วันนี้(25 ธ.ค.2560) สถาบันอาหาร โดย นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU) กับ สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย โดยพล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยณ อาคารศูนย์การเรียนรู้อาหารไทย สถาบันอาหาร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันพัฒนาบุคลากรด้านวิชาการ ด้านมาตรฐานกิจการฮาลาล และด้านการวิจัยและพัฒนา อันจะเสริมสร้าง
อุตสาหกรรมอาหารฮาลาลในประเทศไทยให้เข้มแข็งและยั่งยืน ทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้เป็นที่ยอมรับจากกลุ่มประเทศมุสลิมและนานาประเทศนายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้มีกรอบการดำเนินงาน พอสังเขปดังนี้ 1) การเผยแพร่ความรู้ ข้อมูล ข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับกิจการและมาตรฐานฮาลาลแก่ผู้ประกอบการและผู้บริโภค 2) การสนับสนุนการศึกษา วิจัย พัฒนาความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมในด้านเทคโนโลยีการผลิต ระบบบริหารจัดการองค์กร การวิเคราะห์ตรวจสอบ เพื่อยกระดับการผลิตและการบริการอาหารให้สอดคล้องตามหลักการศาสนาอิสลาม และเทียบเท่ามาตรฐานสากล 3)การพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความชำนาญด้านการบริหารงาน และการบริการระหว่างกัน 4) การเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลสารสนเทศเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ฮาลาลของประเทศ 5) การตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ฮาลาลทางด้านเคมี ชีวภาพ และกายภาพ ตามความสามารถของห้องปฏิบัติการของสถาบันอาหาร และร่วมกันพัฒนาแนวทางการตรวจวิเคราะห์ด้วยวิธีใหม่ที่เห็นชอบร่วมกัน เป็นต้น
"ปัจจุบันหลายๆ ประเทศมีความพยายามผลักดันให้อุตสาหกรรมอาหารฮาลาลมีบทบาทเพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบสนองตลาดฮาลาลโลก ซึ่งมีมูลค่ามหาศาล เพราะมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือชาวมุสลิมกระจายอยู่มากกว่า 1,800 ล้านคนทั่วโลก ดังจะเห็นได้จากการจัดงานประชุม เสวนา อบรมด้านอาหารฮาลาลในหลายเวทีทั่วโลก ซึ่งสถาบันอาหารได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลของไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล อาทิ การเข้าร่วมเสวนาเรื่องอาหารฮาลาลที่ประเทศกัมพูชา การริเริ่มจัดหลักสูตรฝึกอบรมด้านอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลและมาตรฐานความปลอดภัยให้แก่สมาชิกองค์กร WAITRO ซึ่งมีสมาชิกกว่า 160 หน่วยงานใน 80ประเทศทั่วโลก และการสร้างความร่วมมือกับ SIRIM หน่วยงานวิจัยและพัฒนาอันดับหนึ่งของประเทศมาเลเซีย และอีกหลายๆประเทศในอนาคต
ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่รับรองและควบคุมมาตรฐานฮาลาลให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้แก่ภาคอุตสาหกรรมอาหารของไทย และสร้างความเชื่อมั่นให้ตลาดมุสลิมในประเทศและตลาดฮาลาลทั่วโลกได้เป็นอย่างดี"