สพาร์จับมือดีเอชแอล เปิดร้านค้าสะดวกซื้อ 300 สาขาแรกทั่วประเทศไทย

21 Jul 2017
สพาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (SPAR International) เครือธุรกิจร้านค้าปลีกผลิตภัณฑ์อาหารรายใหญ่ที่สุดของโลก จับมือเป็นพันธมิตรกับ ดีเอชแอล ซัพพลายเชน (DHL Supply Chain) และบริษัท บางจาก รีเทล จำกัด (Bangchak Retail Company-BCR) เตรียมเปิดตัวร้านสะดวกซื้อกว่า 300 สาขาทั่วประเทศไทย ภายในสิ้นปี พ.ศ. 2563
สพาร์จับมือดีเอชแอล เปิดร้านค้าสะดวกซื้อ 300 สาขาแรกทั่วประเทศไทย

สัญญาพันธมิตรธุรกิจกับดีเอชแอลในครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนแผนการขยายธุรกิจของสพาร์ ซุปเปอร์มาร์เก็ตให้ประสบความสำเร็จ ด้วยบริการขนส่งสินค้า บริการกระจายสินค้า และคลังสินค้าแบบครบวงจรที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทยของดีแอชแอล ส่วนบริษัท บางจาก รีเทล จำกัดจะให้การสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐานให้แก่สพาร์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าปลีกสัญชาติดัทช์ ปัจจุบันการดำเนินงานซัพพลายเชนของสพาร์ใช้คลังสินค้าดีเอชแอล บางนา ลอจิสติกส์แคมปัส เป็นคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า และใช้คลังสินค้าย่านคลองประปาในการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์อาหาร แช่แข็ง

มร. ทอม โรส ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ สพาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า "เราต้องการพันธมิตรด้านลอจิสติกส์ที่มีประสบการณ์อันยาวนานในด้านซัพพลายเชนธุรกิจค้าปลีกผลิตภัณฑ์อาหารระดับโลก เพื่อเผยแพร่ชื่อเสียงของ สพาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ทั้งในด้านความสดใหม่ ทางเลือกที่หลากหลาย คุณภาพที่เป็นเลิศ และบริการอันน่าประทับใจสู่ผู้บริโภคในประเทศไทย ซึ่งชื่อเสียงของดีเอชแอลในการเสริมสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่ธุรกิจค้าปลีกอาหารมาแล้วทั้งในประเทศไทยและตลาดทั่วโลก ทำให้เราเชื่อมั่นในการเลือกใช้โครงสร้างพื้นฐานและบริการของดีเอชแอล เพื่อเป็นรากฐานของซัพพลายเชนของเราในประเทศไทย"

"เมื่อได้ร่วมงานกัน ดีเอชแอลสร้างความประทับใจแก่สพาร์อย่างมาก ด้วยบริการขนส่งสินค้าผ่านการจัดหาบริการจากบุคคลภายนอกที่มีความราบรื่นและโปร่งใส ทำให้เราวางใจได้ว่าพันธมิตรธุรกิจจะช่วยให้สพาร์สามารถขยายการเติบโตทางธุรกิจในประเทศไทยได้อย่างมหาศาล"

ระบบโครงสร้างพื้นฐานของ ดีเอชแอล ซัพพลายเชน จะช่วยส่งเสริมมาตรฐานการดำเนินงานของ สพาร์ ซุปเปอร์มาร์-เก็ต ด้วยประสิทธิภาพการทำงานในด้านต่าง ๆ ทั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ระบบป้องกันอัคคีภัยอัตโนมัติ และระบบคลังสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิประสิทธิภาพสูง โดยคลังสินค้าทั้งสองแห่งจะบริหารจัดการด้วยระบบ WMOS เพื่อรักษามาตรฐานด้านความถูกต้องของสินค้าคงคลังและประสิทธิภาพการผลิตให้สอดคล้องกับมาตรฐานการดำเนินงานขั้นสูงระดับสากลของสพาร์มร. เควิน เบอร์เรล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทย กล่าวว่า "การดำเนินธุรกิจค้าปลีกจำเป็นต้องมีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านระดับสูง เพื่อการรักษามาตรฐานด้านความถูกต้องของสินค้า คงคลัง ความถูกต้องในการขนส่งสินค้า และการทำงานที่ตรงต่อเวลา ซึ่งจำเป็นต่อการตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของผู้บริโภค เนื่องจากภาคธุรกิจค้าปลีกของไทยต้องการขยายการเติบโตอย่างเข้มแข็งไปพร้อมกับรักษาระดับรายได้หลังหักภาษี เราจึงต้องการผลักดันให้บริการที่ได้รับรางวัลระดับสากลของเราก้าวหน้าไปอีกขั้น ผ่านการสนับสนุนให้ธุรกิจของสพาร์สามารถนำเสนอคุณภาพระดับโลกสู่มือผู้บริโภคในเมืองไทย"

HTML::image(