นพ.พีรพล สุทธิวิเศษศักดิ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) กล่าวในการบรรยายเรื่อง "ระบบวิจัยสุขภาพกับการพัฒนาประเทศ" ว่า ประเทศที่มีระบบสุขภาพหรือระบบสาธารณสุขที่ดีเป็นไปตามหลักสากล ซึ่งองค์กรอนามัยโลก (WHO) ได้ให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ใน 4 เรื่อง คือ 1) ประชากรของประเทศนั้นๆ จะต้องมีสุขภาพดี อัตราการเสียชีวิตน้อย อายุยืนควบคู่ไปกับการมีสุขภาพแข็งแรง 2) ระบบสุขภาพตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน เช่น การจัดให้มีแพทย์ประจำครอบครัวบริการประชาชนอย่างใกล้ชิด 3) การปกป้องไม่ให้ประชาชนล้มละลายจากค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพหรือการเจ็บป่วย และ 4) การจัดการระบบสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยนำไปสู่ระบบสุขภาพที่ดีได้ คือ การที่ประชาชนจะต้องเข้าถึงระบบบริการได้อย่างครอบคลุมทั่วถึง และการมีระบบบริการที่ปลอดภัยมีคุณภาพ ซึ่งการจะทำให้เกิดผลลัพธ์ในเชิงระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ การวิจัยด้านการพัฒนาระบบสาธารณสุข นับว่ามีบทบาทสำคัญในการสร้างความรู้เชิงประจักษ์เพื่อการพัฒนาระบบสุขภาพไปสู่เป้าหมายดังกล่าว
นพ.พีรพล กล่าวต่อว่า สำหรับทิศทางการวิจัยของ สวรส. ภายใต้กรอบแนวคิดระบบสุขภาพ (6 Building Blocks of Health System) และแผนงานบูรณาการวิจัยและนวัตกรรมของ สวรส. ประจำปีงบประมาณ 2562 สวรส. นั้น มุ่งเน้นที่การวิจัยเพื่อตอบสนองการปฏิรูปประเทศตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ตลอดจนนโยบายและประเด็นปัญหาสุขภาพของประเทศที่เป็นภาระสูง เป็นต้น โดยมีกรอบการวิจัย ประกอบด้วย 7 แผนงาน กับ 16 ประเด็นวิจัยที่อยู่ภายใต้แผนงานต่างๆ โดย 7 แผนงานวิจัยประกอบไปด้วย 1) แผนงานวิจัยและพัฒนาระบบยา เวชภัณฑ์ และเทคโนโลยี 2) แผนงานวิจัยและพัฒนากำลังคนด้านสุขภาพ 3) แผนงานวิจัยและพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ 4) แผนงานวิจัยและพัฒนาระบบบริการสุขภาพ 5) แผนงานวิจัยและพัฒนาการเงินการคลังสุขภาพ 6) แผนงานวิจัยและพัฒนาระบบอภิบาลสุขภาพ และ 7) แผนงานวิจัยสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ รวมทั้งการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social Determinants of Health)
ทั้งนี้ จากเวทีมีการนำเสนอสถานการณ์ปัญหาหรือช่องว่างของความรู้ที่ต้องการการวิจัยมาสนับสนุนการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาของประเทศ เช่น จากสถานการณ์ปัญหาสำคัญด้านยาพบว่า ในปี 2558 ประเทศไทยมีมูลค่าการบริโภคยารวม 162,914 ล้านบาท โดยคิดเป็นมูลค่าสัดส่วนการนำเข้ายาจากต่างประเทศสูงกว่าการผลิตในประเทศ 2 ต่อ 1 แผนงานวิจัยระบบยา เวชภัณฑ์ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ ของ สวรส. จึงเล็งเห็นว่าในระดับนโยบายควรมีการสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อการวิจัยพัฒนาและผลิตยาให้ได้ภายในประเทศ และจากสถานการณ์ปัญหาอุปสรรคในการเข้าถึงระบบบริการสุขภาพของประชากรบางกลุ่ม แผนงานวิจัยด้านการเงินการคลังสุขภาพ จึงต้องการสังเคราะห์ให้เห็นถึงสิทธิประโยชน์ของกลุ่มประชาชนที่ยังเข้าไม่ถึงบริการ รวมถึงการปรับปรุงระบบบริการให้ตอบสนองความจำเป็น และมีการเข้าถึงบริการได้เพิ่มขึ้น นอกจากนั้น แผนงานวิจัยการพัฒนากำลังคนด้านสุขภาพ ยังให้ความสำคัญกับงานวิจัยเชิงระบบเกี่ยวกับการกระจาย การพัฒนา และการธำรงกำลังคนไว้ในระบบสุขภาพ แผนงานด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ เน้นการพัฒนานวัตกรรมการแพทย์ให้ตรงความต้องการของตลาด และลดการนำเข้าของประเทศ แผนงานด้านความรอบรู้ทางด้านสุขภาพ มุ่งให้เกิดมาตรการ หรือเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะการรู้เท่าทันด้านสุขภาพ ที่สามารถพิสูจน์ได้ถึงผลลัพธ์ระยะสั้นและระยะยาว แผนงานวิจัยระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ มีความต้องการการนำ Digital Technology มาใช้ประโยชน์ในระบบสุขภาพ รวมทั้ง แผนงานวิจัยกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ มีเป้าหมายสำคัญกับการจัดการศึกษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กที่มีปัญหาสถานะไร้ที่อยู่ และความท้าทายในการเข้าถึงบริการและหลักประกันสุขภาพของคนไทยในต่างแดน เป็นต้น
ทั้งนี้ สวรส. อยู่ระหว่างเปิดรับข้อเสนองานวิจัย ประจำปี 2561 ผู้ที่สนใจสามารถส่งข้อเสนอฯ ได้จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561 นี้ สามารถดูรายละเอียดได้ทาง https://www.hsri.or.th/researcher/fund หรือโทร 02-832-9268, 02-832-9273
HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit