ภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ ผู้บริหาร เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล เผยว่า "กิจกรรม Tops Exclusive Trip ปีนี้เป็นปีแรกที่ท็อปส์ พาลูกค้าคนสำคัญ มาร่วมเปิดประสบการณ์อันน่าประทับใจที่โครงการพัฒนาดอยตุง ซึ่งเป็นพื้นที่ทรงงาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จากพระวิสัยทัศน์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เพื่อให้ย้อนรำลึกถึงเรื่องราวการทรงงานนับตั้งแต่ปี 2531 สัมผัสวิถีชีวิต วัฒนธรรมประเพณีที่งดงาม พร้อมพาชมแหล่งผลิตกาแฟอาราบิก้าและแมคคาเดเมีย ผลผลิตชั้นดีไร้สารเคมี ซึ่งที่ผ่านมา ท็อปส์ ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนผลิตภัณฑ์และผลผลิตของชาวบ้านในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุงนำมาจำหน่ายที่ร้านเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์ ทำให้ชาวบ้านมีรายได้ที่ยั่งยืน"
ทริปนี้เริ่มต้นด้วยการเยี่ยมชมหอแห่งแรงบันดาลใจ เพื่อน้อมนำพระราชดำริไปปรับใช้ให้ก่อประโยชน์สูงสุด ก่อนจะปรับโหมดเข้าสู่โลกของการเรียนรู้ สถานที่อันเปรียบเสมือนหัวใจสำคัญของดอยตุง แปลงป่าเศรษฐกิจนวุติ ซึ่งดำเนินงานโดยบริษัทนวุติ แปลงป่าขนาดใหญ่ แหล่งผลิตสำคัญที่ช่วยสร้างรายได้สร้างอาชีพแก่ชาวบ้านในระยะยาว
ณัชวรรัศ ขันติสิทธิ์ ผจก.ส่วนกลยุทธ์และภาคสัมพันธ์ สำนักงานโครงการพัฒนาดอยตุง เล่าว่า "ด้วยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีพระราชประสงค์ที่จะทรงช่วยฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรมให้กลับมาเป็นป่าที่สมบูรณ์อีกครั้ง และช่วยให้ชาวบ้านดอยตุงมีอาชีพอย่างยั่งยืน ป่าเศรษฐกิจแห่งนี้จึงเป็นพื้นที่สร้างงานสร้างอาชีพแก่ชาวบ้าน โดยปัจจุบันพื้นที่บนดอยตุงประกอบไปด้วย 29 หมู่บ้าน 6 ชนเผ่า จำนวนประชากร 10,000 คน อาชีพหลักคือ การปลูกแมคคาเดเมีย และกาแฟอาราบิก้า ซึ่งเป็นไม้ยืนต้นที่มีอายุเฉลี่ย 80-100 ปี ด้วยสภาพภูมิอากาศและความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ที่เหมาะแก่การเพาะปลูก ทำให้ชาวบ้านสามารถเก็บผลผลิตได้ทั้งในและนอกฤดูกาล แมคคาเดเมียต้องผ่านกระบวนการผลิตหลายขั้นตอน เพราะมีเปลือกถึง 2 ชั้น จากการต้องทิ้งเปลือก 2 – 3 ร้อยตัน ต่อปี ชาวบ้านที่นี่จึงต่อยอดไอเดีย นำเปลือกไปทำปุ๋ย และตัวกะลาชั้นที่ 2 ก็เอาไปเผาไหม้ด้วยกระบวนการที่ถูกต้อง จนได้มาเป็นถ่านดูดความชื้นที่สามารถนำไปหุงต้มได้ และความร้อนที่เกิดจากการเผาก็ใช้อบแมคคาเดเมียแทนการใช้
แก๊ส แม้กระทั่งในส่วนของขี้เถ้า ก็นำไปผสมกับน้ำยาเคลือบเซรามิก จนได้ลายเผาไหม้ที่งดงาม เป็นผลิตภัณฑ์ส่งออกอีกชิ้นที่สร้างรายได้ให้ชาวบ้าน ทำให้แปลงป่าเศรษฐกิจแห่งนี้มีกำไรถึง 500 ล้านบาทต่อปี แบ่งเป็นเงินเดือน เป็นรายได้ ให้กับคนในชุมชน ในขณะเดียวกัน ส่วนหนึ่งก็กลายเป็นทุนการศึกษาให้กับน้องๆ เยาวชน ลูกหลานของคนที่นี่ได้เรียนต่อ"
ด้าน คุณหญิงพวงร้อย ดิศกุล ณ อยุธยา และ ม.ล.ดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า "ขอบคุณ ท็อปส์ ที่มุ่งมั่นและมีความตั้งใจแน่วแน่ ในการสร้างช่องทางและโอกาสทางการขาย เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชน ทั้งยังร่วมต่อยอดและพัฒนาสินค้าดอยตุงให้เป็นที่รู้จัก อาทิ การสร้างสรรค์กระเช้าปีใหม่ดอยตุงร่วมกัน ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีมากจากผู้บริโภค ส่งผลให้ชาวบ้าน มีรายได้มากขึ้น และมีแรงใจในการผลิตสินค้ามีคุณภาพสู่สังคม"
ต่อจากการเยี่ยมชมแหล่งความรู้ ก็เข้าสู่การลงมือปฏิบัติโชว์ฝีมือ ทำตุงไส้หมู เพื่อนำไปสักการะพระธาตุ ดอยตุง เสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต พร้อมมอบเครื่องอุปโภค-บริโภคให้กับทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยดอยช้างมูบ และเยี่ยมชมสวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง จุดสูงสุดของเทือกเขานางนอน แหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้ หายาก อาทิ กุหลาบพันปี ซึ่งมีสีสันหลากหลาย และที่ขาดไม่ได้คือการเข้าชมพระตำหนักดอยตุง ความเรียบง่ายที่เปี่ยมไปด้วยความงดงามอันทรงคุณค่า ต่อด้วยการเดินทางไปศึกษาเส้นทางธรรมชาติบนเรือนยอดไม้ (Tree Top Walk) ความพิเศษของทริปนี้ยังไม่หมด ท็อปส์ ได้เนรมิตพื้นที่ภายในอุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง ให้สว่างไสวไปด้วยแสงเทียน พร้อมจัดการแสดงนาฏศิลป์พื้นเมือง อาทิ ฟ้อนเทียน, ฟ้อนบุปผาฟ้าหลวง ที่อ่อนช้อยงดงาม ต้อนรับ สร้างความตราตรึงใจแก่ลูกค้าจนยากจะลืมเลือน
มาถึงไฮไลต์สำคัญของค่ำคืนดีๆ กับดินเนอร์แสนพิเศษท่ามกลางความสวยสดของดอกไม้ภายในสวน แม่ฟ้าหลวงและแสงดาวระยิบระยับ โดย เชฟเอียน - พงศ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย คุกกิ้ง กูรู ประจำ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ได้เตรียมวัตถุดิบออร์แกนิคผลผลิตจากโครงการดอยตุงและเนื้อสัตว์คุณภาพ สร้างสรรค์เมนูแสนอร่อย เริ่มที่จานแรก สลัดขาเป็ดคองฟิค คลุกด้วยน้ำสลัดน้ำผึ้งดอกแมคคาเดเมีย กับบัลซามิกขาว เป็ดถูกตุ๋นในน้ำมันโอลีฟออยล์ 5 ชั่วโมง ก่อนจะนำไปทอด จนเกิดความกรอบนอกนุ่มในละมุนลิ้น เสิร์ฟคู่กับผักและแครอทออร์แกนิคที่สั่งจองล่วงหน้าจากเชียงใหม่นานถึง 2 เดือน เพิ่มเทกเจอร์ความกรุบกรอบด้วยแมคคาเดเมียที่ผ่านการต้มในน้ำเดือด นำมาคลุกไอซิ่งชูการ์และเอาไปทอด พร้อมโรยดอกแนสเตอร์เตียม (Nasturtium) ซึ่งสามารถทานได้ จานถัดมา ซุปนิว อิงแลนด์เชาว์เดอร์ไก่กับเบคอนรมควันไม้แอปเปิ้ล ใช้ไก่ออร์แกนิคเป็นวัตถุดิบหลัก พร้อมเพิ่มรสชาติด้วยเห็ดภูฏาน, สตูว์หมู "บูร์กิยอง" เสิร์ฟกับมันบดทรัฟเฟิล เห็ดโครงการหลวงและซอสสตูว์เข้มข้น ใช้หมูส่วนหัวไหล่ เริ่มด้วยการเอาหมูไป brine สไตล์อเมริกัน ด้วยเกลือและน้ำตาลทรายแดง เพื่อให้หมูนุ่มและมีรสชาติมากขึ้น อบด้วยความร้อน 85 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 5 ชั่วโมง เทคนิคพิเศษช่วยให้หมูไม่แห้ง เติมความอร่อยด้วยแครอทและแบล็ค วินเทอร์ทรัฟเฟิลผัด ปิดท้ายด้วย แมคคาเดเมีย "บลองมองจ์" เสิร์ฟกับสตอว์เบอร์รี่ดอยตุงและคุ้กกี้งาขี้ม้อน ขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศส และอีกหนึ่งไฮไลต์ คือ อิ่มอร่อยกับอาหารชนเผ่า 6 ชนเผ่าบนดอยตุงในบรรยากาศกาดชนเผ่าจำลองจากงานสีสันแห่งดอยตุง ที่แต่ละชนเผ่าต่างภูมิใจนำเสนอเมนูขึ้นชื่ออร่อยเด็ด
ด้านลูกค้าคนสำคัญ 2 สามี – ภรรยา ศิริน – อาร์โต อาร์ทิเนียน เผยความประทับใจที่ได้ร่วมทริปนี้ว่า "ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มาร่วมทริปกับ ท็อปส์ และเป็นครั้งแรกที่ได้มาดอยตุง ไม่มีอะไรจะพูดนอกจากคำว่า ประทับใจค่ะ ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในทริปนี้เป็นความทรงจำล้ำค่าที่มีเงินก็ซื้อไม่ได้ นอกจากนี้เรายังได้มีโอกาสเข้าชมกระบวนการทำแมคคาเดเมียและกาแฟอาราบิก้า ทำให้เรารู้ว่ากว่าจะได้ผลผลิตมานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และการช่วยสนับสนุนสินค้าชุมชน ไม่ใช่แค่การสร้างรายได้แก่พวกเขา แต่หมายรวมถึงการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนที่นี่ด้วย"
อีกหนึ่งคู่ลูกค้าคนสำคัญ หลานชายที่ควงคู่มากับคุณอา บารมี - วีระวัฒน์ เพิ่มสันติธรรม เผยว่า "ชอบทริปนี้มากครับ ในทุกสถานที่ที่ไป ทางท็อปส์จัดเตรียมกิจกรรมและเซอร์ไพรส์ให้เราได้ลุ้นอยู่ตลอด จริงๆ ผมเพิ่งมีโอกาสเข้าชมหอแรงบันดาลใจเป็นครั้งแรก พอได้เห็นพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นแก่ปวงชนชาวไทย ก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเกิดช้าไป เสียดายที่ไม่ทันได้สัมผัสเรื่องราวต่างๆ ด้วยตัวเอง แต่อีกแง่มุมหนึ่ง ผมคิดว่า พระราชกรณียกิจที่พระองค์ทรงทำไว้ ไม่ว่าจะผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่ ก็ไม่มีวันจางหายไป"
ความพิเศษทุกอย่างที่ ท็อปส์ ได้จัดเตรียมไว้สำหรับทริปนี้ ทำให้เวลาสั้นๆ บนดอยตุงกลายเป็นช่วงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข จากการพลิกฟื้นคืนชีวิตให้ผู้คนและผืนป่าบนดอยตุง ทำให้ธรรมชาติแห่งขุนเขากลางป่าแม่ฟ้าหลวงมีแต่ความงดงาม ที่ยิ่งกว่านั้นคือทุกคนได้เห็นประจักษ์ด้วยตาตนเองว่าความเปลี่ยนแปลงและการแก้ปัญหาทางสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นได้จากแนวพระราชดำริและปรัชญาของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชด้วยการพัฒนาอย่างยั่งยืน ดอยตุงจึงให้ประสบการณ์และ แรงบันดาลใจที่สามารถนำไปใช้ได้ตั้งแต่ระดับตัวเอง ครอบครัว ชุมชน ประเทศชาติ และระดับโลก
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit