"การจัดงานกระบือแห่งชาติในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมให้การพัฒนาการเลี้ยงกระบือของประเทศเป็นไปอย่างกว้างขวาง มีประสิทธิภาพ เกษตรกรผู้เลี้ยงมีผลกำไร เกิดการพัฒนาตลอดห่วงโซ่การผลิต มีเนื้อและผลิตภัณฑ์จากกระบือออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคไม่แตกต่างจากเนื้อโค ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมที่จะให้การสนับสนุนอาชีพการเลี้ยงกระบือของเกษตรกรอย่างเต็มที่ต่อไป" นายธนิตย์ กล่าว
สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การประกวดกระบือ โดยได้รับพระราชทานถ้วยรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี สำหรับกระบือที่ชนะเลิศประเภทแกรนด์แชมป์ 2 รางวัล คือ แกรนด์แชมป์เพศผู้และเพศเมีย นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมแสดงพันธุ์สัตว์ นิทรรศการความรู้ด้านปศุสัตว์ การแสดงผลิตภัณฑ์สัตว์ และการจำหน่ายผลผลิตปศุสัตว์จากประชารัฐด้วย
ทั้งนี้ ในปี พ.ศ. 2522 กระบือในประเทศมีจำนวนมากถึง 6 ล้านตัว และหลังจากนั้นมีจำนวนลดลงทุกปี เนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่หันไปใช้เครื่องจักรกลแทน นอกจากนี้ ยังมีปัญหาขาดแคลนพื้นที่เลี้ยงสัตว์ ขาดแคลนแรงงาน กระบือมีขนาดเล็กลงจากการผสมพันธุ์แบบเลือดชิด และเกษตรกรขาดความรู้ในการปรับปรุงพันธุ์และคัดเลือกพันธุ์ที่ถูกต้อง ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ. 2538 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์จึงได้ริเริ่มให้มีการจัดงานกระบือแห่งชาติขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อเป็นการกระตุ้นส่งเสริมให้เกษตรกรเห็นความสำคัญและกลับมาเลี้ยงกระบือให้มากขึ้น รวมทั้งมุ่งหวังให้เป็นเวทีในการถ่ายทอดความรู้ในการปรับปรุงและคัดเลือกพันธุ์ และการจัดการเลี้ยงดูกระบือที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ