ดรอปโซนฯ ทุ่มงบกว่า 100 ล้าน พร้อมผนึก ททท. – ไทยแอร์เอเชีย สร้างปรากฏการณ์ใหม่ มิวสิก เฟสติวัล หนุนไทยขึ้นเดสติเนชั่นใหม่เทศกาลดนตรีระดับโลก - ดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

12 Jan 2018
ปรากฏการณ์มิวสิค เฟสติวัล รูปแบบใหม่ในภูมิภาคเอเชีย เป็นครั้งแรก !!! บริษัท ดรอปโซน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ นำโดย 2 ผู้บริหารของบริษัท อาทิ คุณเมลตี้ เมลาณี ตันติวานิช และ มร.เฮอมาน พาเลา ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท พร้อมผนึกกำลังกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยคุณยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. และ สายการบินไทยแอร์เอเชีย โดยคุณซูซาน ยิน ผู้บริหารของสายการบิน จัดแถลงข่าวการจัดเทศกาลดนตรีระดับโลก "Dropzone Festival Bangkok 2018 (ดรอปโซน เฟสติวัล แบงค็อก 2018) โดยภายในงานแถลงข่าวยังมีคณะผู้บริหารจากภาคส่วนอื่น ๆ อาทิ คุณวินิจ เลิศรัตนชัย CEO บ.เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด ให้เกียรติมาร่วมงานและพูดคุยบนเวทีกันอีกมากมาย ตลอดจนเหล่าศิลปินดารา อาทิ เคน ภูภูมิ พงศ์ภาณุ , ทิมมี่ ทิโมธี สุปรีย์ลีลา ติช่า กันติชา ชุมมะ ที่มาร่วมโชว์เรียกน้ำย่อย ณ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ วันก่อน
ดรอปโซนฯ ทุ่มงบกว่า 100 ล้าน พร้อมผนึก ททท. – ไทยแอร์เอเชีย สร้างปรากฏการณ์ใหม่ มิวสิก เฟสติวัล หนุนไทยขึ้นเดสติเนชั่นใหม่เทศกาลดนตรีระดับโลก - ดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

ทางด้านนางสาวเมลาณี ตันติวานิช เอ็กเซ็กคิวทีฟ โปรดิวเซอร์ บริษัท ดรอปโซน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผู้จัดงานเทศกาลดนตรี ดรอปโซน เฟสติวัล แบงค็อก 2018 เปิดเผยว่า "งานเทศกาลดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์ (International Tech - Music Festival) ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนทั่วโลกในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยเพิ่มขึ้นถึง 60% และประเทศไทยก็เป็นตลาดหนึ่งที่มีศักยภาพที่พร้อมมากในการจัดงานเทศกาลดนตรีระดับโลก บริษัทฯ จึงได้ลงทุนกว่า 100 ล้านบาท จัดงาน "ดรอปโซน เฟสติวัล แบงค็อก 2018" เทศกาลดนตรีในรูปแบบ Tech - Integrated Music Festival เป็นครั้งแรกที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 2 - 3 มีนาคม 2561 นี้ ณ วันเดอร์เวิร์ลเอ็กซ์ตรีม ปาร์ค (Wonderworld Extreme Park) ถนนรามอินทรา โดยงานมหกรรมดนตรีระดับโลกดังกล่าวนี้ บริหารจัดการตามมาตรฐานระดับโลก ทั้งระบบภาพ แสง และเสียงที่มีเทคนิคสุดล้ำทันสมัย และมีทีมงานชื่อดังจากยุโรป Switch Audiovisuals ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของงาน Sónar Barcelona ร่วมกับ Ledscontrol ทีมงานด้านโปรดักชั่นดีไซน์ระดับโลกที่มีรางวัลการันตีมากมาย และยังเป็นผู้สร้างเวที Garuda ของ DWP และคลับชื่อดังต่างๆ ของโลกรวมถึง Zouk ในสิงคโปร์ และซุเปอร์คลับอย่าง Space และ Amnesia ที่อีบีซาในสเปนอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีผู้เชี่ยวชาญสายต่างๆ ที่มีผลงานระดับแนวหน้าของยุโรปอีกเป็นจำนวนมาก เช่น Tomorrowland และ Primavera Sound เป็นต้น ที่สำคัญความสดใหม่ และความไม่ธรรมดาของงานนี้คือ ความสร้างสรรค์ในการผสมผสานคุณสมบัติของวีดีโอเกมส์ และภาพยนตร์เข้าไปในเทศกาลดนตรีได้อย่างลงตัว ซึ่งทีมงานพร้อมพันธมิตรการันตีว่างานนี้จะฉีกกฎ และสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับมิวสิคเฟสติวัลเป็นครั้งแรกในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชีย ทั้งอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนของการจัดงานมิวสิคเฟสติวัลระดับโลกอีกด้วย" นางสาวเมลาณีกล่าว

นางสาวเมลาณี กล่าวต่อไปว่า "บริษัทฯ วางแผนจะจัดงานขึ้นเป็นเทศกาลประจำปีในกรุงเทพฯ ต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวถึง 5 ปี (2561 – 2565) โดยทั้ง 5 ครั้งนี้จะจัดเป็นธีมในแนวนวนิยายแบบ Sci-fi ที่บอกเล่าเรื่องราว Post - apocalyptic หรือโลกในยุคที่เพิ่งผ่านพ้นจากภัยพิบัติแบ่งเป็น 5 ตอนด้วยกัน โดยในปีแรกใช้ชื่อว่า Chapter 1: Apocalypse เป็นการเปิดตัวและแนะนำนักปาร์ตี้ทั้งหลายสู่โลกแห่งดรอปโซน เน้นไปที่สุนทรียะแนวไซเบอร์พังก์ โดยมีเหล่า Audiomancers หรือดีเจแนวอิเล็กทรอนิกส์มิวสิคชื่อดังมากมาย อาทิ Dash Berlin, Kaskade, Sven Vaeth, Paul Van Dyk, Valentino Khan ฯลฯ ประจำอยู่ตามเวทีต่างๆ ซึ่งผู้จัดตั้งใจที่จะสร้างสรรค์ให้งานนี้เป็นงานปาร์ตี้แบบเกมส์ MMORPG เสมือนจริงครั้งแรกในโลก เรามีเวทีหลัก 3 เวทีคือ The Core, The Station และ The Armory นอกจากนี้ยังมีโซนต่างๆ อาทิ โซน The Arcade ที่มี 360 VR Dome ของเล่นจาก Pro-toys และ Instaroid พร้อมผลงานจากสตูดิโอภาพยนตร์ชื่อดังของโลก และของเล่นเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมากมาย โซน The Arena เป็นโซนเล่นยิงเลเซอร์นำเสนอโดย Lazgam และ The Bazaar โซนอาหารและงานศิลปะที่จะถูกตกแต่งเสมือนฉากในภาพยนตร์ Sci-fi ต่างๆ และในปีต่อๆ ไปเราก็จะเน้นการสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่าขึ้นไปเรื่อยๆ โดยให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยี เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้สนุกกับการเล่นและมีปฏิสัมพันธ์กับโลกที่ดรอปโซนได้สร้างขึ้น การจัดงานในครั้งนี้ เราได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสายการบินแอร์เอเชีย พร้อมทั้งหน่วยงานภาคเอกชนอีกหลายองค์กร ซึ่งมีความเห็นร่วมกันว่า การจัดงานเทศกาลดนตรีดรอปโซน เฟสติวัล แบงค็อก 2018 จะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาท่องเที่ยวในเมืองไทยเพิ่มมากขัน อีกทั้งยังทำให้ประเทศไทยกลายเป็นเดสติเนชั่นใหม่แห่งเทศกาลดนตรีระดับนานาชาติอีกด้วย"

สำหรับบัตรเข้างานจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 3,500 บาท แบ่งเป็นบัตร EARLY ACCESS Silver Pass (2 วัน) และ Gold Pass (2 วัน) พร้อมมี Diamond Dome สำหรับ 10 ท่าน และ Gold Tables สำหรับ 6 ท่าน โดยบัตรแต่ละประเภทจะได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ กัน ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสามารถซื้อบัตรได้ที่ https://www.ticketmelon.com/event/dropzonefestivalbangkok2018 และทำการสำรอง Diamond Dome ได้ที่ อีเมล์: [email protected] // ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ได้ที่เว็บไซด์: www.dropzonefestival.com และช่องทางโซเชียล มีเดีย ได้ที่ : @dropzonefestival ทั้งนี้ทางผู้จัดมั่นใจว่า ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับความสนุกสนาน พร้อมสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นประทับใจมากมายในงานเทศกาลดรอปโซนเฟสติวัล รวมไปถึงการจัดพรีปาร์ตี้ (Pre - Party) ที่คลับชั้นนำของเมืองไทยก่อนวันจัดงานจริงอีกด้วย

HTML::image( HTML::image( HTML::image(