"โครงการฯ นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของโรงเรียนที่ด้อยโอกาสให้นักเรียนมีหลักโภชนาการที่ดีมีการเสริมสร้างสุขภาพอนามัย มีการพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการศึกษา รวมทั้งมุ่งเน้นให้เกิดสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่ดีต่อการใช้ชีวิตของนักเรียน โดยสำนักฯ ได้เห็นถึงความสำคัญของการศึกษา ซึ่งถือเป็นกลไกในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดศักยภาพและมีความพร้อมในการเข้าสู่สังคมปัจจุบัน ซึ่งมีการแข่งขันสูงและมีความท้าทายในทุกมิติ โดยรัฐบาลได้มุ่งเน้นให้เกิดการปฏิรูประบบการศึกษา เพื่อให้คนไทยทุกวัยได้รับโอกาสในการเสริมสร้างสมรรถนะของตน เพื่อก้าวสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ตามที่ตนใฝ่ฝัน ปัจจุบันพบว่าสถานศึกษาหลายแห่งยังขาดแคลนระบบสาธารณูปโภคและระบบสาธารณสุข เกิดความเหลื่อมล้ำและขาดโอกาสในการได้รับบริการจากรัฐอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง จำเป็นอย่างยิ่งที่ภาคประชาสังคม และหน่วยงานอื่นๆ ต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อสร้างอนาคตของชาติร่วมกัน"
"การดำเนินโครงการฯ ในครั้งนี้ ได้มีจังหวัดปทุมธานี หน่วยงานรัฐและเอกชน รวมถึงชุมชนในพื้นที่เข้าร่วมให้การสนับสนุนให้บรรลุผลสำเร็จ โดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ ต้องการพัฒนาโรงเรียนให้มีโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม นักเรียนมีคุณภาพชีวิต สุขภาพกาย และใจที่ดีขึ้น มีจิตสาธารณะ รวมทั้งเป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงระบบการศึกษาด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ และการมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเป็นแบบอย่างเพื่อการขยายผลแก่โรงเรียนอื่นๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงต่อไป" พลอากาศเอก ดร.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
"TTW ได้รับเกียรติและความไว้วางใจจากรองนายกรัฐมนตรี พลอากาศเอก ดร.ประจิน จั่นตอง ให้เข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักโครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนที่ด้อยโอกาสต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยในปี 2560 โดยบริษัทฯ ได้พิจารณาคัดเลือกโรงเรียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 3 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนวัดบ้านพร้าวใน โรงเรียนบึงเขาย้อน และโรงเรียนวัดจุฬาจินดาราม จังหวัดปทุมธานี ซึ่งทั้ง 3 โรงเรียนตั้งอยู่ในพื้นที่ดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่ง TTW หวังเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของโรงเรียนให้มีความเหมาะสม มีหลักโภชนาการที่ดี มีการเสริมสร้างสุขภาพอนามัย พัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการศึกษา รวมทั้งมุ่งเน้นให้เกิดสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่ดีต่อการใช้ชีวิตของนักเรียนในโรงเรียน นอกจากนี้ TTW ได้นำตะกอนน้ำประปาจากกระบวนการผลิตของโรงผลิตน้ำประปาปทุมธานีจำนวน 1,386 ลบ.ม. (เทียบเท่าความจุของรถบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 100 คัน) มาใช้ประโยชน์ ด้วยการนำมาถมบริเวณสนามหญ้าของโรงเรียนวัดบ้านพร้าวใน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ชุมชนใกล้เคียงกับโรงผลิตน้ำประปาปทุมธานีของบริษัทฯ ซึ่งตะกอนน้ำประปาดังกล่าวสามารถช่วยลดปัญหาพื้นที่ราบลุ่มและมีน้ำท่วมขังของโรงเรียนฯ ให้กลับมามีภูมิทัศน์ที่ดี และมีความปลอดภัยต่อเด็กนักเรียน"
"สำหรับโครงการวิจัยและนำตะกอนน้ำประปาที่เหลือจากกระบวนการผลิตฯ มาใช้ประโยชน์นั้น TTW ได้ร่วมมือกับศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย (ศสอ.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาและทำการวิจัยดินตะกอนน้ำประปาที่เหลือจากกระบวนการผลิตของโรงผลิตน้ำประปาปทุมธานีมาตั้งแต่กลางปี 2560 เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ โดยมีผลลัพธ์ที่ได้จากการวิจัยแล้ว เช่น เม็ดดูดซับฟลูออไรด์ (ทดแทนผงถ่านในขั้นตอนกวนเร็วของกระบวนการผลิตน้ำประปา) อิฐบล็อกประสาน (ทดแทนดินลูกรัง) กระเบื้องปูพื้น (ทดแทนทราย) และกระเบื้องดินเผา (ทดแทนดินเหนียว) เป็นต้น และในปี 2561 TTW ได้ร่วมมือกับโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ภายใต้การกำกับดูแลของมูลนิธิชัยพัฒนา และภาควิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พัฒนาโครงการฯ ลักษณะเดียวกันในฝั่งของโรงผลิตน้ำประปาบางเลน จ.นครปฐม โดยโครงการฯ ทั้ง 2 พื้นที่จะสามารถต่อยอดด้วยการสร้างอาชีพแก่ชุมชนใกล้เคียงโรงผลิตน้ำประปาในลักษณะการพัฒนาเชิงสังคมในรูปแบบของการสร้างคุณค่าร่วมกันระหว่างองค์กรกับสังคมและชุมชน (Creating Shared Value : CSV) ซึ่งจะเห็นได้ว่านอกจากจะสามารถนำตะกอนน้ำประปาที่เป็นของเหลือไปใช้ประโยชน์ได้แล้ว ยังเป็นการสร้างความผูกพันร่วมกันให้เกิดขึ้นในชุมชนใกล้เคียงโรงผลิตน้ำประปาของ TTW อีกทางหนึ่งด้วย" คุณชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ทีทีดับบลิว กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit