ปลัด วธ. กล่าวต่อไปว่า โดยเฉพาะองค์ความรู้บนพื้นฐานความเป็นไทยและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆที่เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ในระบบและนอกระบบที่มีมาตรฐาน อาทิ ศูนย์วัฒนธรรม โรงละคร หอศิลป์ ทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนในสังคมสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ต่างๆ ในสังคมโลกได้อย่างสะดวก รวดเร็วและถูกต้อง ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั้งในและต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ขณะนี้ได้มอบหมายให้มีการหารือกับสำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) Thailand Convention & Exhibition Bureau หรือ TCEB ที่ดูแลส่งเสริมธุรกิจไมซ์ MICE ( Meetings, Incentive Travel, Conventions and Exhibitions ) ธุรกิจการท่องเที่ยวที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการจัดประชุมองค์กร การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การจัดประชุมนานาชาติ และการจัดแสดงสินค้า ว่าต้องการพื้นที่รองรับการประชุม การจัดการท่องเที่ยว หรือการแสดงศิลปวัฒนธรรมรูปแบบใด เพื่อเป็นการรองรับการประชุมระดับนานาชาติ ระดับภูมิภาค ระดับโลกในอนาคต
ปลัดวธ. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังได้มีแนวคิดร่วมมือกับกรมศิลปากร สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ และผู้ประกอบการด้านวัฒนธรรมที่เป็นภาคเอกชน จัดทำชุดองค์ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมที่ถูกต้องเพื่อเป็นแบบอย่างให้หน่วยงานต่างๆนำไปเผยแพร่ต่างประเทศ รวมไปถึงรู้จักความเป็นไทยและงานบริการผ่าน 5F คือ 1. อาหาร (Food) 2.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (Film) 3.ผ้าไทยและการออกแบบแฟชั่น (Fashion) 4.มวยไทย (Fighting) และ 5.การอนุรักษ์และขับเคลื่อน เทศกาล ประเพณีสู่ระดับโลก (Festival) เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับต่างประเทศ การปรับปรุงเนื้อหาของเว็บไซต์กระทรวงวัฒนธรรมให้ทันสมัย จัดทำห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับดาวน์โหลดได้ เพื่อเป็นแหล่งค้นคว้าความรู้ งานวิจัยด้านศิลปวัฒนธรรมของประเทศและจัดทำคลิปวีดิโอสะท้อนปัญหาสังคมเผยแพร่ตามสื่อต่างๆเพื่อเตือนสติคนไทยในการอยู่ร่วมกันด้วย