ดร.โอฬาร โชว์วิวัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมโฟร์โมสต์ กล่าวว่า "หนึ่งในแนวคิดหลักที่โฟร์โมสต์ให้ความสำคัญมาโดยตลอดคือ การรณรงค์ให้คนไทยมีสุขภาพดีโดยการ "ดื่มขยับรับสุขภาพ" ภายใต้แคมเปญ "Drink.Move.BeStrong" โดยเริ่มต้นด้วย "การดื่ม" ซึ่งหมายถึง การบริโภคโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำนมโคคุณภาพที่อุดมไปด้วยสารอาหารและโภชนาการที่ครบถ้วน อย่างน้อยวันละ 1-2 แก้ว ควบคู่กับ "การออกกำลังกาย" อย่างสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง พักผ่อนให้เพียงพอซึ่งจะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่โดยเฉพาะเรื่องความสูงในวัยเด็ก และช่วยเสริมสร้างความหนาแน่นของมวลกระดูก เพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุนในวัยผู้ใหญ่"
"จากแนวคิดดังกล่าว โฟร์โมสต์ โดยฟรีสแลนด์คัมพิน่า จึงได้เข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักของโครงการจูเนียร์ เอ็นบีเอ(Jr.NBA) ที่จัดขึ้นโดยเอ็นบีเอ (NBA) ที่ได้จัดต่อเนื่องสู่ปีที่สี่แล้ว ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาเยาวชนระดับนานาชาติของเอ็นบีเอ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกีฬาบาสเกตบอลและไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟในหมู่เยาวชน เราต้องการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเลือกบริโภคอาหารที่เหมาะสมสำหรับคน ที่ชื่นชอบการเล่นกีฬา โดยเฉพาะ "การดื่มนมโค100%" ที่เรียกได้ว่าเป็นเครื่องดื่ม "สปอร์ตดริ้งค์" เพื่อให้ร่างกายและกล้ามเนื้อมีความสมบูรณ์พร้อมสำหรับการเล่นกีฬาในทุกรูปแบบ จึงได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการการกีฬา จากการกีฬาแห่งประเทศไทย มาร่วมให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อให้ครอบครัวไทยแข็งแรงเต็ม 100% กันทั้งครอบครัว"
คุณนวรัตน วิทวัสศุกล ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโภชนาการการกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "อาหาร เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับนักกีฬา เพราะถือเป็นแหล่งพลังงาน ที่จะส่งเสริมให้นักกีฬาสามารถแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น "หลักโภชนาการ" จึงเป็นสิ่งที่นักกีฬาและผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายควรเรียนรู้และไม่ควรมองข้าม เพราะคือ ความได้เปรียบในเชิงการกีฬาและเป็นประโยชน์กับตัวนักกีฬา โดยปกติแล้วนักกีฬาควรรับประทานอาหารให้ครบถ้วนทั้ง 5 หมู่และเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เพื่อให้ร่างกายสามารถออกกำลังกายได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ซึ่งในทางโภชนาการการกีฬา หมวดหมู่ที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ มีดังต่อไปนี้
· หมู่ที่ 1 คือ โปรตีน ได้แก่ เนื้อสัตว์ เต้าหู้ นม ไข่ เป็นต้น สารอาหารประเภทโปรตีนเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูร่างกาย เสริมสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ซึ่งแหล่งโปรตีนที่เหมาะสมและตอบโจทย์มากที่สุดในช่วงหลังการออกกำลังกาย ก็คือ'นมโค'เพราะเป็นเครื่องดื่มที่มีคุณประโยชน์ด้านโภชนาการอย่างครบถ้วนและร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายและกล้ามเนื้อหลังจากการออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี
· หมู่ที่ 2 คือ คาร์โบไฮเดรต ได้แก่ ข้าว แป้ง ขนมปัง เป็นต้น ควรมีการเพิ่มปริมาณตามการใช้พลังงานและออกกำลังกายที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอและสามารถออกกำลังกายได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่เกิดความล้าเติมโภชนาการเน้นๆ ด้วย 'นมโค 100%' เครื่องดื่มสปอร์ตดริ้งค์ของคนรุ่นใหม่
การเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายเป็นประจำร่างกายควรได้รับโปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และเกลือแร่ต่างๆ ในปริมาณที่สมดุลย์ ซึ่งแหล่งของสารอาหารที่ตอบโจทย์มากที่สุด ก็คือ 'นมโค' เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารไม่ว่าจะเป็นโปรตีนที่มี 'กรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วนทั้ง 9 ชนิด' ซึ่งเป็นกรดอะมิโนธรรมชาติที่มีส่วนสำคัญในการช่วยซ่อมแซมและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ'วิตามินและเกลือแร่' โดยเฉพาะฟอสฟอรัสและแคลเซียมซึ่งถือเป็นจุดเด่นของนมโคและเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง นอกจากนี้ในน้ำนมโคยังมี 'น้ำตาลแลคโตส' น้ำตาลตามธรรมชาติซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้นมโคมีค่า Glycemic Index (Low GI) หรือมีค่าการปลดปล่อยพลังงานที่ต่ำ ซึ่งมีประโยชน์คือร่างกายสามารถย่อยและดูดซึมมาใช้เป็นพลังงานได้อย่างช้าๆ ทำให้ร่างกายของนักกีฬาได้รับพลังงานอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องยาวนาน โดยล่าสุดมีงานวิจัยจากวารสารวิชาการด้านกีฬาและโภชนาการชั้นนำ JISSN (Journal of the International Society of Sport Nutrition) ระบุว่า "นมโค" เป็นเครื่องดื่มที่ช่วยในการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อและเพิ่มความอึดให้กับนักกีฬาได้ดีกว่าเครื่องดื่มเกลือแร่ทั่วไป โดยงานวิจัยดังกล่าวให้นักกีฬาที่มีสุขภาพสมบูรณ์โดยให้ออกแรงภายใต้ความสามารถในการออกกำลังสูงสุดจนเหนื่อย หมดแรงและให้นักกีฬาสุ่มเลือกเครื่องดื่ม 1 ชนิด จากเครื่องดื่ม 3 ประเภทระหว่าง น้ำเปล่า นม และเครื่องดื่มเกลือแร่โดยให้ดื่มในช่วงการหยุดพักเป็นเวลา 2 ชั่วโมงก่อนเริ่มออกกำลังกายอีกครั้ง ตลอดหนึ่งสัปดาห์ของการเก็บข้อมูลโดยผลสรุปพบว่า นักกีฬาที่ดื่มนมหลังการออกกำลังกายมีอัตราการฟื้นตัวได้เร็วกว่า (Recovery) และมีความอึด (Endurance) ในการใช้แรงออกกำลังกายต่อไปได้นานกว่านักกีฬาที่ดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่ถึงร้อยละ 34 และนักกีฬาที่ดื่มน้ำเปล่าถึงร้อยละ 93 ผลการศึกษาชุดนี้แสดงให้เห็นว่า 'นมโค' เป็นเครื่องดื่มสปอร์ตดริ้งค์ยุคใหม่ที่เหมาะสำหรับนักกีฬาและผู้ที่ออกกำลังกาย เนื่องจากสารอาหารในนมโคช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและเสริมสร้างกล้ามเนื้อเพื่อให้ร่างกายฟิตแอนด์เฟิร์มและมีความพร้อมในการเล่นกีฬาได้อย่างเต็มที่อย่างแท้จริง
สานต่อประโยชน์ของ "นม" ด้วย "บาสเก็ตบอล"
นอกจากการดูแลเรื่องโภชนาการแล้ว 'การออกกำลังกาย' คือ สิ่งที่ควรทำควบคู่ไปด้วยเพื่อให้ร่างกายของเราได้รับประโยชน์สูงสุด 'บาสเก็ตบอล' ถือเป็นหนึ่งในกีฬาที่เหมาะกับวัยที่กำลังเจริญเติบโต เพราะนอกจากจะช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายโดยรวมแล้ว ยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกระดูกและช่วยให้ร่างกายมีพัฒนาการที่ดีไม่ว่าจะเป็น ด้านร่างกาย เนื่องจากเป็นกีฬาที่ต้องมีการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกายให้ทำงานประสานกันไม่ว่าจะเป็น มือ ขาและสายตา อีกทั้งความแม่นยำในการรับส่งและชู้ตบอลที่เป็นตัวช่วยกระตุ้นการพัฒนาระบบประสาทสัมผัสและการทำงานของสมองส่วนกลาง นอกจากนี้ การเล่นบาสเก็ตบอลยังช่วยฝึกการตัดสินใจและรู้จักคิดแก้ปัญหาตลอดจนสร้างสมาธิที่ดีให้ผู้เล่น เพราะฉะนั้น "การเล่นบาสเก็ตบอลและดื่มนมเป็นประจำ" จึงถือเป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงด้านร่างกายและกระตุ้นให้นักกีฬา รุ่นเยาว์มีการเจริญเติบโตของกระดูกได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะส่งผลดีต่อโครงร่างของนักกีฬาและการต่อยอดในเรื่องโอกาสและทักษะการเล่นกีฬาบาสเก็ตบอลต่อไปในอนาคต
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพแต่สิ่งที่ควรทำควบคู่ไปด้วยกันคือ การดูแลโภชนาการ เพราะแม้ว่าจะออกกำลังกายอย่างหนักแต่หากเรายังคงรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เค็มจัด หรือหวานจัด แทนที่จะช่วยฟื้นฟูร่างกาย ก็กลับทำให้ร่างกายเสื่อมเร็วขึ้น เพราะฉะนั้นเมื่อออกกำลังกายแล้วต้องรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ด้วย อาหารที่ดีในที่นี้ ไม่จำเป็นต้องมีราคาสูง แต่สิ่งที่จำเป็น คือ คุณภาพของอาหารที่ต้องประกอบด้วยสารอาหารที่ครบถ้วน ซึ่งสปอร์ตดริ้งค์อย่าง"นมโค 100%" เป็นแหล่งอาหารที่มีคุณภาพที่ส่งเสริมให้ร่างกายมีความแข็งแรงและความพร้อมในการเล่นกีฬา แน่นอนว่า เมื่อรับประทานดี ออกกำลังกายดี ก็จะทำให้สามารถรักษาร่างกายและเล่นกีฬาที่ตนเองรักได้อย่างยาวนาน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit