สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ถนนนิคมมักกะสัน กรุงเทพฯ โทร. 0 2253 0561 หรืออีเมล [email protected]
นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า นิคมอุตสาหกรรม มาบตาพุด เป็นหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญและศักยภาพสูงลำดับต้นๆ ของพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี โดยเป็นทั้งฐานการผลิตอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขนาดใหญ่อันดับที่ 5 ของเอเชีย และอันดับ 1 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งยังมีความสำคัญต่อการพัฒนาในด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี อุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงกับระบบดิจิทัล ต่อเนื่องไปถึงการเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งกนอ. พบว่า ในปี 2561 แนวโน้มการลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว นักลงทุนยังคงให้ความสนใจทั้งในการลงทุนและการขยายธุรกิจในระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ รวมทั้งอุตสาหกรรมที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง
ดังนั้น ในปี 2561 นี้ กนอ.จึงได้เตรียมการลงทุนในพื้นที่นิคมฯ ดังกล่าวด้วยการจัดสรรงบประมาณกว่า 13,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนา 2 โครงการใหญ่ ได้แก่ โครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม Smart Park ในเขตธุรกิจอุตสาหกรรมของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง บนพื้นที่ 1,500.97 ไร่ งบประมาณการลงทุน 2,097 ล้านบาท เพื่อรองรับอุตสาหกรรมใหม่แห่งอนาคตตามเป้าหมายของรัฐบาล เช่น อุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ และอุตสาหกรรมที่มีการใช้พลังงานสะอาดในกระบวนการผลิตและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับในปัจจุบันโครงการฯ อยู่ในขั้นตอนการศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility Study) และออกแบบโครงสร้างพื้นฐานเบื้องต้น (Conceptual Design) พร้อมทั้งการจัดทำร่างรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการฯ (EIA) คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2563
ส่วนอีกหนึ่งโครงการคือโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ซึ่ง กนอ.ได้เตรียมการพัฒนาพื้นที่รองรับท่าเทียบเรือไว้ประมาณ 1,000 ไร่ เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการก๊าซธรรมชาติ (LNG) ที่ประเทศไทยจำเป็นต้องมีการนำเข้าประมาณ 16 – 32 ล้านตัน/ปีในอีกไม่ถึง 10 ปีข้างหน้า พร้อมทั้งรองรับการขยายตัวด้านการขนส่งสินค้าเหลวและก๊าซธรรมชาติที่เป็นวัตถุดิบสำคัญของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่นิคมฯ มาบตาพุดและบริเวณใกล้เคียง เบื้องต้นจะใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 11,000 ล้านบาท และพร้อมที่จะเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาท่าเทียบเรือได้ในปี 2561 โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2567 และเมื่อท่าเรือฯ เปิดดำเนินการแล้วจะสามารถรองรับการขนถ่ายสินค้าได้เพิ่มมากอีกประมาณ 20 ล้านตันต่อปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพการให้บริการของท่าเรืออุตสาหกรรม มาบตาพุดที่มีคุณภาพและเชื่อมโยงการขนส่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นายวีรพงศ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในปี 2561 กนอ.มีพื้นที่ที่พร้อมรองรับการลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกไว้แล้วประมาณ 24,000ไร่ พร้อมทั้งเตรียมแผนการสรรหาพื้นที่เพิ่มเติมสำหรับสร้างนิคมฯ ใหม่อีกประมาณ 16,000 ไร่ นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะสรรหาพื้นที่เพื่อการจัดตั้งสวนอุตสาหกรรม เขตอุตสาหกรรม และอื่นๆอีกประมาณ 10,000 ไร่ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยรองรับความต้องการของนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในระดับต่างๆ ในพื้นที่ดังกล่าวทั้งในปีนี้และปีอื่นได้อย่างเหมาะสม
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ถนนนิคมมักกะสัน กรุงเทพฯ โทร. 0 2253 0561 หรืออีเมล [email protected]