จากผลการศึกษาถึงปัจจัยที่ขัดขวางการลาพักร้อนนั้นเพิ่มขึ้นทั่วโลก ในปี 2560 กลุ่มผู้ใหญ่ที่ทำงานเต็มเวลาทั่วโลกรู้สึกว่าไม่อยากลาหยุดพักร้อนมีจำนวนร้อยละ 53 เพิ่มขึ้นกว่าปี 2559 ที่มีจำนวนร้อยละ 49 อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับอเมริกาและยุโรป ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังเป็นผู้นำในเรื่องที่คนไม่ใช้วันลาพักร้อนเพื่อหยุดพักผ่อน โดยกลุ่มคนทำงานในประเทศเกาหลีใต้มีจำนวนมากที่สุดถึงร้อยละ 81 ที่รู้สึกว่าพวกเขาถูกลิดรอนวันลาพักร้อน รูปที่ 1. กราฟแสดงข้อมูลของผู้ใหญ่ที่ทำงานเต็มเวลาที่รู้สึกว่าถูกลิดรอนวันลาพักร้อนมากที่สุดใน 30 ประเทศทั่วโลก
นายจ้างไทยสนับสนุนให้มีวันลาพักร้อนประจำปีเพิ่มขึ้น แต่ลูกจ้างยังคงใช้วันลาพักร้อนน้อยกว่าที่กำหนดจากการศึกษาข้อมูลเชิงลึกพบว่าเหตุผลจริงๆ ที่ทำให้ลูกจ้างประจำชาวไทยรู้สึกว่าเขาไม่ได้ใช้วันลาพักร้อนประจำปีอย่างเต็มที่มีถึงร้อยละ 51 ของจำนวนลูกจ้างประจำที่ใช้วันลาพักร้อนเพียง 2-3 วันต่อปี ซึ่งน้อยกว่าวันลาพักร้อนประจำปีที่พวกเขาได้รับ โดยที่เหตุผลนั้นก็ไม่ใช่ว่านายจ้างไม่สนับสนุน
ที่จริงแล้ว ลูกจ้างคนไทยจำนวนร้อยละ 55 เห็นด้วยที่นายจ้างของพวกเขาให้การสนับสนุนการลาหยุดพักร้อน ซึ่งลูกจ้างส่วนใหญ่จะใช้วันลาพักร้อนโดยเฉลี่ย 8 วันต่อปี ซึ่งน้อยกว่าวันหยุดประจำปีที่พวกเขาได้รับโดยเฉลี่ย 10 วัน ต่อปี ด้วยเหตุผลส่วนใหญ่คือ:
คนทำงานส่วนใหญ่ในหลากหลายสาขาอาชีพต่างถูกลิดรอนวันลาพักร้อน บ้างก็ให้เหตุผลว่าเพราะขาดรายได้และอีก หลายคนบอกว่าเขาไม่สามารถหยุดงานได้
หนึ่งในสามของลูกจ้างประจำทั่วโลกใช้วันลาพักร้อนน้อยกว่าที่พวกเขาได้รับ ใกล้เคียงกับผลสำรวจที่พบในปี 2559 ลูกจ้างชาวเอเชียค่อนข้างมากจะทิ้งวันลาพักร้อนของตัวเองไว้ที่โต๊ะทำงาน ในจำนวนนั้นเป็นชาวญี่ปุ่นร้อยละ 65 ชาว มาเลเซียร้อยละ 63 และชาวอินเดียร้อยละ 55 ซึ่งส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะใช้วันลาพักร้อนน้อยกว่าที่พวกเขาได้รับ ลูกจ้างจำนวนมากให้เหตุผลว่า พวกเขามีงานยุ่งมากเกินกว่าที่จะจัดสรรเวลาไปใช้วันหยุดได้หมด ซึ่งกรณีนี้ส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างชาวเกาหลีใต้ร้อยละ 70 ชาวอินเดียร้อยละ 64 และชาวญี่ปุ่นร้อยละ 62 อาชีพที่ถูกลิดรอนวันหยุดมากที่สุดได้แก่:
อาชีพที่รายงานระบุว่าไม่สามารถหาเวลาว่างจากการทำงานได้คือ งานด้านการเงินและกฎหมาย ร้อยละ 39 การลาพักร้อนไม่ใช่เรื่องที่ต้องรอแพทย์สั่ง
การลาหยุดพักผ่อนประจำปีนั้นมีประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพและภาวะทางอารมณ์อย่างมาก โดยจำนวน 2 ใน 3 ของลูกจ้างทั่วโลกบอกว่าพวกเขากลับมาทำงานด้วยความรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งลูกจ้างที่อยู่ในประเทศกำลัง พัฒนาส่วนใหญ่บอกว่าพวกขารู้สึกว่าพวกเขาทำงานได้อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้นหลังจากลาพักร้อน โดยชาวบราซิล มีจำนวนมากถึงร้อยละ 70 ชาวอินเดียร้อยละ 66 และชาวเอมิเรตร้อยละ 60
ทัศนคติที่ดีขึ้นก็ส่งผลให้คนในหลายๆ ประเทศลาพักผ่อนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเม็กซิโกมีจำนวนร้อยละ 64 อาร์เจนตินาร้อยละ 62 สหรัฐอเมริการ้อยละ 60 และอินเดียร้อยละ 59 จำนวนครึ่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวทั่วโลกยังรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นและมีจำนวนสูงขึ้นที่กล่าวถึงข้อดีเรื่องนี้ โดยในทวีปเอเชียนั้น ชาวไทยสูงเป็นอันดับหนึ่งร้อยละ 66 ชาวอินเดียร้อยละ 65 และไต้หวันร้อยละ 64
ลูกจ้างในทวีปเอเชียจำนวนมากมีแนวโน้มและความคิดว่าควรจะนับ "วันสุขภาพจิต (mental health day)" รวมเป็น วันหยุดพักผ่อนประจำปี ซึ่งลูกจ้างที่มีแนวคิดที่ชัดเจนด้านนี้เป็นชาวไต้หวันร้อยละ 80 ชาวเกาหลีใต้ร้อยละ 77 และ ชาวไทยร้อยละ 73
คุณหมอกริช - นพ. สกิทา ม่วงไหมทอง คุณหมอพิธีกรรายการ "The Dr. Oz by Siriraj หรือ เดอะ ดร. ออซ ไทยแลนด์" แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสุขภาพและประโยชน์ที่ได้จากการลาหยุดพักผ่อน อย่างน่าสนใจว่า "มี งานวิจัยทางการแพทย์จำนวนมากที่แสดงให้เห็นว่า การลาหยุดเพื่อพักผ่อนไม่เพียงแต่เป็นผลดีสำหรับตัวคุณ แต่ยัง สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้นได้ ซึ่งหมายความว่านั่นส่งผลดีกับองค์กรและอาชีพของคุณด้วยเช่นกัน การศึกษาวิจัยเรื่อง Vacation Deprivation ของเอ็กซ์พีเดีย จึงทำให้รู้ว่าเหตุใดนักท่องเที่ยวจึงถูกลิดรอนวันหยุดและไม่ได้พักผ่อนระหว่างการเดินทางอย่างแท้จริงนั้น โดยเห็นได้ชัดว่า ลูกจ้างชาวไทยมีแนวโน้มที่จะยอมละทิ้งแผนการเดินทางพักผ่อนของพวกเขาเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพ ในทางกลับกัน ผมคิดว่านายจ้างควรเริ่มต้นการปลูกฝังและการฝึกให้ลูกจ้างรู้จักวางแผนการเรื่องความสมดุลในชีวิตระหว่างการทำงานและการพักผ่อนเพื่อสร้างแรงงานมุ่งมั่นและมีสุขภาพที่ดีในการทำงาน" เสพติดเทคโนโลยี
อาจเป็นเรื่องโชคร้ายหรืออย่างไร ที่โลกเรากลายเป็นโลกที่ให้ความสำคัญกับดิจิตอลมากขึ้นทุกวัน บ่อยครั้งที่ผู้คนมัวแต่เช็คอีเมลที่ทำงานว่ามีข้อความเข้าหรือไม่ บ้างก็เช็คดูว่ามีฝากข้อความเสียงไว้หรือเปล่าในขณะที่ลาหยุดพักร้อน ซึ่งจากข้อมูลการสำรวจปี 2560 คนกลุ่มนี้จำนวนร้อยละ 27 เข้าเช็คอีเมลอย่างน้อยวันละครั้ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มีจำนวนร้อยละ 24ประเทศที่คนส่วนใหญ่เช็คอีเมลที่ทำงานอย่างน้อยวันทุกวันระหว่างลาพักร้อนได้แก่ ชาวไต้หวัน ร้อยละ 48 ชาวอินเดียร้อยละ 39 ชาวบราซิลและชาวดัตช์ ร้อยละ 36 ส่วนคนไทยร้อยละ 28
นักท่องเที่ยวชาวยุโรปมีแนวโน้มว่าปล่อยวางได้มากกว่าชาติอื่น มีคนเพียงจำนวนน้อยที่เช็คอีเมลที่ทำงานทุกวัน เป็นชาวเดนมาร์ก ร้อยละ 8 ชาวฟินแลนด์ ร้อยละ 12 และชาวเยอรมัน ร้อยละ 16 การเข้าเช็คและตอบอีเมลตลอดเวลานี้เป็นสาเหตุให้เกิดความเครียดมากขึ้นสำหรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นมีจำนวนถึงร้อยละ 61 ชาวเยอรมันร้อยละ 51 ชาวอาร์เจนตินาร้อยละ 51 ชาวสเปนและชาวอาร์เจนตินาร้อยละ 51 เทียบกับคนไทยที่มีจำนวนร้อยละ 30จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า เกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกหรือร้อยละ 45 กล่าวว่า ปริมาณงานที่เพิ่มมากขึ้นตามมาหลังลาหยุดนั้นขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาวางแผนการลานานแค่ไหน ตัวอย่างเช่น คนไทยถึงร้อยละ 74 ฮ่องกงร้อยละ 67 และญี่ปุ่นร้อยละ 64 จะพิจารณาการวางแผนลาพักร้อนมากที่สุด นอกจากนี้ ในจำนวนเกือบครึ่งหนึ่งหรือร้อยละ 48 บอกว่า พวกเขาต้องยกเลิกหรือเลื่อนวันลาพักร้อนออกไปเนื่องจากการทำงาน ซึ่งโดยปกติแล้วจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย โดยเป็นคนไทยร้อยละ 75 ชาวเอมิเรตร้อยละ 70 และชาวอินเดียร้อยละ 67
เทย่า โรเจอร์ส นักแสดงนางแบบและวีเจชื่อดัง ได้แบ่งปันมุมมองของเธอในการบริหารเวลาอย่างสมดุล โดยจัดสรรตารางการทำงานงานไปพร้อมกับความสนุกตื่นเต้นในการท่องเที่ยวสำรวจโลก "งานของเทย่าเป็นงานในวงการบันเทิงจนอาจจะเอาเวลาทั้งหมดของเทย่าไป แล้วก็เหลือเวลาน้อยมากที่จะไปท่องเที่ยวสำรวจโลกและผ่อนคลายกับคนที่เทย่ารัก แต่ก็ยังมีข้อดีที่ว่าการที่เทย่าต้องเดินทางไปทำงานในที่ต่างๆ บ่อยครั้ง เทย่าถือโอกาสได้ท่องเที่ยวไปด้วย ซึ่งเทย่าคิดว่า นี่เป็นสิ่งช่วยในการวางแผนตารางการทำงานของคุณเป็นอย่างดีและยังเตือนให้ตัวเองได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศและผ่อนคลายไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปบำบัดในสปาท้องถิ่นหรือสปาที่มีชื่อเสียงแต่ละแห่ง หรือการขับรถไปตามถนนชมวิวเลียบชายฝั่ง ไม่มีอะไรที่ทำให้เทย่ามีความสุขมากไปกว่าการผจญภัย ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก ล้วนแล้วแต่ทำให้เทย่ารู้สึกกระปรี้กระเปร่าและผ่อนคลายยิ่งขึ้นและพร้อมที่จะกลับมาทำงานได้ดีขึ้นไปอีก"
"นับเป็นความภูมิใจของเอ็กซ์พีเดีย ที่เราทำให้การเดินทางท่องเที่ยวเป็นเรื่องง่ายในราคาที่ไม่แพง เราช่วยให้ผู้คนเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อหาประสบการณ์และมุมมองใหม่ในการเดินทาง เราหวังว่าจะได้เห็นคนไทยและครอบครัวใช้เวลาว่างในการเดินทางไปพักผ่อนท่องเที่ยวด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยวตามจังหวัดต่างๆ ในประเทศไทย หรือจะบินไปเที่ยวยังประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงในวันหยุดสุดสัปดาห์" นายซิมอน กล่าวสรุป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit