ทั้งนี้ นิทรรศการดังกล่าว รัฐบาลได้มอบหมายให้คณะกรรมการจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) รวมถึงหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องจัดนิทรรศการดังกล่าวขึ้น ซึ่งประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก คือ 1. บริเวณพระที่นั่งทรงธรรม นิทรรศการ "พระผู้ทรงเป็นนิรันดร์" เนื้อหาเกี่ยวกับพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจและจิตรกรรมฝาผนังโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 2.บริเวณศาลาลูกขุน 6 หลัง นิทรรศการ "พระเมรุมาศพิมานนฤมิต" เนื้อหาแสดงถึงการจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศและงานบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศที่ใช้ในงานพระราชพิธีฯ
3.บริเวณทับเกษตร นำสัมผัสพระสุเมรุ:นิทรรศการสัมผัสเพื่อผู้พิการทางสายตา จัดแสดงพระเมรุมาศจำลองและประติมากรรมประกอบพระเมรุมาศ อาทิ เทวดา สัตว์หิมพานต์ โดยมีอาสาสมัครนำชม ส่วนผู้พิการทางการได้ยิน มีจิตอาสานำชมด้วยภาษามือ และ4.ภูมิทัศน์บริเวณด้านหน้าพระเมรุมาศ สะท้อนให้เห็นถึงพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ 9 อันเนื่องมาจากโครงการพระราชดำริ เช่น พันธุ์ข้าวพระราชทาน หญ้าแฝก ต้นยางนา มะม่วงมหาชนก กังหันชัยพัฒนา ฝายน้ำล้น และนาข้าวที่มีขอบคันนาออกแบบเชิงเป็นเลขเก้าไทย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า จากการที่ได้เปิดให้ประชาชนเข้าชมนิทรรศการพระเมรุมาศฯนับตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายนจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560 รวมระยะเวลา 60 วัน ปรากฎว่ามีผู้เข้าชมนิทรรศการทั้งหมด 4,000,086 รูป/คน แบ่งเป็นพระภิกษุ/สามเณรและแม่ชี 23,499 รูป/คน วีลแชร์ 58,185 คน ผู้พิการ 5,183 คน กลุ่มชาติพันธุ์ 320 คน นักท่องเที่ยวต่างชาติ 61,203 คน ซึ่งพบว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 96 ประเทศ โดยประเทศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ เยอรมัน จีน อเมริกา อังกฤษและฝรั่งเศส รวมทั้งสื่อมวลชน 2,106 คน ประชาชน 3,096,163 คน และนักเรียนและนักศึกษา 753,427 คน
อย่างไรก็ตาม วธ.ได้จัดพิมพ์และแจกแผ่นพับนำชมนิทรรศการฯ ซึ่งมีทั้งฉบับภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน รวมถึงได้จัดพิมพ์และแจกโปสการ์ดที่ระลึกโดยคัดเลือกภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ และภาพพระเมรุมาศ อาคารประกอบและภูมิทัศน์โดยรอบพระเมรุมาศมาจัดพิมพ์ 2 รอบโดยจัดพิมพ์รอบละ 9 แบบ รวม 18 แบบ
ทั้งนี้ วธ.ขอขอบคุณทุกภาคส่วนทั้งทหาร ตำรวจและพลเรือนจากหน่วยงานต่างๆที่มาทำหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและดูแลรักษาความปลอดภัย รวมกว่า 3,900 คนต่อวัน รวมทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนที่ให้การสนับสนุนในการดูแลประชาชนที่เข้าชมนิทรรศการจนสิ้นสุดระยะเวลาเข้าชม ซึ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย