บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ได้เผยแพร่เผยแพร่บทวิเคราะห์ บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) (ZIGA) และได้ประเมินมูลค่าเหมาะสมไว้ที่ราคา 8.40 บาท โดยระบุว่า ZIGA คือผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเหล็กโครงสร้างประเภท Pre-zinc ภายใต้แบรนด์ Ziga ซึ่งถือเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรม และท่อร้อยสายไฟภายใต้แบรนด์DAIWA โดยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรายแรกๆในตลาดเหล็กชุบสังกะสีด้วยกระบวนการต่อเนื่อง (Pre-zinc) เพื่อใช้ทดแทนเหล็กที่ไม่ได้ผ่านการชุบ รวมทั้งเหล็กชุบสังกะสีหลังการขึ้นรูป โดยในระยะเวลา 3 เดือนแรกของปี 2560 บริษัทมีสัดส่วนของยอดขายจากผลิตภัณฑ์ Ziga และ DAIWA ในอัตราส่วน 91:9 เป็นผู้นำในตลาดท่อเหล็ก Pre-zinc
ด้วยคุณสมบัติของท่อเหล็ก Pre-zinc ที่คงทนกว่าและมีต้นทุนในการติดตั้งรวมที่ถูกกว่า เมื่อเทียบกับท่อเหล็กดำ ทำให้ผู้บริโภคและช่างรับเหมาหันมาใช้เหล็ก Pre-zinc เพิ่มขึ้นมาก โดยในช่วงสามปีที่ผ่านมาปริมาณการผลิตท่อเหล็กของ ZIGA เติบโตเฉลี่ย 45% ต่อปี จึงมองว่าผลิตภัณฑ์ของ ZIGAนอกจากจะเติบโตตามการลงทุนของภาครัฐแล้ว ยังสามารถแย่งส่วนแบ่งการตลาดจากท่อเหล็กดำแบบเดิมด้วย ขณะเดียวกันในด้านการแข่งขันจากขนาดของตลาดท่อเหล็ก Pre-zinc ที่ยังเล็กอยู่ ทำให้การเข้ามาของคู่แข่งรายใหม่ยังไม่มาก ประกอบกับแบรนด์ Ziga ได้รับความนิยมสูงและมีสถานะทางการตลาดที่เข้มแข้งผ่านตราสินค้า จึงถือเป็นบริษัทที่โดดเด่นและน่าสนใจ
ในด้านของผลประกอบการ บล.ธนชาต ประเมินว่ากำไรของ ZIGA ยังมีอัตราการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปี 2560-2562 กำไรจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 25.2% จากปี 2559 ที่ผ่านมาซึ่งทำได้ 226 ล้านบาท สำหรับผลงานในปีนี้ช่วงครึ่งปีแรกคาดว่าผลการดำเนินงานจะอ่อนตัวลง เพราะประโยชน์จากเหล็กต้นทุนต่ำลดลง แต่จะเริ่มดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งมาจากการขยายกำลังการผลิตและออกผลิตภัณฑ์ใหม่รองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นทั้งกลุ่มเดิมและกลุ่มใหม่จากการเจาะตลาดไปยังพื้นที่ใหม่เพิ่มขึ้น
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่าเหล็กชุบสังกะสีประเภท Pre-zinc ชนิดม้วนขึ้นรูปเป็นท่อ ทำให้ได้ท่อชุบสังกะสีที่มีความหนาสม่ำเสมอ ทนทาน และมีราคาถูกลง สามารถนำไปใช้ได้ทั้งกับงานที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมาก เช่น รั้ว ราวบันใด หรืองานที่ต้องรับน้ำหนักพอควร เช่น เต้นท์ นั่งร้าน เฟอร์นิเจอร์ รวมถึงงานที่ต้องการความแข็งแรงมากขึ้น เช่น คอกเลี้ยงสัตว์ และโรงเพาะชำ ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ ZIGA ได้รับความนิยมถูกนำไปใช้ทดแทนท่อเหล็กชุบแบบเดิม จึงทำให้ผลประกอบการในช่วงสามปีที่ผ่านมาเติบโตโดดเด่นอย่างมาก
จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ทำให้ความต้องการวัสดุก่อสร้างโดยเฉพาะเหล็กเริ่มฟื้นตัว ซึ่งในปีนี้สถาบันเหล็กและเหล็กหล้าแห่งประเทศไทยคาดว่าความว่าต้องการเหล็กจะมีอัตราการขยายตัวต่อเนื่องราว 8% จากปีที่ผ่านมา และด้วยเหล็กโครงสร้าง Pre-zinc ของ ZIGA เป็นสินค้าทดแทน ประกอบกับสัดส่วนการใช้ยังอยู่ในระดับต่ำมากเพียง 8.9% ของปริมาณการใช้ท่อเหล็ก จึงคาดว่าความต้องการใช้เหล็ก Pre-zinc จะยังขยายตัวสูงต่อเนื่อง และมีโอกาสขยายตัวสูงกว่าอุตสาหกรรมในช่วง 3 ปีข้างหน้า
บล.ฟินันเซียฯ ระบุในช่วงท้ายว่าจากการรับรู้ของตลาดในการใช้ท่อเหล็ก Pre-zinc ทดแทนท่อเหล็กชุบแบบเดิมที่มากขึ้น และการใช้เทคโนโลยีมาบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้กำไรสุทธิในช่วงสาม ปีที่ผ่านมาเติบโตสูงถึง 207% สำหรับปีนี้คาดว่า ZIGA ยังสามารถสร้างกำไรสุทธิที่โดดเด่นต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 26 มาอยู่ที่ 284 ล้านบาทจากปีที่ผ่านมา และในปี 2561-2562 คาดว่ากำไรสุทธิจะโตเฉลี่ยร้อยละ 26 ต่อปี ในด้านของการประเมินราคาได้ราคาที่เหมาะสมเฉลี่ยเท่ากับ 9.80 บาท
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit