อากาศพลศาสตร์และการออกแบบภายในห้องโดยสารสไตล์รถแข่ง
ระบบอากาศพลศาสตร์คือส่วนสำคัญที่ได้รับการนำมาพิจารณาสำหรับงานออกแบบตัวถังภายนอกอย่างเหมาะสมลงตัวกับรูปแบบการใช้งาน โครงสร้างน้ำหนักเบาที่ผ่านการคำนวณมาเป็นอย่างดี โดดเด่นด้วยปีกหลังทรงสูงสุดคลาสสิก ให้มุมมองของรถสนามพันธุ์แท้ที่หมดจดต่อเนื่องจนถึงภายในห้องโดยสาร ประจำการด้วยเบาะนั่ง full bucket seats ผลิตจากวัสดุคาร์บอนซึ่งเปี่ยมไปด้วยคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมทั้งในแง่ของความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการใช้งานเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง แผงประตูน้ำหนักเบาติดตั้งตาข่ายยึดสัมภาระและมือเปิดแบบ opening loops ลดวัสดุฉนวนซับเสียงออกรวมทั้งคัดสรรชิ้นส่วนอุปกรณ์ภายในใหม่เพื่อวัตถุประสงค์ในการขจัดน้ำหนักส่วนเกินให้มากที่สุด
ขุมพลังเครื่องยนต์ไร้ระบบอัดอากาศ พละกำลังสูงสุด 520 แรงม้า
เครื่องยนต์เบนซินขนาดความจุ 4.0 ลิตร 6 สูบ ไร้ระบบอัดอากาศจากปอร์เช่ ได้รับการนำมาติดตั้งลงใน 911 จีที 3 อาร์เอส (911 GT3 RS) รุ่นใหม่ นำพาสุดยอดยนตรกรรมสปอร์ตคันนี้ให้ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมได้อย่างเหลือเชื่อ ขุมพลังสูบนอนดังกล่าวให้พละกำลังเพิ่มขึ้นถึง 20 แรงม้า (15 กิโลวัตต์) เมื่อเปรียบกับเครื่องยนต์ที่อยู่ใต้ฝากระโปรงของปอร์เช่ 911 จีที3 (Porsche 911 GT3) รุ่นก่อนหน้าด้วยคุณสมบัติพิเศษที่สามารถเร่งรอบการทำงานได้สูงสุดถึง 9,000 รอบต่อนาที นี่คือแหล่งกำเนิดพลังในอุดมคติที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับยนตรกรรมสปอร์ต และเมื่อกำลังขับเคลื่อนได้รับการถ่ายทอดต่อมายังระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ 7 จังหวะ PDK ซึ่งถูกปรับให้สอดรับกับบุคลิกการทำงานของเครื่องยนต์เป็นอย่างดีผลลัพธ์ที่ได้จึงสามารถรับประกันถึงสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมอย่างคาดไม่ถึง
ระบบช่วงล่างและชุดแต่ง Clubsport package แรงบันดาลใจจากการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต
นวัตกรรมเทคโนโลยีเหนือระดับจากกีฬามอเตอร์สปอร์ต คือเครื่องยืนยันถึงประสิทธิภาพชั้นเลิศของระบบช่วงล่างที่พร้อม ตอบสนองด้วยความหนึบแน่นมั่นคงยามขับขี่ด้วยความเร็ว จุดยึดใหม่แบบ Ball joints ระหว่างส่วนประกอบทั้งหมด มีบทบาทสำคัญในการเสริมศักยภาพการบังคับควบคุมให้เฉียบคมยิ่งขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับจุดยึดแบบ elastokinemat-ic bearings ล้ออัลลอยคู่หน้าน้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้ว ล้อมรอบด้วยยางสปอร์ตสมรรถนะสูงขนาด 265/35 ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ วางใจได้ในความแม่นยำเที่ยงตรงทุกสถานการณ์ ในส่วนของล้ออัลลอยคู่หลังขนาด 21 นิ้ว พร้อมยางสปอร์ตขนาด 325/30 รับหน้าที่ถ่ายทอดพละกำลังขับเคลื่อนลงสู่พื้นถนนได้อย่างไร้ที่ติ
เฉกเช่นเดียวกับพี่น้องร่วมตระกูลสปอร์ตจีที (GT) ทุกรุ่น ผู้ขับขี่ 911 จีที3 อาร์เอส (911 GT3 RS) สามารถเลือกติดตั้งชุดแต่ง Clubsport package โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ชุดแต่งดังกล่าวประกอบด้วย อุปกรณ์ความปลอดภัย ได้แก่ คานนิรภัย roll-over bar ภายในห้องโดยสาร ถังดับเพลิงแบบมาตรฐาน จุดติดตั้งรอง รับสวิทช์ตัดการทำงานของแบตเตอรี่กรณีฉุกเฉินและเข็มขัดนิรภัย 6 จุดสำหรับใช้ในการแข่งขัน
ชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะ Weissach package พร้อมล้อแมกนีเซียมน้ำหนักเบา
สำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการความเป็นที่สุดในทุกด้าน แผนกมอเตอร์สปอร์ตของปอร์เช่ได้ตระเตรียมชุดตกแต่งเสริมสมรรถนะ Weissach package ซึ่งเป็นอุปกรณ์พิเศษ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งเน้นการลดน้ำหนักรวมของตัวรถให้น้อยที่สุด ชุดแต่งดังกล่าวประกอบด้วยชิ้นส่วนที่ผลิตจากวัสดุคาร์บอนในหลากหลายจุด ตั้งแต่ระบบช่วงล่าง ภายในห้องโดยสารและ ชิ้นส่วนตัวถังภายนอก นอกจากนี้ยังสามารถเลือกติดตั้งอุปกรณ์พิเศษล้อแมกนีเซียม ซึ่งส่งผลให้น้ำหนักตัวรถลดลง ยิ่งขึ้นอีกขั้น ทั้งนี้น้ำหนักรวมของปอร์เช่ 911 จีที3 อาร์เอส (Porsche 911 GT3 RS) หลังติดตั้งชุดแต่งจะเหลือเพียง 1,430 กิโลกรัมเท่านั้น
กำหนดการวางจำหน่ายและราคา
ปอร์เช่ 911 จีที3 อาร์เอส ใหม่ (The new Porsche 911 GT3 RS) พร้อมรับคำสั่งซื้อแล้ว โดยมีกำหนดการเปิดตัวในประเทศเยอรมนีช่วงกลางเดือนเมษายน 2018 สำหรับราคาจำหน่ายของสุดยอดยนตรกรรมสปอร์ตสมรรถนะสูงรุ่นล่าสุดนี้ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์บริการรถยนต์ปอร์เช่ใกล้บ้านท่าน
ติดตามภาพประกอบเนื้อข่าวได้จาก Porsche Newsroom (http://newsroom.porsche.com) และข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชนจาก Porsche press database (http://presse.porsche.de)
ปอร์เช่ 911 จีที3 อาร์เอส (Porsche 911 GT3 RS): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 7.8 กิโลเมตรต่อลิตร (12.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร); อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 291 กรัมต่อกิโลเมตร
เกี่ยวกับ AAS Auto Service
ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่าง เป็นทางการ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการ ทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามี จำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 13 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึง ความสำคัญ ในเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกร ของเราให้มีคุณภาพสูงสุด ตามนโยบาย หลักของบริษัทที่ว่า "เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR" เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า "AAS The Name You Can Trust" ซึ่งพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit