นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด กล่าวว่าสัปดาห์นี้ เริ่มมีข่าวบวกเข้ามา ทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non-farm payrolls) ของสหรัฐฯ เดือน ก.ค. ออกมาดี รวมทั้ง อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ที่ปรับลดลง ในเดือน ก.ค. ประกอบกับ การที่นาย แกรี่ โคห์น เลขาธิการสภาที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งคาดว่าจะเป็นตัวเต็งผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(Fed) ได้ออกมากล่าวว่า ทรัมป์ ยังคงจะปรับลดภาษีให้กับบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐฯให้ได้ภายในปีนี้ ซึ่งเป็นบวกต่อตลาดอย่างยิ่ง หลังจากก่อนหน้านี้ มีความกังวล ด้านความมั่นคงทางการเมืองของนายทรัมป์ ที่วุฒิสภามีการแต่งตั้งคณะตุลาการมาสอบสวนข้อกล่าวหาเรื่องการที่รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีที่แล้วซึ่งอาจส่งผลให้การออกกฎหมายของทรัมป์รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ จะล่าช้าออกไป
นอกจากนี้ เศรษฐกิจโลกกำลังมีแนวโน้มที่ดีอย่างชัดเจน อีกทั้งตลาดคาดการณ์ว่า ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐฯในไตรมาสที่ 2 จะโตแรงที่ 12% ยุโรป โตที่ 22% และจีน จะออกมาดีเช่นกัน ซึ่งน่าจะสามารถช่วยหนุนตลาดหุ้นให้ไปต่อได้
อย่างไรก็ตาม การที่รัฐสภาสหรัฐฯ และสหประชาชาติ (UN) ออกมาตรการลงโทษเกาหลีเหนือเพิ่มเติมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาตลอดจนท่าทีของเกาหลีเหนือที่น่าจะยังคงทดลองยิงขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์อีก ทำให้ความกังวลของตลาดยังคงอยู่ จึงทำให้แม้ตลาดหุ้นจะปรับตัวดีขึ้นตามปัจจัยทางเศรษฐกิจ แต่ยังคงมีปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์และการเมืองระหว่างประเทศที่ยังคงกดดัน
ด้านปัจจัยในประเทศ ยังคงต้องติดตามผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ไตรมาส 2 ของไทย ซึ่งคาดว่าจะชะลอตัว หลังจากการที่ธนาคารกรุงไทย ต้องตั้งสำรองเพิ่มเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มอย่างมากจากกรณี EARTH
ทั้งนี้ สัปดาห์นี้ คาด SET Index เคลื่อนไหวแบบ Sideways ในกรอบแคบ ๆ ระหว่าง 1,571-1,584 จุด
นายวรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านกลยุทธ์การลงทุน ยังคงแนะนำให้ลงทุนหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี สำหรับ Trading Ideaสัปดาห์นี้ บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำซื้อ TTA ของ บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ ราคาเป้าหมาย 13.00 บาท
จากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) โดยปรับตัวสูงขึ้น 25% จากเดือน มิ.ย. มาอยู่ที่ 1,032 จุด หลังจากลงไปถึงจุดต่ำสุดของรอบนี้ที่ 820 จุด ท่ามกลางไฮซีซั่นของการส่งออก จากการที่ตัวเลขด้านการผลิตหรือPMI ของทั้งโลกดีขึ้น ทั้งสหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์สำคัญ ๆ ทั้ง ถ่านหิน เหล็ก รวมทั้งค่าระวางเรือปรับตัวดีขึ้น
ค่าเฉลี่ย BDI ไตรมาส 1/60 และ 2/60 อยู่ที่ 945 และ 1,006 จุดตามลำดับ ซึ่งเริ่มเข้าสู่ทิศทางที่เราคาดการณ์ไว้อย่างระมัดระวัง BDI เฉลี่ยที่ 1,000 จุด ในปี 2560 และ 1,200 จุด ในปี 2561 ซึ่งพลิกจากระดับ 673 ในปี 2559 และ 718ในปี 2558 เมื่อดัชนี BDI มีทิศทางที่ดีขึ้น บจ.ต่าง ๆ จะเริ่มทำสัญญาเช่าเรือระยะยาวมากขึ้น
"เราคาดธุรกิจเดินเรือของ TTA จากที่ขาดทุน 418 ล้านบาทในปี 2559 กลับมามีกำไรในปีนี้ราว 1.54 พันล้านบาทในปี 2560 โดยกำไรราว 50% มาจากเดินเรือ ส่วนที่เหลือเป็นธุรกิจเรือสำรวจขุดเจาะ ปุ๋ยในเวียดนาม และเทรดดิ้งถ่านหิน และเราคาดว่ากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นอีก 14% เป็น 1.76 พันล้านบาทในปี 2561 โดยราคาเป้าหมายของเราอยู่ที่ 13.00 บาทซึ่งอิงค่า PBV ที่ 1.1 เท่าปี 2560 เทียบกับ PBV ปัจจุบันที่ต่ำเพียง 0.8 เท่า จุดเด่นของ TTA คือ BVที่มีอยู่ในปัจจุบันคิดเป็นเงินสดมากถึงราว 5.3 บาทต่อหุ้น ยังมี upside 48%" นายวรุตม์ กล่าว
ด้าน Technical TTA ระยะสั้นนั้นมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 11 บาท และมีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 13.40 บาท โดยมีแนวต้านที่ 8.80, 8.90 และ 8.95 บาท และมีแนวรับที่ 8.70, 8.65, และ 8.55 บาท
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit