โดยเฉลี่ยแล้ว ทุกวันจะมีช้าง 55 ตัวถูกฆ่าจากการล่าเพื่อตอบสนองความต้องการสินค้าจากงาช้างที่เพิ่มมากขึ้นในจีนและประเทศเพื่อนบ้าน การจัดการปิดตลาดงาช้างของจีน ซึ่งถือเป็นมาตรการที่ชัดเจนมากกว่ามาตรการในประเทศอื่นๆ การตัดสินใจนี้จะพลิกวิกฤติการล่าช้างเพื่อเอางาและการลักลอบซื้อขายงาช้างที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งสร้างผลกระทบที่มีนัยยะสำคัญต่อการอนาคตการรอดชีวิตของช้างแอฟริกา
จากรายงานการสำรวจขององค์กรเครือข่ายควบคุมการค้าสัตว์ป่า (TRAFFIC) และองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) พบว่าการปิดตลาดค้างาช้างครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวางจากผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่ตอบแบบสำรวจ และเป็นแนวโน้มที่สำคัญในการลดปริมาณการซื้อขายงาช้างในจีนอย่างจริงจัง
ปีนี้เป็นปีที่ดีในในการต่อสู้เพื่อยุติการค้างาช้างของโลก ฮ่องกง สิงคโปร์ ไทย และสหราชอาณาจักรได้ดำเนินการยกระดับการใช้กฎหมายเพื่อแก้ปัญหาการค้างาช้าง ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (20 ธันวาคม) องค์กรเครือข่ายควบคุมการค้าสัตว์ป่า (TRAFFIC) และองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) เรียกร้องให้ญี่ปุ่นปิดตลาดค้างาช้างที่ถูกกฎหมาย เพราะผลจาการสำรวจล่าสุดพบว่าญี่ปุ่นยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่มีตลาดค้างาช้างภายในประเทศที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกคำแถลงการณ์ของ WWF ต่อการปิดตลาดค้างาช้างของจีน
ดร. เฟรด ควาเม่ คูม่าร์ (Dr. Fred Kwame Kumah) ผู้อำนวยการองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล สำนักงานแอฟริกา กล่าวว่า "ประเทศจีนแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ต่อวิกฤตอันเร่งด่วนนี้ เราหวังว่าจีนจะร่วมมือกับเราในการเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลาว ไทย พม่าและเวียดนามในการดำเนินการตามข้อเรียกร้องนี้เพื่อปิดตลาดค้างาช้างที่ถูกกฎหมายโดยทันที
การปิดตลาดค้างาช้างในครั้งนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นปี 2561 ด้วยการก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่งเพื่อโลกที่ความต้องการงาช้างสูญพันธุ์ไป ไม่ใช่ช้างที่ต้องสูญพันธุ์ไปจากโลกนี้
ในช่วงสองสามเดือนข้างหน้าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่งยวดของการดำเนินการปิดตลาดงาช้างในการสื่อสารและการใช้มาตรการต่างๆ เพราะมีหลักฐานที่สำคัญยืนยันได้ว่า ยังมีการค้างาช้างที่ผิดกฎหมายในวงกว้าง ทั้งการค้าในรูปแบบออนไลน์ และการค้าแบบไม่มีการขึ้นทะเบียนในประเทศจีน ถ้ายังไม่มีการแก้ไขปัญหาการค้างาช้างอย่างผิดกฎหมายเหล่านี้อย่างจริงจัง จะทำให้การประกาศปิดตลาดงาช้างในจีนไม่เกิดผลเท่าที่ควรสิ่งที่ต้องดำเนินการขั้นต่อไป
ประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ ต้องดำเนินการตามอย่างประเทศจีนเพื่อปิดตลาดค้างาช้างที่ถูกกฎหมายในประเทศของตน การปิดตลาดงาช้างในจีนเป็นก้าวย่างที่ยิ่งใหญ่ แต่อาจเป็นหนทางที่ทำให้ทิศทางของตลาดงาช้างหันเหไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวียดนาม กัมพูชา ลาว พม่า และ ไทย ซึ่งเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมากนิยมซื้อผลิตภัณฑ์งาช้าง และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าอื่นๆ
รัฐบาลไทยได้ดำเนินมาตรการที่ดีในการลดการซื้อขายงาช้างในประเทศ แต่ไทยยังคงไว้ซึ่งตลาดงาช้างที่ถูกกฎหมายจากผลิตภัณฑ์งาช้างที่ได้มาจากช้างในประเทศ ตลาดงาช้างที่ถูกกฎหมายดังกล่าวเป็นการสร้างโอกาสให้อาชญากรสามารถค้าขายงาช้างแอฟริกันในประเทศไทยได้ และยังสร้างความสับสนในนักท่องเที่ยวที่สามารถซื้อผลิตภัณฑ์งาช้างในประเทศไทยได้ แต่ไม่สามารถนำออกนอกประเทศได้อย่างถูกกฎหมาย
เยาวลักษณ์ เธียรเชาว์ ผู้อำนวยการองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล สำนักงานประเทศไทยกล่าวชื่นชมรัฐบาลไทยในความพยายามลดการการค้างาช้างผิดกฎหมายในประเทศ และกล่าวเสริมว่า "ประเทศไทยควรดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการแสดงความเป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหาระดับโลกนี้ ไทยควรกำหนดขั้นตอนต่างๆที่จะนำไปสู่การปิดตลาดงาช้างภายในประเทศอย่างสมบูรณ์" การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญยิ่งที่จะช่วยให้ความพยายามแก้ปัญหาสำคัญในระดับโลกนี้ลุล่วง อันจะนำไปสู่การยุติการค้าช้างเอางาของโลกใบนี้"32
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit