โครงการเปลี่ยนประเทศไทยด้วยการศึกษา เป็นการพัฒนาระบบการเรียนรูปแบบใหม่ที่ผสมผสานเทคโนโลยีและการเชื่อมโยงกับครูผู้สอนในห้อง โดยผ่านเทคนิค Blended Solution ของบริษัท เลิร์น เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ให้นักเรียนได้เรียนรู้ผ่านคอนเทนต์คุณภาพโดยใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือ มีการวัดผลประเมินความสามารถของนักเรียนได้ทันที ทำให้ครูผู้สอนสามารถให้ความสำคัญกับนักเรียนที่เรียนไม่เข้าใจเนื้อหาได้อย่างตรงจุด โดยในปัจจุบันระบบดังกล่าวได้ถูกนำมาใช้มากกว่า 100 โรงเรียนทั่วประเทศ นอกจากนี้ โครงการดังกล่าว สามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนครูทางด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ตลอดจนสามารถช่วยลดภาระการเตรียมการสอนของครูผู้สอน เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพการศึกษาของไทย ในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียนการสอนในห้องเรียนของเด็กไทยมาใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยสนับสนุนครู ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ที่ขาดแคลนครูอีกด้วย
นางเบญจมาศ สมบูรณ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคกลาง เปิดเผยว่า สภาอุตสาหกรรมภาคกลาง ได้ตะหนักเห็นความสำคัญของการศึกษามาโดยตลอด ซึ่งโครงการเปลี่ยนประเทศไทยด้วยการศึกษาที่จัดขึ้นในครั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมภาคกลางมีเจตนารมย์ที่จะเข้าร่วมเพื่อเป็นการสร้างต้นแบบของการมีส่วนร่วมระหว่างภาคอุตสาหกรรมกับชุมชนด้านการศึกษา และสนับสนุนให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษาที่ไม่ใช่เพียงการมอบเงินสนับสนุน โดยโครงการดังกล่าวสามารถพัฒนาศักยภาพเด็กที่อยู่ในโรงเรียนใกล้โรงงาน เพิ่มคุณภาพชีวิตของทั้งพ่อแม่และเด็ก นอกจากนี้ ยังเป็นการริเริ่มการลงทุนทางสังคมกับสำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ (สกส.) เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม รวมทั้งเป็นการสนับสนุนโครงการประชารัฐชุดส่งเสริม SME Start up และ Social Enterprise (กิจการเพื่อสังคม) ด้วย
"สำหรับโรงเรียนนำร่องในภาคกลาง ที่ได้รับเลือกเข้าร่วมโครงการเปลี่ยนประเทศไทยด้วยการศึกษาในครั้งนี้ คือ โรงเรียนวัดลาดปลาดุก จ.นนทบุรี ซึ่งนักเรียนจะเข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 ต่อเนื่องเป็นระยะเวลารวม 3 ปีการศึกษา คือ ระหว่าง พ.ศ 2560 - 2562 โดยจะมีนักเรียนที่ได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าวทั้งสิ้นจำนวนกว่า 240 คน" ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคกลาง กล่าว
นายรอด ฟูวงศ์เจริญ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า การศึกษาถือเป็นรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาประเทศได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนครูในวิชาหลักอย่างวิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ เนื่องจากเป็นวิชาที่มีความยากและซับซ้อน เนื้อหาการเรียนและเทคนิคการสอนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผู้เรียนเกิดทัศนคติที่ดีต่อวิชาที่ยากต่อความเข้าใจ โครงการเปลี่ยนประเทศไทยด้วยการศึกษา หรือ เลิร์น เอ็ดดูเคชั่น จึงเป็นระบบการเรียนการสอนที่ตอบโจทย์ผ่านการเรียนวิชาคณิตและวิทย์รูปแบบใหม่ผ่านสื่อดิจิทัลเพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยแก้ปัญหาเรื่องการขาดแคลนครูทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ อีกทั้งยังสามารถช่วยลดภาระการเตรียมการสอนของครูผู้สอน และช่วยให้ครูผู้สอนสังเกตเห็นนักเรียนที่มีปัญหาในการเรียนวิชาคณิตและวิทย์ได้รวดเร็วขึ้น และสามารถเข้าไปช่วยแก้ปัญหาและพัฒนานักเรียนกลุ่มนี้ได้ตรงจุด
"สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนนทบุรี หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การที่โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีได้รับเลือกเข้าร่วมโครงการเปลี่ยนประเทศไทยด้วยการศึกษา ในครั้งนี้ จะสามารถเป็นต้นแบบในการพัฒนาการศึกษาให้กับพื้นที่อื่นๆ เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพการศึกษา และสร้างอนาคตที่ดีให้กับเยาวชนไทยได้ต่อไป" ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนนทบุรี กล่าว
ด้าน นายไพรัตน์ เอื้อชูยศ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยในฐานะประธานคณะกรรมการสายงานกิจกรรมเพื่อสังคม และผู้ส่งมอบจักรยานให้กับโรงเรียนในเขตพื้นที่ จ.นนทบุรี ภายใต้โครงการ "50 ปี ส.อ.ท. มอบจักรยาน 7,000 คัน ปันรัก...สู่โรงเรียนขาดแคลน" ว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ส.อ.ท. ได้เตรียมจัดกิจกรรมต่างๆ มากมายเพื่อเฉลิมฉลองในวาระพิเศษดังกล่าวนี้ ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมนั้น คือ โครงการ "มอบจักรยาน 7,000 คัน ปันรัก...สู่โรงเรียนขาดแคลน" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมอบรถจักรยานให้กับนักเรียนในพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีฐานะยากจนและบ้านอยู่ห่างไกลจากโรงเรียนได้ยืมเดินทางมาเรียน เพื่อให้นักเรียนสามารถเดินทางมาเรียนหนังสือได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งจักรยานที่ ส.อ.ท. นำมามอบในครั้งนี้จะถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น จากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ตามเจตนารมย์ตามที่ตั้งไว้ สำหรับจังหวัดนนทบุรี แม้เป็นจังหวัดที่อยู่ไม่ไกลจากเขตเมืองมากนัก แต่ยังมีนักเรียนจำนวนไม่น้อยที่ประสบปัญหาการเดินทางมาเรียนหนังสือ ส.อ.ท. จึงได้ส่งมอบจักรยานจำนวน 120 คัน ให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลนในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งประกอบด้วย 12 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนวัด ลาดปลาดุก, โรงเรียนเทศบาลปลายบางวัดอุบลวนาราม (วัดบัว), โรงเรียนนุ่มประสงค์วิทยา, โรงเรียนวัดใหม่ผดุงเขต, โรงเรียนชุมชนวัดต้นเฃือก (ถาวรวิทย์อุปกฤต), โรงเรียนบ้านดอนตะลุมพุก (เจริญจิตต์วิทยา), โรงเรียนคล้ายสอนศึกษา, โรงเรียนวัดโมลี (นันทวิมล), โรงเรียนดีมากอุปถัมป์, โรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม, โรงเรียนสมบูรณ์ศาสตร์พัฒนา และโรงเรียนเต็มรักศึกษา เพื่อใช้ประโยชน์ในการเดินทางมาเรียนต่อไป...
HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit