“อินฟอร์เมติกซ์ พลัส” บ.ลูก UPA จับมือเว็บเทรด Cryptocurrency และ ICO ของไทย TDAX เพิ่มระบบตรวจเข้ม KYC และ AML เพื่อรองรับการจำหน่าย ICO ในวัน ที่ 14 ก.พ. นี้

12 Feb 2018
TDAX (Thailand Digital Assets Exchange) เพิ่มความพร้อมด้านระบบยืนยันตัวตน (KYC - Know Your Customer) และการป้องกันการฟอกเงิน (AML - Anti-Money Laundering) ตามนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันการการฟอกเงิน โดยร่วมมือกับ สองพันธมิตรด้านเทคโนโลยี eKYC และ Biometric ที่พัฒนาโดย "อินฟอร์เมติกซ์ พลัส" บ.ลูก UPA และ Creden.co เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ในการระบุตัวตนลูกค้า และตรวจสอบธุรกรรม ที่เกิดขึ้นภายใต้บริการของ TDAX. และเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า สำหรับการจำหน่าย ICO ที่จะเกิดขึ้นในวัน ที่ 14 กุมภาพันธ์นี้
“อินฟอร์เมติกซ์ พลัส” บ.ลูก UPA จับมือเว็บเทรด Cryptocurrency และ ICO ของไทย TDAX เพิ่มระบบตรวจเข้ม KYC และ AML เพื่อรองรับการจำหน่าย ICO ในวัน ที่ 14 ก.พ. นี้

นายสุวัฒน์ อินมุตโต กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินฟอร์เมติกซ์ พลัส จำกัด บริษัทลูกของ บมจ.ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย (UPA) เปิดเผยว่าอินฟอร์เมติกซ์พลัส เปิดให้บริการด้าน Biometric ที่เป็นการยืนยันตัวตน ด้วยภาพใบหน้า ซึ่งเป็นรูปแบบ ที่สำคัญในการยืนยันตัวตนสำหรับกระบวนการการทำธุรกรรมผ่านระบบอินเตอร์เน็ต และ Mobile Platform Mozer จากเดิมที่ให้บริการหน่วยงานภาครัฐ เช่น บริษัท กสท.โทรคมนาคม จำกัด มหาชน หรือ CAT Telecom ได้นำ ระบบ Face recognition ของบริษัทไปใช้ในงานสำคัญมากมายและเป็นที่พิสูจน์แล้วว่านวัตกรรมของไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก

นอกจากนี้ยังนำ algorithm ของไทยเอง ไปบริการในรูปแบบ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ และบริษัทได้นำเทคโนโลยี Bio Cloud (Cloud Biometric Datacenter) ที่ใช้อัลกอริธึม Face Recognition ของเราเอง พัฒนามาสนับสนุน TDAX ที่เป็นนวัตกรรมของประเทศที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain และปัจจุบันสถาบันการเงินต่างๆ เมื่อมีการทำธุรกรรม รายการต่างๆ ในโลกออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันจะต้องมีกระบวนการ จัดเก็บ ลงทะเบียน (Enrollment) เข้ารหัส อัลกอริธึม (Encryption) ตรวจเปรียบเทียบ (Matching) เพื่อให้สามารถระบุตัวตน (Identification) และพิสูจน์ตัวตน (Verification) ได้ในเวลาเดียวกัน ดังนั้นจึงเกิดความร่วมมือในครั้งนี้ขึ้น เพื่อให้ระบบการทำงานมีประสิทธิภาพและอำนวยความสะดวก แม่นยำให้กับลูกค้าในการเข้ามาใช้บริการ

นายปรมินทร์ อินโสม กรรมการผู้จัดการ TDAX และผู้ก่อตั้งเหรียญ Zcoin และ Satang เปิดเผยว่าในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 เว็บไซต์ TDAX จะเปิดจำหน่าย ICO (Initial Coin Offering) ให้กับลูกค้าผ่านทางเว็บไซต์เป็นครั้งแรก ซึ่งตระหนักว่าทั่วโลก รวมถึง ประเทศไทยเองให้ความสำคัญ และมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องการเทรดสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) และการจำหน่าย ICO ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินนั้น ทางเราจึงร่วมมือกับสองบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้าน eKYC และ Face Recognition and Comparison ซึ่งจะนำมาใช้ยืนยันตัวตนลูกค้า อย่างเคร่งครัด ด้วยความท้าทายนี้ทำให้ทาง TDAX เพิ่มระบบใหม่ในการ KYC และ AML เข้ามาให้บริการลูกค้าอีกด้วย

นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผุ้จัดการและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ บริษัท TARAD.com เปิดเผยว่าได้เปิดตัว Startup ชื่อ Creden.co เป็นบริการระบบยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์ (eKYC) และการประเมินลูกค้าออนไลน์ (Online Credit Scoring) สัญชาติไทย เป็นสตาร์ทอัพ ด้านระบบยืนยันตัวตน (eKYC) และประเมินลูกค้าทางออนไลน์ (Credit Scoring) ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา ภายใต้โครงการบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพของทางดีแทค หรือ Dtac Accelerate รุ่นที่ 5 และได้รับการสนับสนุนการลงทุนจากดีแทคและกลุ่มตระกูลกองบุญมา ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการเงินการธนาคารของไทยมานานอีกด้วย

ทั้งนี้ด้วยความสามารถของ Creden.co คือการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Big Data มาใช้ โดยการนำข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ในโลกออนไลน์และจากองค์กรต่างๆ มารวมเป็น Big Data เพื่อวิเคราะห์และยืนยันความถูกต้องด้วยเทคโนโลยี Blockchain ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถระบุยืนยันลูกค้าได้อย่างแม่นยำและปลอดภัยตามกฏหมาย นอกจากนี้ยังนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการจัดเก็บ เพื่อให้ข้อมูลทั้งหมดมีความปลอดภัยในระดับสูงอีกด้วย

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit