นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า สำหรับในปีหน้า ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเป็นนักเทนนิสหญิงหรือชายมาแข่งขัน เพราะต้องพิจารณาผลงาน ความน่าสนใจของนักหวดแต่ละคนว่าใครที่ดึงดูดแฟนเทนนิสได้มากที่สุด ซึ่งหลังจากจบแกรนด์สแลม "วิมเบิลดัน" ในเดือนมิถุนายน ปีหน้า ถึงจะเริ่มวางแผนต่างๆ ได้ แต่ขอยืนยันว่าจะเป็นนักเทนนิสระดับท็อปเหมือนทุกๆ ปี การแข่งขันรายการนี้มีรูปแบบ มีเอกลักษณ์ที่สมบูรณ์ขึ้นทุกปีตั้งแต่จัดมา ปีหน้าน่าจะยังมีนักหวดมาแข่ง 4 คนเท่าเดิม เพราะเคยจัด 6 คนแล้ว คิดว่ารูปแบบ 4 คนลงตัวที่สุด
ส่วนในเรื่องการขอเป็นเจ้าภาพรายการระดับเอทีพี ทัวร์ หรือดับเบิลยูทีเอ ทัวร์ ที่สูงกว่าเอทีพี ชาลเลนเจอร์ทัวร์ และดับเบิลยูทีเอ 125K นั้น ประธานที่ปรึกษาเอทีเอฟ เปิดเผยว่า ยังคงสนใจที่จะจัดรายการระดับที่สูงขึ้น โดยเฉพาะการกลับมาจัดเทนนิสอาชีพชาย ไทยแลนด์ โอเพ่น หรือเทนนิสอาชีพหญิง พัทยา โอเพ่น แต่ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะจัดได้ในปีหน้าหรือไม่"อยากให้ประเทศไทยจัดกีฬารายการใหญ่ๆ ให้มาก เพราะมีประโยชน์กับการท่องเที่ยว เศรษฐกิจของประเทศ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้มีรายการระดับสูงขึ้นกลับมาแข่งขันที่ไทยให้ได้ แต่ก็ยังไม่สามารถบอกอะไรได้มากในตอนนี้" นายสุวัจน์กล่าวทิ้งท้าย