นโยบายประชารัฐที่อยู่อาศัย

17 Jul 2017
ดร.ประศาสน์ ตั้งมติธรรม
นโยบายประชารัฐที่อยู่อาศัย

รัฐบาลอาจจะผิดหวังกับนโยบายบ้านประชารัฐและเข้าใจว่าผู้ประกอบการภาคเอกชนยึดถือเอากำไรเป็นที่ตั้งในการดำเนินธุรกิจ เลยไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับภาครัฐบาลในเรื่องโครงการเหล่านี้

จุดเริ่มต้นที่จะพิจารณาเรื่องนี้คงจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า องค์กรธุรกิจเอกชนไม่มีจุดมุ่งหมายเพื่อการกุศลแน่นอน และบ่อยครั้งเหลือเกินที่องค์กรไม่แสวงหากำไรอย่าง Grameen Bank มีผลประกอบการสู้ไม่ได้เลยทั้งในทางการเงินและจำนวนลูกค้าที่ได้รับบริการ เมื่อเทียบกับบริษัทบัตรเครดิตที่ถูกตราหน้าว่า หน้าเลือดในเมืองไทย

เรื่องที่อยู่อาศัยก็เช่นเดียวกัน รัฐบาลในหลายประเทศที่ว่ากันว่าพยายามดูแลเรื่องที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย แต่ทำที่อยู่อาศัยขั้นต่ำ 60 ตร.ม./ 2 ห้องนอน ในขณะที่มนุษย์เงินเดือนในเขตธุรกิจของกรุงเทพอยู่อาศัยกันในขนาด 20 - 30 ตร.ม. เมื่อเป็นเช่นนี้ เราคงจะคาดหมายได้ไม่ยากว่า รัฐบาลที่พูดเสมอว่ามีเงินจำกัดจะตอบสนองต่อความต้องการที่อยู่อาศัยของมวลชนได้อย่างไร

ดังนั้น วิธีทางเดียวที่เป็นไปได้ในการช่วยให้ประชาชนที่รายได้ไม่มากมีที่อยู่อาศัยของตนเอง ก็คือ กลไกตลาด

ถ้าใครที่สนใจราคาที่อยู่อาศัยชานเมือง ก็จะทราบว่า ราคาในช่วง 500,000 – 1,000,000 บาท มีให้เลือกซื้อได้ทั่วไป

แต่ก็จะมีผู้แย้งว่า ประชาชนระดับนั้น มีปัญหาติดที่เงินดาวน์ แม้แต่ 10% ตรงนี้แหละที่รัฐบาลช่วยได้และใช้เงินไม่มาก เพียงแต่ประกาศให้ผ่อนโดยไม่มีเงินดาวน์ โดยที่รัฐบาลอาจจะลดความเสี่ยงด้วยการสร้างกลไกทดสอบนิสัยการผ่อนชำระได้ ซึ่งควรให้สถาบันการเงินของภาครัฐบาล นำไปปฏิบัติ

ข้อโต้แย้งถัดไปคือ การเดินทาง ทุกวันนี้ประชาชนที่อยู่อาศัยตามชานเมือง เข้ามาทำงานหากินในเมืองกันมากด้วยรถตู้ที่วิ่งระยะยาว เช่น มีนบุรี หรือ รังสิต เป็นต้น รัฐบาลก็ไม่ต้องทำเองอีก เพียงแต่คอยคุมเรื่องความปลอดภัยตามที่ทราบกันดีอยู่แล้ว

ถ้ารัฐบาลเพียงแต่คิดว่า จะให้ภาคธุรกิจทำตัวเป็นองค์กรการกุศลก็คงไม่มีวันบรรลุเป้าหมาย หรือ ถ้ารัฐบาลพยายามทำตัวเป็นเตี้ยอุ้มค่อม โดยเพียงพยายามแสวงหาที่อยู่อาศัยที่ดีเกินกว่าฐานะของประชาชนก็คงจะใช้เงินและเวลามหาศาลจึงจะบรรลุเป้าหมาย

รัฐบาลพึงระลึกว่าการทำที่อยู่อาศัยให้ประชาชนหาซื้อได้ตามฐานะไม่ใช่เรื่องยากของภาคธุรกิจเอกชน แต่รัฐบาลต้องกำกับเล็กน้อยในเรื่องเงินกู้ผ่อนชำระและการบริหารจัดการเรื่องการคมนาคมเท่านั้น

รัฐบาลก็จะบรรลุฝั่งฝันตามความประสงค์ อยู่ที่จะทำตามข้อแนะนำนี้หรือไม่เท่านั้น