CHAYO ควงแขน บล. เออีซี โรดโชว์ กรุงเทพฯ ปลื้มนักลงทุนตอบรับคึกคัก

15 Feb 2018
CHAYO โรดโชว์กรุงเทพฯ นักลงทุนตอบรับคึกคัก "สุขสันต์ ยศะสินธุ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เตรียมโชว์แผนธุรกิจ ที่มีศักยภาพการเติบโตบนพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ด้าน "ชนะชัย จุลจิราภรณ์" ซีอีโอ บล. เออีซี ที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำการจัดจำหน่าย เชื่อการให้ข้อมูลนักลงทุนครั้งนี้กระแสตอบรับดีเยี่ยม คาดจะสามารถเสนอขายหุ้นไอพีโอและนำหุ้นเข้าเทรดได้ภายในปลายไตรมาส 1-2 นี้
CHAYO ควงแขน บล. เออีซี โรดโชว์ กรุงเทพฯ ปลื้มนักลงทุนตอบรับคึกคัก

นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ต่อนักลงทุน ในวันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์ 2561 นี้ ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กรุงเทพฯ เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 140 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญครั้งนี้ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) ที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ หมวดธุรกิจการเงิน ภายในปลายไตรมาส 1-2 ปีนี้

CHAYO มีประสบการณ์ในธุรกิจเจรจาติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้มาเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี ก่อนที่จะขยายธุรกิจไปยังธุรกิจลงทุนและบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพในปี 57 ต่อมาในปี 59 บริษัทฯ ได้จัดตั้งธุรกิจศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าเพิ่มเติม หลังการระดมทุนครั้งนี้จะผลักดันให้ผลประกอบการของ CHAYO เติบโตอย่างต่อเนื่องมองว่าหุ้น CHAYO เป็นหุ้น Growth Stock ที่น่าสนใจลงทุน โดยปีนี้บริษัทฯ น่าจะมีพอร์ตหนี้เข้ามาบริหารเพิ่มมากขึ้น จากการประมูลซื้อหนี้ด้อยคุณภาพทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกันเพิ่มมากขึ้นจากเงินที่ได้จากการระดมทุนในตลาดในครั้งนี้ โดย ณ สิ้นปี 2560 ที่มีพอร์ตหนี้ที่บริหาร อยู่ที่ประมาณ 2.6 หมื่นล้านบาท

"บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะสร้างการเติบโตและความยั่งยืนในธุรกิจธุรกิจลงทุนและบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ธุรกิจให้บริการเจรจาติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้ และธุรกิจศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า โดยจะมุ่งสร้างการเติบโตของรายได้ที่มาจากการลงทุนและบริหารหนี้สินที่มีหลักประกันควบคู่ไปกับหนี้สินที่ไม่มีหลักประกัน และบริการอื่นๆ ที่เป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักของบริษัทฯ ในปัจจุบัน และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการเพิ่มและขยายฐานลูกค้าในธุรกิจให้บริการ (ทั้งธุรกิจให้บริการเจรจาติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้สินและธุรกิจศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า) ให้มากขึ้น โดยจะเน้นในเรื่องของผลงานและคุณภาพการให้บริการเป็นหลัก รวมถึงการเพิ่มรายได้และความสามารถในการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง" นายสุขสันต์ กล่าว

นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ CHAYO เปิดเผยว่า การนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุน (โรดโชว์) ในครั้งนี้ เพื่อให้นักลงทุนมีความเข้าใจในธุรกิจ เห็นถึงศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯ ที่มีความแข็งแกร่ง โดยมีนักลงทุนร่วมรับฟังข้อมูลล้นหลามแสดงให้เห็นถึงความสนใจในธุรกิจของบริษัทฯ และเห็นถึงโอกาสและศักยภาพในการเติบโตในอนาคต

"ผมมั่นใจว่า CHAYO จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจาก CHAYO บริหารงานโดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจหลักที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนและการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ รวมถึงการให้บริการติดตามและทวงถามหนี้ มาเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี ให้แก่สถาบันการเงินและหน่วยงานต่าง ๆ และ CHAYO ถือเป็นบริษัทฯ ที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีความน่าสนใจอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในด้านผลประกอบการที่มีความสามารถในการทำกำไรที่โดดเด่น โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) และอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ในระดับที่ดี สะท้อนให้เห็นถึงการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

CHAYO เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 140 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ โดยเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปจำนวน 105 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 21 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้บริหาร (ที่ไม่ใช่กรรมการ) และพนักงานของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 7 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 7 ล้านหุ้น และคาดว่าเข้าจดทะเบียนในตลาด เอ็ม เอ ไอ ได้ภายในปลายไตรมาส 1 – 2 ปีนี้

สำหรับผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา 2557- 2559 บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงานทั้งสิ้น 53.90 ล้านบาท 141.23 ล้านบาท และ 197.14 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นร้อยละ 162.01 ในปี 2558 และร้อยละ 39.58 ในปี 2559 ล่าสุดงวด 9 เดือน ปี 2560 บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงานรวมทั้งสิ้น 155.35 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.21 จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นมีสาเหตุมาจากการให้บริการติดตาม เร่งรัดหนี้สินที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงธุรกิจศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าซึ่งเริ่มดำเนินงานหลังจากไตรมาสที่ 3/2559 เป็นต้นมา สำหรับสัดส่วนรายได้หลักของบริษัทฯ ในงวดดังกล่าว มาจากธุรกิจลงทุนและบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพร้อยละ 78.43 ธุรกิจให้บริการเจรจาติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้ ร้อยละ 17.59 ธุรกิจศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าร้อยละ 3.74 ส่วนที่เหลือเป็นรายได้อื่นๆ ขณะที่กำไรสุทธิย้อนหลังนับตั้งแต่ปี 2557-2559 อยู่ที่ 18.81 ล้านบาท 68.94 ล้านบาท 70.89 ล้านบาท และล่าสุดกำไรสุทธิจากการดำเนินงานในงวด 9 เดือน ปี 2560 อยู่ที่ 45.27 ล้านบาท ตามลำดับ และมีอัตรากำไรขั้นต้นในปี 2557 – 2559 อยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 61.81 ร้อยละ 72.90 และร้อยละ 68.75 ตามลำดับ ส่วนงวด 9 เดือนปี 2560 อยู่ที่ร้อยละ 65.58

HTML::image(
ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit