Smart Mushroom Box ตู้เพาะเห็ดถั่งเช่า นวัตกรรมใหม่ ดูแลง่ายแค่เพียงปลายนิ้ว

26 Dec 2017
เด็ก ม.6 หัวใส…เปลี่ยนตู้เย็นธรรมดา ให้กลายเป็น นวัตกรรมตู้เพาะเห็ดถั่งเช่า ช่วยเร่งการเจริญเติบโต ดูแลง่าย ลงทุนน้อย ผลตอบแทนได้กำไร 2,000 บาทต่อรอบการผลิต
Smart Mushroom Box ตู้เพาะเห็ดถั่งเช่า นวัตกรรมใหม่ ดูแลง่ายแค่เพียงปลายนิ้ว

เมื่อกระแสการปลูกเห็ดถังเช่าสีทองกำลังเป็นที่นิยม เนื่องจากเป็นพืชสมุนไพรที่มีสารคอร์ไดซิปิน (Cordycepin) โดยมีสรรพคุณในการบำรุงร่างกาย ช่วยขยายหลอดเลือดฝอยบริเวณปลายประสาทต่างๆ เช่น บำรุงเลือดบนใบหน้า เส้นผม ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และช่วยเรื่องสมรรถภาพทางเพศ จึงเป็นที่ต้องการของธุรกิจด้านสุขภาพและความงามเป็นอย่างมาก ทำให้นายโศธนะ วิชาเรือง หรือ นาย อายุ 18 ปี นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่6 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยรังสิต(วมว มธ-สกร) เกิดปิ๊งไอเดียนำตู้เย็นธรรมดาๆ มาแปลงโฉมสร้างนวัตกรรมการปลูกเห็ดแบบใหม่โดยอาศัยเทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัวให้กลายเป็น "ตู้เพาะเห็ดอัจริยะ" ที่ควบคุมอุณหูมิและความชื้นในการดูแลเห็ดถังเช่าสีทองด้วยระบบสั่งงานผ่านอินเทอร์เนต

นาย กล่าวว่า"ตอนแรกที่เริ่มทำอุปกรณ์ชินนี้คิดแค่เพียงว่าจะทำอย่างไรเพื่อตอบโจทย์ให้คนที่อยากปลูกเห็ดไว้ทานมีวิธีดูแลได้ง่ายๆ ผมก็เลยพัฒนาจากตู้เย็นธรรมดาให้เป็นที่เพาะเห็ดแบบง่ายๆ แค่เพียงตั้งโปรแกรมผ่านแอปพลิเคชั่น ต่อมามีโอกาสได้นำอุปกรณ์ชิ้นนี้เข้าสู่เวทีประกวด NSC 2017 ขณะเดียวกันก็ได้สมัครเข้าร่วมโครงการต่อกล้าให้เติบใหญ่ ปี 5 โดยในระหว่างที่เข้าร่วมกับโครงการต่อกล้าให้เติบใหญ่นั้น ทำให้ผมเห็นแนวทางใหม่ในการพัฒนางานชิ้นนี้ขึ้นมาอีก จึงมีแนวคิดเปลี่ยนจากกลุ่มเป้าหมายจากผู้เพาะเห็ดแบบธรรมดา มาเป็นกลุ่มที่ต้องการปลูกเห็ดถั่งเช่าสีทอง เพราะเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงซึ่งในปัจจุบันมีราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 60,000 – 100,000 บาท ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดด้านสุขภาพ …ที่ผานมาการปลูกเห็ดในบ้านเรายังเป็นระบบเก่า คือ ต้องใช้แรงงานคนในการดูแลเป็นจำนวนมาก ทำให้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง จึงคิดว่าน่าจะมีอุปกรณ์ที่ช่วยให้เกษตรกรหรือผู้ประกอบการสามารถดูแลเห็ดได้สะดวกขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกรได้มากขึ้นกว่าเดิม"

นาย เล่าให้ฟังอีกว่า ที่เขาหันเหมุ่งสู่กลุ่มเป้าหมายที่ปลูกเห็ดถั่งเช่าสีทองอย่างเต็มตัวนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการบ่มเพาะในค่ายโครงการต่อกล้าให้เติบใหญ่สนับสนุนโดย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ร่วมกับ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)และมูลนิธิสยามกัมมาจล ที่มีกระบวนการเติมแนวคิดให้เขามองหากลุ่มเป้าหมายที่ใช้ผลงานได้ชัดขึ้น รวมถึงวิธีการทำให้ผลงานชิ้นนี้เป็นที่สนใจ เพราะความคาดหวังปลายทางนั้น ก็คือ อยากเห็นชิ้นงานนี้ไปสู่ผู้ใช้ได้จริงๆ ที่ไม่ใช่ผลงานโครงงานวิทยาศาสตร์ที่ทำแล้วแขวนทิ้งไว้ แต่ต้องมีประโยชน์มากกว่าการตั้งโชว์อยู่เฉยๆ

เมื่อความตั้งใจเกิดขึ้น ก็เหลือแค่เพียงลงมือทำ …. "อุปกรณ์นี้ออกแบบเพื่อเน้นการตอบสนองกลุ่มคนที่สนใจเรื่องการปลูกเห็ด โดยเฉพาะเห็ดถั่งเช่าสีทองโดยมีระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ และมีระบบเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสามารถควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น แล้วก็แสงเพื่อควบคุมในการเจริญเติบโต โดยตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัดเทียบเท่ากับตู้เย็นขนาดMinibar ซึ่งสามารถบรรจุเชื้อเห็ดได้ถึง 30 ขวด จึงสามารถควบคุมแสงแบบอัตโนมัติ และอุณหภูมิความชื้นได้แบบคงที่ สามารถเลียนแบบสภาพอากาศตามธรรมชาติของเห็ดถังเช่าทองซึ่งโดยปกติจะอยู่ที่ 15 องศา สูงสุดไม่เกิน 20 องศา ดังนั้น ผู้ปลูกเห็ดสามารถปรับอุณหภูมิและความชื้นให้ใกล้เคียงกับสภาพภูมิอากาศที่เห็ดถังเช่าต้องการเพียงแค่สั่งการทำงานผ่านคอมพิวเตอร์ในระบบอินเทอร์เนตโดยไม่ต้องกังวลกับสภาพ ดิน ฟ้า อากาศในบ้านเราอีกต่อไป" นาย กล่าว

นวัตกรรมดังกล่าว เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างระบบทำความเย็นหรือตู้เย็น และระบบควบคุม-สั่งการ 2 ส่วน ส่วนแรก คือ ระบบชุดควบคุม ที่ทำหน้าที่ควบคุมปัจจัยสภาพแวดล้อมภายในกล่องเพาะเห็ดให้อยู่ในสภาวะที่เหมาะสม ส่วนที่สอง คือ ระบบประมวลผล (Server) ทำหน้าที่รับข้อมูลสถานะอุณหภูมิและความชื้นจากชุดควบคุม เพื่อทำการประมวลผลค่าของอุณหภูมิว่าตรงกับค่าที่ได้กำหนดหรือไม่ จากนั้นจึงทำการสั่งเปิด-ปิดระบบต่างๆ ของชุดควบคุมที่ผู้ใช้สามารถตั้งโปรแกรมการปลูกเห็ดให้เหมาะกับชนิดและอายุของเห็ด

ดร.วสิศ ลิ้มประเสริฐ อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ และอาจารย์ประจำสาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ. กล่าวว่า "จุดเด่นของเครื่องนี้ คือ ใช้งานง่าย ตอบสนองในยุคเทคโนโลยีที่ต้องการลดขั้นตอนการทำงานของคน เพียงตั้งค่าในตอนเริ่มต้นครั้งเดียวระบบก็จะสามารถทำงานเองได้จนจบกระบวนการ อีกทั้งยังช่วยเร่งการเจริญเติบโตของผลผลิตที่เติบโตเร็วกว่าปกติถึง 18% ในเวลาประมาณ 60-75 วันหรือประมาณ 2 เดือนถึง 2 เดือนครึ่ง เมื่อเห็ดเจริญเติบโตเต็มที่และแห้งแล้วจะมีน้ำหนักประมาณ 15 กรัมต่อ 1 ขวดโหล ซึ่งยังคงรสชาติและสรรพคุณที่ครบถ้วน ที่สำคัญลงทุนน้อยด้วยการตั้งต้นเพียงหลักหมื่นบาท แต่สามารถทำกำไรได้ประมาณ 2,000 บาทต่อรอบการผลิต โดยในระยะ 6 เดือนที่ผ่านมามีคนสนใจซื้อไปใช้แล้วจำนวน 8 ตู้"

นาย กล่าวว่า ผลงานชิ้นนี้นอกจากจะช่วยควบคุมอุณหภูมิและดูแลการเจริญเติบโตเห็ดถังเช่าสีทองแล้ว ยังสามารถดูแลพืชชนิดอื่นได้อีกด้วย …."ในอนาคตผมมองการพัฒนาผลงานชิ้นนี้ให้สามารถต่อยอดไปถึงการทำ Indoor Farming (รูปแบบเกษตร ในสิ่งปลูกสร้างที่มีการควบคุมสภาพแวดล้อม) เพื่อรองรับความต้องการเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชให้ตรงกับความต้องการในตลาดปัจจุบัน หรือพืชเมืองหนาวอย่างสตอเบอรี่ให้มีรสชาติที่หวานและมีขนาดลูกเทียบเท่ากับของต่างประเทศเป็นต้น ซึ่งจะออกมาในรูปแบบกล่องควบคุมการทำงานการเจริญเติบโตของพืชที่สั่งงานผ่านระบบอินเทอร์เนต""

เมื่อยิ่งใกล้จบ ม. 6 เจตนารมณ์ของนายก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ "ผมคิดไว้ว่า อนาคตอยากจะเป็นนักวิจัย เพราะเป็นงานที่เราชอบและมีความสุข และยังที่ได้คิคค้นสิ่งใหม่ๆ ประดิษฐ์ผลงานที่สร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมได้ตลอดเวลา ที่ผ่านมาถือว่าเป็นโอกาสสำคัญในการเรียนรู้ การเข้าโครงการต่อกล้าให้เติบใหญ่ ทำให้ผม เกิดกระบวนการคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์งานอย่างละเอียดมากขึ้น เพราะ เวลาเราจะสร้างผลงาน โปรดักส์หรือจะทำโปรเจคอะไรสักอย่าง เราจะต้องคำนึงว่าเราต้องทำให้มันออกมาแล้วมันเกิดประโยชน์และสามารถใช้ได้จริง ดังนั้น โครงการนี้ช่วยอย่างมากในเรื่องทำให้เราเห็นมุมมองตัวเองโตขึ้น รู้จักวางแผน และตัดสินใจรอบคอบมากขึ้น เช่น เรื่อง Business Model ที่เราต้องคำนึงถึง User มากกว่าเดิมครับ เพราะปกติผมทำงานสายนี้ผมแค่ทำงานตามโจทย์หรือทำตามงานวิจัย เลยไม่ได้คำนึงถึงว่า User ต้องการอะไร และการพัฒนาผลงานที่ดีเราจะต้องได้สิ่งใหม่…ถ้าไม่เกิดสิ่งใหม่ต้องได้ในสิ่งที่ดีกว่าเดิม" นายกล่าว

ด้านดร.วสิศ ลิ้มประเสริฐ อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ และอาจารย์ประจำสาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ. กล่าวว่า "รู้สึกภูมิใจในตัวลูกศิษย์คนนี้ เพราะนายเป็นคนขยัน อดทน และทุ่มเท มาแรกๆเขาอาจจะไม่รู้เรื่องคอมพิวเตอร์ และยังไม่สามารถเขียนโค้ดได้เลย แต่เขาจะเก่งในด้านอิเลคทรอนิกส์พื้นฐาน เพียงแค่เราเติมความรู้และทักษะบางอย่างให้บางเรื่อง เช่น ไอเดียเรื่องคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เข้าไปอีกนิดนึง เขาก็น่าจะไปได้ไกล….ตั้งแต่ม.4-6 เขามีพัฒนาการเรื่องคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เชื่อว่าถ้าเขาได้เพิ่มเติมความรู้หรือเรียนต่อทางด้านคอมพิวเตอร์หรือเทคโนโลยี เขาจะ เป็นนักประดิษฐ์ วิศวกร หรือโปรแกรมเมอร์ที่ดีได้ …อีกส่วนหนึ่งการที่เขาได้มีโอกาสเข้าไปแสวงหาความรู้ในโครงการต่อกล้าให้เติบใหญ่ ปี 5 ทำให้เขามีโอกาสได้พัฒนาผลงานด้านโครงงานวิทยาศาสตร์ให้เป็นชิ้นงาน หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้จริง …ซึ่งหากเป็นไปได้ผมอยากเห็นเยาวชนไทยได้ลองทำงานตั้งแต่เด็กๆเริ่มตั้งรุ่นม.ต้น ,ม.ปลาย เพื่อฝึกฝนทดลองทำจนเชี่ยวชาญ เพราะเมื่อเด็กเหล่านี้เติบโตขึ้นเขาจะได้รู้จักการประกอบอาชีพและต่อยอดการพัฒนาผลงานของเขาต่อไปได้"

ผลงานชิ้นนี้ได้จดสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อย และพร้อมจำหน่าย…หากผู้ประกอบการท่านใดสนใจสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0805267718 หรือ ผ่านช่องทางเว็บไซต์ : http://www.smartmushroombox.com

ติดตามรายละเอียดของโครงการต่อกล้าให้เติบใหญ่ และโครงการอื่นๆของเยาวชนได้ที่

https://www.scbfoundation.com / หรือแฟนเพจเฟสบุค https://www.facebook.com/scbfoundation/

HTML::image( HTML::image( HTML::image(