซ็น พอหลังจากครบกำหนดสัญญาของการฝากขาย สมาชิกที่ไปลงทุนก็ไม่ได้ส่วนแบ่ง แต่ก็ยังมีการชักชวนให้ลงทุนต่อ แล้วบริษัทก็เริ่มมีปัญหาประมาณ 2557 ตรงทีบริษัทเริ่มไม่มีสินค้าให้ เราก็เลยขอเจรจาและติดตามหลายครั้ง แต่ก็ตกลงกับทางบริษัทไม่ได้ แล้วสุดท้ายบริษัทก็ปิดตัวลงแบบที่เป็นข่าวค่ะ

คุณอ้อย ผู้เสียหายรายที่ 3 : ขั้นตอนเหมือนกันเลยค่ะ แต่ไม่ได้เอาปุ๋ยมาใช้ ลงทุนเป็นเงินและฝากขายอย่างเดียว ครั้งแรกได้ผลตอบแทน พอครั้งที่ 2 เลยตัดสินใจลงทุนอีก หลังจากนั้นก็คอยตรวจสอบยอดเงินค่าตอบแทนในเวปไซต์ของบริษัท แล้วจู่ๆก็ลบหายไป ก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น มารู้อีกทีเลยทราบว่าบริษัทปิดไปแล้วค่ะแสดงว่าหลังจากนั้นบริษัทก็ได้ปิดตัวไปทางผู้ลงทุนก็ไม่ได้เงินคืนตามที่หวังไว้ ขอสอบถามเพิ่มเติมครับว่า ทางพวกคุณเชื่อหรือไม่ว่าคุณยิ่งยงมีส่วนเกี่ยวข้อง

ผู้เสียหายทั้ง 3 คน : เชื่อค่ะเพราะเค้าแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของบริษัท เป็นประธาน และยังถือหุ้นอยู่ในบริษัทนั้นอีก 50 เปอร์เซ็น แล้วที่เรากล้ามาลงทุนกับบริษัทนี้เพราะเห็นว่ายิ่งยงเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมีความน่าเชื่อถือ และไม่คิดว่าเค้าจะมาหลอกลงประชาชน ประเด็นสำคัญที่เราลงทุนไปเป็นเพราะคุณยิ่งยงคนเดียวเลยค่ะ

จากกรณีคดีดังกล่าวอยากสอบถามทาง คุณ สามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ธุรกิจนี้ว่าเป็นการขายตรงหรือแชร์ลูกโซ่ หรือเปล่าครับ

คุณสามารถ : ต้องขอบอกตรงนี้ก่อนเลยว่าปุ๋ยจดทะเบียนขายตรงไม่ได้ ฉะนั้นสินค้าเค้าก็เลยเป็นน้ำมันรำข้าว ไม่รู้ว่าเค้าได้บอกสมาชิกรึเปล่า

ผู้เสียหายทั้ง3 คน : ทางบริษัทไม่ได้แจ้งว่าสินค้าเป็นน้ำมันรำข้าว แต่แจ้งว่าสินค้าคือปุ๋ย

คุณสามารถ : แสดงว่ามีการปกปิดข้อมูลข้อเท็จจริง ทำให้ศาลพิจารณาว่าคุณยิ่งยงกับพวกร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยธุรกิจนี้ไม่ใช่ธุรกิจขายตรงแน่นอน เพราะปุ๋ยไม่สามารถจดทะเบียนเป็นแบบขายตรงได้ ดังนั้น การที่เจ้าของบริษัทจะชวนให้คนมาลงทุนเพื่อแบ่งปันส่วนแบ่งก็จะทำไม่ได้ ซึ่งถ้ามีผู้เสียหายร้องมาที่เรา เราก็จะต้องตั้งก่อนว่าผิดพรบ.ขายตรง ส่วนจะเป็นแชร์ลูกโซ่หรือไม่นั้น ก็ต้องดูว่ามีการชักชวนสมาชิกมาลงทุน และมีการการันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้รับหรือไม่ เพื่อให้รู้ว่ามันผิดพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนหรือเปล่า ซึ่งต้องให้ผู้เสียหายนำหลักฐานเอกสารมายืนยันอีกครั้งครับ โดยสินค้าใดใดก็แล้วแต่ถ้าสคบ.ไม่รับจด บริษัทนั้นๆก็ไม่สามารถที่จะไปบอกกับสมาชิกหรือประชาชนได้ อีกทั้งปุ๋ยไม่สามารถจดได้เพราะจะมีพรบ.ปุ๋ยต่างหาก ดังนั้นจึงไม่เข้าข่ายการขายตรง แต่ต้องดูว่ากรณีนี้เข้าข่ายพรก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนหรือเปล่า โดยปกติแล้วศาลไม่สามารถจะพิพากษาในคดีพรก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนได้อยู่แล้ว เพราะพรก.นี้รัฐต้องเป็นคนฟ้องครับ

ทั้งนี้ ทางรายการ เจาะประเด็นได้โฟนอิน คุณฮาย อาภาพร นครสวรรค์ เพื่อนสนิทของคุณยิ่งยงหลังจากที่พี่ฮายทราบเรื่องของพี่ยิ่งยงแล้วเป็นยังไงบ้าง

ฮาย อาภาพร : ตกใจมากๆเลยค่ะ เพราะไม่เคยมีวี่แววว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกว่าจะติดต่อคุณยิ่งยงได้ตอนนั้นก็ตอนเย็นแล้ว

พี่ยิ่งยงเคยเล่าให้ฟังมั้ยว่าได้เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างไร

ฮาย อาภาพร : เคยเล่าแค่ว่าเค้ากำลังจะเข้าไปทำกับบริษัทขายปุ๋ยนะ คือ เราก็รู้มาว่าแกทำหลายตัว พี่ยิ่งยงเป็นคนขยัน ทำนู้นทำนี้ตลอด

แล้วทางพี่ยิ่งยงได้บอกมั้ยว่าตัวพี่เค้าเป็นพรีเซ็นตอร์

ฮาย อาภาพร : ไม่ทราบเลยค่ะ และยังไมได้มีโอกาสคุยกับคุณยิ่งยงเลย

ในฐานะที่พี่ฮายเป็นนักร้องมีชื่อเสียงและเคยเป็นพรีเซ็นเตอร์ มีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้

ฮาย อาภาพร : สำหรับพี่เป็นพรีเซ็นเตอร์ก็คือเป็นพรีเซ็นเตอร์เลย จะไม่เคยเกี่ยวข้อกับการบริหารอะไรเลย แบบนี้พี่ไม่เคยทำ ค่ะ

ทั้งนี้ทางผู้เสียหายได้กล่าวว่า สาเหตุที่ได้ออกมาฟ้องร้องคุณยิ่งยงเพียงต้องการเงินที่ลงทุนไปคืน ไม่ได้มีเจตนาจะทำลายชื่อเสียงแต่อย่างใด เพราะส่วนตัวทุกคนก็เป็นแฟนเพลงของคุณยิ่งยงเหมือนกัน

สามารถติดตามรายการ เจาะประเด็น ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.00-13.45 น.ทาง ช่อง 8 เข้มทุกเรื่องราว สุดทุกอารมณ์

HTML::image( HTML::image(