โปโลการกุศล "แคเรียร์ - บี.กริม ไทย โปโล โอเพ่น 2018" ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
การแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการเฟ้นหาผู้เข้าแข่งขันระดับนานาชาติที่มีฝีมือ พร้อมชิงถ้วยพระราชทานในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และนำรายได้จากการจัดงานมอบให้แก่โรงเรียนจิตรลดา (สายวิชาชีพ)
ภายในงานได้มีบรรดาเหล่าเซเลบริตี้ชั้นนำของเมืองไทยที่หลงใหลในกีฬาขี่ม้าโปโล พร้อมใจกันมาเฉิดฉายประชันชุดสวยร่วมชมการแข่งขันกันอย่างคึกคัก อาทิ วี มาร์, แม่ลี - ลูกปิ๊บ พึ่งบุญพระ, มาร์ค ธาวิน, พัชรา ดุรงค์พิศิษฎ์กุล, สุธิตา เกตานนท์ โบดา, อัญชลี วิกสิตนาคกุล, กุศลิน ลัญจกรกุล, จิรันธนิน ศิริทรัพย์, สิริยส เทพหัสดิน ณ อยุธยา, ลลิสา จงบารมี ฯลฯ เรียกได้ว่าเป็นการแข่งขันขี่ม้าโปโลการกุศลที่โด่งดังและสร้างสีสันอีกรายการหนึ่งของเมืองไทย ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้นับเป็นการจัดงานอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 โดยมี มร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน กลุ่มบริษัท บี.กริม และในฐานะนายกสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย เป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดงานท่ามกลางธรรมชาติในบรรยากาศสบายๆ บนสนามแข่งม้าที่ได้มาตรฐานระดับนานาชาติและสมบูรณ์แบบที่สุดในเอเชีย บรรยากาศภายในงานมีกิจกรรมพิเศษและซุ้มการกุศลต่างๆ อาทิ การขี่ม้า Pony, โชว์ขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง, ขบวนแฟนซีเด็กบนหลังม้า, การให้อาหารม้าแคระ, นวดเท้าผ่อนคลาย ตลอดจนเพลิดเพลินกับการช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม การเล่นเกมส์ชิงรางวัลที่ผู้ร่วมงานต่างได้รับความสนุกสนานและยังได้ร่วมทำบุญอีกด้วย
ก่อนการแข่งขันคู่ชิงชนะเลิศจะเริ่มต้นขึ้นนั้น บรรดาผู้ชมและเหล่าเซเลบริตี้ทั้งหลายต่างได้ร่วมสนุกกับประเพณีปฏิบัติของกีฬาขี่ม้าโปโลที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปีที่เรียกว่า สตอมปิ้ง ดิวอทส์ (Stomping Divots) ด้วยการลงไปร่วมย่ำพื้นสนามเพื่อกลบดินและหญ้า ซึ่งจะช่วยให้พื้นสนามเรียบและแน่นขึ้น พร้อมเตรียมสนามแข่งขันในรอบชิงชัย ยังถือเป็นโอกาสให้เหล่าแขกเหรื่อที่มาร่วมงานได้อวดโฉมและพบปะพูดคุยกัน จากนั้นจึงเริ่มการแข่งขันคู่ชิงชนะเลิศระหว่างทีมเอซูส (AXUS) จากประเทศจีน พบกับทีมรอยัล ปาฮัง (ROYAL PAHANG) จากประเทศมาเลเซีย นำโดยสองเจ้าชายหนุ่มหล่อ HRH Prince Amir Nuseer และ HRH Prince Mohamad ที่การแข่งขันดำเนินไปอย่างตื่นเต้นตลอด 4 ชักก้า จนมาถึงชักก้าสุดท้ายปรากฎว่าทีม รอยัล ปาฮัง (ROYAL PAHANG) เป็นผู้คว้าแชมป์ไปด้วยคะแนน 6 ต่อ 4 คว้าถ้วยพระราชทานในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีไปครอง นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันคู่พิเศษชิงถ้วย Anniversary Cup ระหว่างทีม ไทยโปโล (THAI POLO) ของประเทศไทย พบกับทีม BR22 จากฮ่องกง ซึ่งผลการแข่งขันคือเสมอกันด้วยคะแนน 1 ต่อ 1 จึงได้รับถ้วยไปครอบครองร่วมกัน สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกอย่างหนึ่งคือการมอบรางวัลให้แก่เซเลบริตี้ที่ให้เกียรติมาเป็นสีสันในงาน โดยรางวัลประเภท Best Hat หมวกสวยงามอลังการได้แก่ พัชรธร วงศ์ทอง Best Dress ผู้ที่แต่งตัวสวยงามได้แก่ ศศิวิมล ดารารัตนโรจน์ และ Best Total Look ได้แก่ พัชรา ดุรงค์พิศิษฎ์กุล
ปิดท้ายงานด้วยการแสดงพลุไฟสวยงามบนท้องฟ้าที่สร้างความตื่นตาตื่นใจในยามค่ำคืน และอิ่มอร่อยกับดินเนอร์มื้อค่ำสุดพิเศษ พร้อมวงดนตรีขับกล่อมในบรรยากาศเย็นย่ำที่น่าประทับใจ นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมแห่งการแบ่งปันที่สนุกและอิ่มเอมใจในคราวเดียวกัน
