ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) กล่าวว่า "วท. ได้รับมอบหมายในการสร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในประเทศไทยเพื่อขับเคลื่อนให้เกิด "ไทยแลนด์ 4.0" ขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยอาศัยแนวทางประชารัฐของรัฐบาลในการดำเนินงาน 3 เรื่อง ได้แก่ 1) การเตรียมคนไทยเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 2) การลดความเหลื่อมล้ำในสังคม3) การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ดังนั้น วท. จึงมุ่งเน้น "วิทย์สร้างคน วิทย์แก้จน และวิทย์เพิ่มรายได้"ทั้งนี้ โจทย์สำคัญจึงเป็นการเตรียมคนไทย โดยเฉพาะเยาวชนรุ่นใหม่ให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เราไม่รู้ว่ามันคืออะไร และต้องใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมอะไรในการแก้ไขปัญหาเหล่านั้น คนไทยในศตวรรษที่ 21 จะต้องเป็นอย่างไร มีทักษะมีความรู้ หรือจะต้องประกอบอาชีพอะไร นี่คือคำถามที่เราทุกคนก็ไม่ทราบคำตอบที่แท้จริง ดังนั้น สิ่งที่เราสามารถทำกันได้
ในวันนี้ก็คือ การค้นหา "ต้นแบบ" ของผู้ที่ประสบความสำเร็จในสาขาอาชีพที่แต่ละคนทำอยู่ แล้วนำมาเป็น "แรงบันดาลใจ" เพื่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ เกิดกำลังใจในการเข้ามาช่วยกันคิดพัฒนาโมเดลทางธุรกิจแบบช่วยเหลือเกื้อกูลกันในสังคมลดความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นในสังคมให้เติบโตไปด้วยกัน นอกจากนี้ การปลูกฝังการคิดบวกหรือมีทัศนคติที่ดี ความเป็นเหตุเป็นผล มีตรรกะแบบวิทยาศาสตร์ให้กับเด็กทั้งจากการเลี้ยงดูในครอบครัว โรงเรียนและสังคมรอบด้าน จะช่วยสร้างลูกหลานของเราให้เป็นคนไทยที่มีคุณภาพในศตวรรษที่ 21 ได้ต่อไป และสามารถขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น "เมืองแห่งนักพัฒนา" ที่สอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 สู่การพัฒนาที่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน"
ดร. พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ สนช. กล่าวว่า "ประเทศไทยกำลังตกอยู่ในกับดักประเทศรายได้ปานกลาง ค่าครองชีพสูง เศรษฐกิจชะลอตัว รูปแบบสินค้าไม่หลากหลาย การส่งออกสินค้าลดลง ในขณะที่สินค้าและบริการจากต่างประเทศกำลังหลั่งไหลเข้ามาพร้อมกับแนวคิดการค้าเสรี ดังนั้น หากคนไทยยังไม่ปรับตัว และลุกขึ้นมาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ด้วยตนเอง ก็อาจจะไม่สามารถแข่งขันในเวทีโลกได้ "นวัตกรรม" จึงเป็นเสมือนเครื่องมือสำคัญที่จะนำประเทศให้ก้าวข้ามปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ ซึ่งต้องอาศัยการใช้ความรู้ในหลากหลายสาขาอย่างบูรณาการในการสร้างสรรค์ "สิ่งใหม่" ที่สร้างให้เกิดคุณค่าที่ดีกว่าเดิม เพื่อประโยชน์ทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจ และเกิดการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ที่ดียิ่งขึ้น ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นสินค้าที่มีเทคโนโลยี นวัตกรรมจึงถือเป็นอีกกลไกหนึ่งที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นประเทศนวัตกรรม (Innovation Thailand) และพร้อมก้าวสู่ประเทศไทย 4.0"
"สำหรับโครงการหนังสือ "ร้อยคนไทยหัวใจนวัตกรรม" จัดทำขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศ โดยเป็นการรวบรวมแนวคิด ผลงานความสำเร็จของบุคคลผู้สร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในประเทศไทยจากหลากหลายสาขาอาชีพ จำนวน 100 ท่าน เพื่อนำเสนอต้นแบบผู้สร้างแรงบันดาลใจที่เป็นผู้ริเริ่มและสามารถสร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในสาขาอาชีพต่างๆ
ซึ่งจะส่งเสริมให้เกิดการสร้าง "คนไทย 4.0" ที่กล้าคิดนอกกรอบ มีแรงบันดาลใจที่จะสร้างสรรค์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดี หรือพัฒนาสิ่งใหม่ขึ้นในสาขาอาชีพต่างๆ และเป็นการสนับสนุนให้ประเทศสามารถก้าวสู่ "ประเทศไทย 4.0" ตามนโยบายรัฐบาลได้ต่อไป นอกจากนี้ ภายในงานยังมีนิทรรศการเรื่องราวของบุคคลทั้ง 100 ท่านและซุ้มถ่ายภาพด้วยเทคโนโลยีโฮโลแกรม ซึ่งผู้เข้าชมจะสามารถถ่ายภาพโฮโลแกรมของบุคคลทั้ง 100 ท่าน หรือจะถ่ายกับโฮโลแกรมของตัวเองก็ได้ รวมถึงการเสวนาเรื่อง "การสร้างการเปลี่ยนแปลง" ของตัวแทนบุคคลในหนังสือที่จะผลัดเปลี่ยนกันมาบอกเล่าประสบการณ์ในช่วงเย็นของทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 24-28 มกราคม 2561 ทั้งนี้ สนช. หวังว่าการจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะถ่ายทอดชีวิตและการเดินทางของความคิดสร้างสรรค์ของ "นวัตกรไทย" จากหลากหลายสาขาอาชีพและประสบการณ์ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับ "คนไทย" ได้ซึมซับเอาพลังสร้างสรรค์จากบุคคลเหล่านี้เป็นแรงผลักดันให้ลุกขึ้นคิดค้นนวัตกรรมรูปแบบของตัวเอง" ดร. พันธุ์อาจ กล่าวเพิ่มเติม
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit