โรคระบบทางเดินหายใจที่พบได้บ่อย คือ โรคที่เกิดจากการติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน เช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ ทอนซิลอักเสบ คอหอยอักเสบ กล่องเสียงอักเสบ หรือการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง เช่น หลอดลมอักเสบ ปอดบวม เป็นต้น ทั้งหมดนี้เป็นโรคที่หลายคนก็คงคุ้นเคยเป็นอย่างดี
ผศ.นพ.อาชวินทร์ ตันไพจิตร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโสตศอนาสิก กล่าวว่า "โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจสามารถติดต่อกันได้ โดยเฉพาะโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนบน ซึ่งการติดต่อกันนั้น สามารถติดต่อได้โดย ไอ จาม หรือสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วย เช่น น้ำมูก น้ำลาย ที่มีเชื้อโรคปนอยู่ ซึ่งการสัมผัสอาจจะสัมผัสโดยตรง หรือ สัมผัสทางอ้อมผ่านทางของใช้ แก้วน้ำ ช้อน ส้อม เป็นต้น"
"โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจนั้นมากกว่าร้อยละ 80 ของผู้ใหญ่และเด็กเล็กนั้นมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัส รองลงมาคือแบคทีเรีย แต่ปัจจุบันนั้นเป็นที่น่ากังวลว่าคนจำนวนไม่น้อย นิยมใช้ยาปฎิชีวนะกันอย่างพร่ำเพรื่อ เพราะแท้จริงแล้วยาปฎิชีวนะนั้นจะฆ่าเฉพาะเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่สาเหตุหลัก และ ไม่เป็นประโยชน์แต่อย่างใดในกรณีติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ทั้งอาจจะส่งผลเสียต่อตัวผู้ป่วย โดยอาจเกิดผลข้างเคียงเช่น ผื่น ท้องเสีย หรือแพ้ยา อีกทั้งยังส่งผลต่อการดื้อยาของเชื้อแบคทีเรียให้เพิ่มมากขึ้น"
"การรักษาที่ถูกต้อง จึงแบ่งเป็น 2 แนวทาง การรักษาประคับประคองตามอาการ เช่น ทานยาลดไข้ ยาลดน้ำมูก ยาบรรเทาอาการไอ หรือการใช้สเปรย์พ่นคอสำหรับผู้ป่วยบางราย อย่างที่เราทราบว่าสาเหตุของการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนต้นเกิดจากไวรัส ดังนั้นการรักษาประคับประคองตามอาการจึงเป็นการรักษาส่วนใหญ่สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนต้น ยกเว้นกรณีของไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่อาจจะมีการให้ยาต้านไวรัสร่วมด้วย ขณะที่อีกแนวทางคือ การรักษาตามสาเหตุ ในกรณีที่สาเหตุของการติดเชื้อเกิดจากแบคทีเรีย แพทย์อาจเลือกใช้ยาปฏิชีวนะได้"
ด้าน วราวรรณ จันทรสมบูรณ์ รองผู้อำนวยการแผนกคอนซูเมอร์ บริษัท มุนดิฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด ที่มาพร้อมผลิตภัณฑ์ใหม่ เบตาดีน โทรตสเปรย์ (BETADINE THROAT SPRAY) และ เบตาดีน การ์เกิล (BETADINE GARGLE) กล่าวว่า "ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโทรตแคร์ทั้งสองแบบนี้ มีส่วนผสมสำคัญคือตัวยาโพวิโดน-ไอโอดีน ที่สามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ได้ในวงกว้าง ทั้งไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา ใช้สำหรับรักษาอาการระคายคอ เจ็บคอ ความรู้สึกไม่สบายที่คอ หากใช้ตั้งแต่เริ่มมีอาการป่วย ก็จะป้องกันการลุกลามของการติดเชื้อได้ โดยสามารถใช้กับเด็กตั้งแต่อายุ 6 ขวบขึ้นไป"
"การใช้สเปรย์พ่นคอ และการกลั้วคอ เป็นอีกหนึ่งในวิธีการดูแลตัวเองเมื่อเริ่มมีอาการป่วย อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยเองก็ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ใช้หน้ากากอนามัย เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อ ปิดปากและจมูก เมื่อ ไอ จาม. ดื่มน้ำให้เพียงพอ แยกของใช้ส่วนตัว เช่นผ้าเช็ดหน้า แยกภาชนะสำหรับบริโภค เช่น แก้วน้ำ ช้อน ส้อม และงดไม่สูบบุหรี่ หากอาการยังไม่ดีขึ้นก็ควรไปพบแพทย์"
ด้าน คุณแม่ เกศราภรณ์ เอี่ยมศิริธนากร ที่ควงคู่มากับ น้องมะลิ เล่าให้ฟังว่า "กิจกรรมที่น้องมะลิชอบก็คือการเล่นกีฬากับร้องเพลง การดูแลสุขภาพจึงสำคัญมากๆ เพราะเวลามะลิป่วย เขาก็จะหมดสนุก โดยเฉพาะการร้องเพลง เพราะว่าถ้าไอ เจ็บคอ หรือเป็นหวัด เขาก็จะใช้เสียงได้ไม่เต็มที่ วันนี้ก็ได้ทราบวิธีการดูแลที่ถูกต้องและจะได้นำไปใช้แน่นอนค่ะ
สำหรับปีใหม่นี้ครอบครัวเราจะไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นกัน ซึ่งอากาศกำลังหนาวเลยค่ะ ก็ต้องให้เขาใส่เสื้อผ้าอุ่นๆ ตลอด คอยให้ดื่มน้ำอุ่น และเตรียมยาไว้ไปเผื่อด้วยค่ะ"
ขณะที่ กัญญภัส วรรณภิญโญชีพ และ น้องอัยย์ณะ ก็เตรียมไปท้าลมหนาวกันที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยเล่าว่า "ช่วงปีใหม่แบบนี้ จะพาครอบครัวไปเที่ยวที่เชียงใหม่ทุกปีค่ะ เป็นที่โปรดของน้องอัยย์ณะเลยทีเดียว เพราะเขาชอบไปสวนสัตว์ ทั้งสวนสัตว์เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี สวนเสือ ที่ถูกใจเขาที่สุดคือสวนกระต่าย ชอบถึงขนาดให้พาหาน้องกระต่ายไปทุกวันเลยค่ะ
แต่ละวันเขาทำกิจกรรมเยอะ แต่คุณแม่อย่างเราไม่เคยต้องห่วงเลย เพราะสอนให้เขารักษาความสะอาดจนเป็นนิสัย เช่น ก่อนจะรับประทานอาหารต้องล้างมือทุกครั้ง มีเจลล้างมือนามัยให้เขาติดตัวไว้ ในส่วนของคุณแม่เองก็จะดูแลเรื่องการรับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่ ต้องรับประทานผลไม้ทุกวัน
แต่สิ่งที่เป็นห่วงที่สุด ก็คือ เรื่องสุขภาพทางเดินหายใจ ปกติดูแลเขาในเรื่องนี้โดยให้เขาล้างจมูกทุกวัน วันนี้ก็ได้ความรู้ดีๆ จากคุณหมอ ที่จะมาช่วยรับมือเวลาที่เขาเริ่มมีอาการไอ หรือเจ็บคอ"
ส่วนคุณแม่ลูกสาม นันทนัช มงคลรัตนชาติ ก็เป็นอีกท่าน ที่ได้เรียนรู้สิ่งดีๆ ไปจากงานในวันนี้ไปไม่น้อย แชร์ประสบการณ์ให้ฟังว่า "ลูกชายคนโตเป็นนักกีฬาของโรงเรียนค่ะ ชอบเล่นบาสและตีกอล์ฟมาก อีกกีฬาที่เขาชอบก็คือฮอกกี้น้ำแข็ง มีการซ้อมเกือบทุกวัน ส่วนลูกชายคนเล็กก็เริ่มชอบเล่นฮอกกี้น้ำแข็งตามพี่ชายไปแล้ว ส่วนลูกสาวคนกลางก็มีความชอบหนีไม่พ้นความหนาวเย็นเช่นกันนั่นก็คือไอซ์สเก็ตค่ะ (หัวเราะ)
ลูกทั้งสามคนไม่ค่อยมีปัญหาสุขภาพ เพราะเป็นนักกีฬา ออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้ว ส่วนคุณแม่ก็จะดูแลเรื่องอาหารเป็นหลัก ให้เขาทานอาหารที่มีประโยชน์ทั้งมื้อหลักและของทานเล่น ส่วนที่กังวลก็เป็นเรื่องการเจ็บป่วยจากอากาศที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาชอบเล่นกีฬาที่อยู่บนลานน้ำแข็งและอากาศเย็น ก็ต้องใส่ใจเรื่องนี้มากๆ คอยสังเกตเขาว่ามีอาการที่ฟ้องว่ากำลังจะป่วยหรือเปล่า"
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit