โครงการ "บทเพลงรักแห่งแผ่นดิน" ปีที่ 7 โดยกองทัพบกร่วมกับบริษัท ปตท.. จำกัด (มหาชน) เปิดโอกาสครั้งสำคัญให้กับเยาวชนที่มีใจรักด้านดนตรีอีกครั้ง โดยปีนี้จัดภายใต้แนวคิด สืบสานพระราชปณิธาน บทเพลงพระราชนิพนธ์ น้อมถวายแด่องค์ราชัน เพื่อให้เยาวชนระดับมัธยมศึกษาทั่วประเทศ ได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และร่วมส่งเสริมศักยภาพของเยาวชนที่มีใจรักในด้านดนตรี ได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่และสร้างสรรค์ ผ่านบทเพลงไพเราะร่วมสมัย ชิงถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
โครงการ "บทเพลงรักแห่งแผ่นดิน" ปีที่ 7 จัดขึ้นเพื่อเชิญชวนให้ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นเป้าหมายหลัก ได้ร่วมกันแสดงความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผ่านการประกวดวงดนตรีสากลร่วมสมัยระดับมัธยมศึกษา ภายใต้แนวคิด "สืบสานพระราชปณิธาน บทเพลงพระราชนิพนธ์ น้อมถวายแด่องค์ราชัน" ซึ่งเราภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ในปีก่อนมีเยาวชนให้การตอบรับเข้าร่วมโครงการมากกว่า 100 โรงเรียน
ออมสิน-น.ส.ชนินาถ ศิริสวัสดิ์ ชั้น ม.6 จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ตัวแทนทีมชนะเลิศโครงการ "บทเพลงรักแห่งแผ่นดิน" ปีที่ 6 กล่าวว่า รางวัลนี้เป็นรางวัลที่ได้ยากมากและเป็นความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต การประกวดมีวงดนตรีมาประกวดทั่วประเทศ ทำให้มีวงเก่งๆ มาแข่งมากมาย และการคัดเลือกก็เข้มข้นรวมถึงคณะกรรมการทุกคนเก่งมาก การได้รางวัลนี้มาจึงเหมือนเป็นการการันตีว่าวงเราได้ผ่านการซ้อมมาหนักและก็ทำออกมาได้ดีจริง เมื่อได้ถ้วยประทานมาอยู่ที่โรงเรียนหนึ่งปี นอกจากจะรู้สึกภูมิใจและดีใจอย่างมากแล้ว ก็อยากจะรักษาแชมป์ต่อไปด้วย แต่ก็จะไม่กดดันรุ่นน้อง อยากให้กำลังใจให้รุ่นน้องได้สู้เต็มที่ และมั่นใจว่าตัวเองได้ทำเต็มที่แล้ว ไม่ว่าจะได้รางวัลอีกหรือไม่ก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อทุกครั้งที่ย้อนกลับมาดูคลิปของตัวเองจะรู้สึกภูมิใจอย่างมากที่ได้มาร่วมแข่งขันในโครงการนี้
ปั๋ง-ประกาศิต โบสุวรรณ ตัวแทนคณะกรรมการโครงการบทเพลงรักแห่งแผ่นดินปีที่ 7 กล่าวว่า ปีนี้ เป็นปีที่สองที่ได้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่ดีและและทรงคุณค่านี้ ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ทุกคนได้ทำเพื่อพระองค์ท่านถือเป็นบุญ เป็นความสุขของเรา เป็นสิ่งที่อยากถวายแด่พระองค์ท่านอยู่แล้ว อยากให้มีโครงการแบบนี้อีกตลอดไป และอยากฝากไปถึงน้องๆ ที่เข้ามาประกวดด้วยว่า ไม่ต้องคิดอะไรมาก จะแพ้จะชนะขอให้เตรียมตัวมาให้เต็มที่ ที่สำคัญต้องคิดว่าเราเป็นคนไทยและมีโอกาสได้บรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ถวายแด่พระองค์ท่านและทำให้ทุกคนมีความสุข แค่นี้ก็สุดยอดแล้ว
ด้าน อาร์ต- พศุตม์ บานแย้ม หนึ่งในศิลปินดาราที่มาร่วมงานในปีนี้ กล่าวว่า โครงการนี้น่าสนใจมาก อยากให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะวัยรุ่นที่มีความสามารถด้านดนตรี อยากเชิญชวนให้มาร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดี ผ่านบทเพลงพระราชนิพนธ์ในโครงการบทเพลงรักแห่งแผ่นดินปี 7 กันให้มากๆ น้องๆ สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน http://www.thetreeofloves.com/
สำหรับเกณฑ์การแข่งขันในปีนี้ คือ ไม่จำกัดประเภทเครื่องดนตรีที่เล่น และเปิดโอกาสให้วงดนตรีเยาวชนระดับมัธยมศึกษาที่มีสมาชิกไม่ต่ำกว่า 5 คน แต่ไม่เกิน 20 คน ได้เข้าร่วมประกวด โดยจะใช้เพลงในการประกวดทั้งหมด 3 เพลง เพื่อแสดงความหลากหลายในความสามารถด้านดนตรี ได้แก่เพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 1 เพลง เพลงช้าตามความถนัด 1 เพลง เพลงเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 1 เพลง โดยจะมีกิจกรรมรอบคัดเลือกเพื่อไปคัดเลือกวงดนตรีจากทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมนี้
จึงขอเชิญชวนเยาวชนมาร่วมเปล่งพลังเสียงแห่งความจงรักภักดีผ่านบทเพลงพระราชนิพนธ์ในโครงการ "บทเพลงรักแห่งแผ่นดิน" ปี 7 ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัครและติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการได้ที่เว็บไซต์ www.thetreeofloves.com โดยผู้ชนะจะได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งออกแบบโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ พร้อมรางวัลสูงสุดรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาทอีกด้วย
HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit