"ผม เมดิ เซนท์-อังเดร์ เพิ่งเข้ามารับหน้าที่เป็นผู้บริหารสูงสุด ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของยารา ประเทศไทยครับ ผมร่วมงานกับบริษัทยาราเป็นเวลาถึง 12 ปีแล้ว เริ่มจากผู้จัดการฝ่ายการค้าในกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมแก๊สของยาราในประเทศฝรั่งเศส และเริ่มเข้ามาในธุรกิจโภชนาการพืช หรือ Crop Nutrition ซึ่งก็คือ ปุ๋ยยารา นี่แหละครับ โดยผมเริ่มต้นในประเทศกานา อยู่ที่นั่นเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งผมอยู่ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ 4 ปี และย้ายมาที่เวียดนามอีก 4 ปีในตำแหน่งเดียวกัน และล่าสุดผมเพิ่งย้ายเข้ามาประจำการในประเทศไทยได้ประมาณ 5 เดือนครับ"
แม้จะใหม่ในตลาดประเทศไทย แต่ด้วยประสบการณ์และมุมมองในธุรกิจภาคการเกษตรที่เฉียบคม มร.เมดิ จึงได้รับเลือกให้มาเป็นหัวเรือใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงในภูมิภาคเอเชีย และทั่วโลก มร.เมดิ แชร์วิสัยทัศน์ในการเข้ารับภาระใหญ่ครั้งนี้ว่า
"ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีศักยภาพมากครับ ถ้าเทียบระดับโลก ประเทศไทยอยู่ในอันดับหนึ่งใน 10 ยอดขายสูงสุด ส่วนถ้าเป็นเอเชียเราก็เป็นผู้นำในอันดับต้นๆ เช่นกันครับ เพราะเมืองไทยเป็นประเทศที่มีการทำเกษตรกรรมเป็นหัวใจหลักในการผลักดันขับเคลื่อนประเทศ และมีอันดับการเติบโตของยอดขายปุ๋ยยาราที่สูงมาก ซึ่งเรื่องนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทยาราเป็นอย่างมากครับ ที่ยาราสนับสนุนเกษตรกรรมไทย และเกษตรกรไทยอย่างแท้จริง เราทำงานมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับเกษตรกร ในหัวใจของเราทุกคนทุ่มเทเพื่อเกษตรกรรายย่อยซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดครับ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาสินค้าปุ๋ยธาตุอาหารคุณภาพสูงของเรา ที่เน้นคุณภาพที่ดีในระดับพรีเมียม ที่ช่วยส่งเสริมผลผลิตได้สูง คุ้มค่ากับการลงทุนของเกษตกร ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ องค์ความรู้เรื่องดิน ธาตุอาหาร และเทคนิคการปลูก ที่เรามีความเชี่ยวชาญ และมีการวิจัยพัฒนามาเป็นอย่างดี มีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ซึ่งจำเป็นอย่างมากครับที่เราจะต้องถ่ายทอดข้อมูลความรู้เหล่านี้ให้กับเกษตรกรของเรา เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรไทยได้ใช้ปุ๋ยยาราได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ มีความคุ้มค่า และผลที่สุด คือ ยาราเราได้มีส่วนในการช่วยส่งเสริมรายได้ให้กับเกษตรกรไทยครับ"
บริษัทยาราได้ดำเนินธุรกิจครั้งแรกในประเทศนอร์เวย์ มาจนถึงปัจจุบันนี้ กว่า 112 ปีแล้ว ปัจจุบัน ยารา เป็นปุ๋ยธาตุอาหารคุณภาพสูงอันดับ 1 ในใจเกษตรกรไทย ที่ได้รับความไว้ใจและเชื่อมั่นมากว่า 45 ปี ปุ๋ยทุกถุงถูกผลิตตามมาตรฐานระดับโลกจากโรงงานยาราในประเทศแม่อย่างนอร์เวย์ และอีกบางประเทศในภาคพื้นยุโรป ทั้งยังได้ผ่านการวิจัย พัฒนา และการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง อาทิ นักปฐพีวิทยา ในระดับสากลอีกด้วย ซึ่งในครั้งนี้ มร.เมดิ ยังได้กล่าวถึงกลยุทธ์สำคัญของการรักษาความเป็นผู้นำของปุ๋ยยาราในตลาดประเทศไทยอีกด้วยว่า
"ยาราจะมุ่งเน้นที่เกษตรกร (Farmer centric) และการถ่ายทอดความรู้ (Knowledge grows) เป็นสำคัญครับ โดยเราจะมุ่งพัฒนาและให้ข้อมูลความรู้แก่เกษตรกรให้ตรงตามความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละกลุ่มพืช ซึ่งกลุ่มที่สำคัญในประเทศไทย ได้แก่ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ทุเรียน ลำไย และผักใบครับ"
"และนอกจากนี้ ยารายังให้ความสำคัญกับพันธมิตรคู่ค้าร้านเกษตรภัณฑ์ที่จำหน่ายปุ๋ยยาราด้วยนะครับ คู่ค้าของเราจะต้องได้รับการบริการ การดูแลที่ดี รวมทั้งต้องได้รับการสนับสนุนทางธุรกิจในแง่มุมต่างๆ เช่น การตกแต่งร้าน หรือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายหน้าร้าน และจะต้องได้รับการถ่ายทอดความรู้ที่ถูกต้องจาก ยาราอีกเช่นกันด้วย โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันนี้ ที่สื่อ และเทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมาก นอกจากยาราจะนำเอาสื่อ และเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยเหลือเกษตรกรแล้ว ยารายังจะนำสื่อดิจิทัลมาใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารและรักษาสายสัมพันธ์ระหว่างยารากับเกษตรกรและคู่ค้าในอนาคตอีกด้วยครับ"ทัศนะ และวิสัยทัศน์ที่สำคัญของผู้บริหารผู้มากความสามารถของยาราท่านนี้ ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า เขาจะผลักดันให้ปุ๋ยยารายังคงรั้งตำแหน่งแชมป์ผู้นำปุ๋ยธาตุอาหารในประเทศไทยได้ต่อไปอีกยาวนานอย่างแน่นอน มร.เมดิ ยังทิ้งทวนประโยคสุดท้ายอีกด้วยว่า "ปีหน้านี้ ยาราในประเทศไทยยังมีอะไรสนุกๆ น่าตื่นเต้นให้ติดตามกันอีกมากนะครับ อยากให้ติดตามกันครับ" นี่คงเป็นข่าวดีของเกษตรกรไทย ที่จะได้ใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพดี ที่ช่วยส่งเสริมให้ผลผลิตดี มีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมทั้งคู่ค้าธุรกิจเกษตรภัณฑ์ไทยเอง ที่จะได้สร้างธุรกิจและเติบโตร่วมกันไปอย่างยั่งยืนกับยาราอีกด้วย
HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit