วิทยาลัยดุสิตธานี เตรียมปฏิวัติหลักสูตรท่องเที่ยว-โรงแรมยุคใหม่!! เรียนวิชาการคู่วิชาชีพ พร้อมครีเอทนวัตกรรมบริการรับตลาดนิวเจน เปิดหลักสูตร "นวัตกรรมการบริการในธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรม" รับปี 60 มุ่งสร้างความสามารถที่หลากหลายในอาชีพบริการท่องเที่ยวและการโรงแรม ตลอดจนมีศักยภาพในการประยุกต์ใช้ความรู้ สู่นวัตกรรมบริการที่ตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด อาทิ สมาร์ททัวร์ลิซึ่ม สมาร์ทโฮเต็ล ฯลฯ พร้อมตั้งเป้าปั้นนักศึกษาไทย จีน และกลุ่มประเทศอาเซียนรับเทรนด์การท่องเที่ยวโลกเติบโตจาก 3 ปัจจัยทั้ง ระบบดิจิทัล พฤติกรรมการท่องเที่ยว และสังคมผู้สูงอายุ นอกจากนี้ วิทยาลัยฯ ยังมีหลักสูตรพื้นฐานการท่องเที่ยว-โรงแรมที่เข้มข้นใน 6 หลักสูตรไทย-นานาชาติที่พร้อมตอบโจทย์ตลาดโลก อาทิ สาขาการจัดการท่องเที่ยว และสาขาวิชาศิลปะการประกอบอาหาร และการจัดการภัตตาคาร โดยความร่วมมือกับสถาบันเลอ กอร์ดอง เบลอ ประเทศฝรั่งเศส ฯลฯ รวมถึงเครือข่ายเสริมศักยภาพนักศึกษาจากโรงแรม-ภัตตาคารระดับ 5 ดาวทั่วโลก อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลพบว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ปี 59 เติบโตสูงกว่าปีก่อน 11% ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 2.51 ล้านล้านบาท หลังอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของโลกในยุค 4.0 เติบโตกว่า 20.6%
วิทยาลัยดุสิตธานี กล่าวว่า จากสถานการณ์ธุรกิจการท่องเที่ยว-การโรงแรมทั่วโลกในปัจจุบัน ที่มีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยว รวมถึงสัดส่วนประชากรวัยเกษียณที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ท้าทายศักยภาพของสถานศึกษาไทย ในการผลิตบุคลากรให้สามารถปรับตัวและพร้อมรับมือต่อเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมา วิทยาลัยดุสิตธานี ในฐานะสถาบันการศึกษาเอกชนชั้นนำของไทย ได้พัฒนาหลักสูตรครอบคลุมธุรกิจบริการในด้านดังกล่าว เพื่อเสริมทักษะความเชี่ยวชาญแก่บุคลากรโรงแรม-ท่องเที่ยว เป็นจำนวนทั้งสิ้น 6 หลักสูตร ประกอบด้วย 4 หลักสูตรภาษาไทยในด้านบริหารธุรกิจบัณฑิต คือ สาขาการจัดการครัวและศิลปะการประกอบอาหาร สาขาการจัดการโรงแรมและรีสอร์ท สาขาการจัดการท่องเที่ยว สาขาการจัดการนิทรรศการและการประชุม
ขณะที่ 2 หลักสูตรนานาชาติด้านบริหารธุรกิจ จะเป็นความร่วมมือกับสถานศึกษาด้านการโรงแรมและภัตตาคารชั้นนำระดับโลก อย่าง สาขาการจัดการโรงแรมและรีสอร์ท ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากโรงเรียนการโรงแรมโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และสาขาวิชาศิลปะการประกอบอาหาร และการจัดการภัตตาคาร โดยการรับรองจากสถาบันเลอ กอร์ดอง เบลอ ประเทศฝรั่งเศส นอกจากนี้ ทางวิทยาลัยฯ ยังได้ผนึกเครือข่ายโรงแรมระดับ 5 ดาวทั่วโลก เพื่อเป็นการเติมเต็มศักยภาพในการทำงานจริงของนักศึกษาด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยว
วิทยาลัยดุสิตธานี กล่าวต่อว่า ซึ่งในขณะเดียวกัน ภาคธุรกิจในกลุ่มการท่องเที่ยวและโรงแรม ก็ต้องเร่งปรับตัวในการบริหารธุรกิจ พร้อมสร้างจุดแข็งให้กับแบรนด์ผ่านการพัฒนานวัตกรรมบริการในรูปแบบใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค โดยล่าสุด วิทยาลัยดุสิตธานี ได้พัฒนา "หลักสูตรปริญญาตรีการจัดการบัณฑิต สาขานวัตกรรมการบริการในธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรม" (กจ.บ.) รับภาคการศึกษาใหม่ ในปี 60 เพื่อเตรียมปั้นบุคลากรการโรงแรม-ท่องเที่ยวให้มีความสามารถที่หลากหลายในอาชีพด้านบริการท่องเที่ยวและการโรงแรมแบบครบวงจร ตลอดจนมีศักยภาพที่เท่าทันสถานการณ์ และการประยุกต์ใช้ความรู้ สู่การพัฒนานวัตกรรมบริการที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 4.0 ทั้งนี้ วิทยาลัยฯ มีความคาดหวังว่าหลักสูตรดังกล่าว จะได้รับความสนใจจากนักศึกษาทั้งในประเทศไทย จีน และกลุ่มประเทศอาเซียนจำนวนมาก ซึ่งในปัจจุบันมีนักศึกษาไทยเป็นจำนวนกว่า 150,000 คน ขณะที่นักศึกษาจีน และกลุ่มประเทศอาเซียนมีมากกว่า 20,000 คน
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ถือเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยล่าสุดในปี 2559 สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เศรษฐกิจไทยได้เป็นสัดส่วนถึง 17% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือคิดเป็นมูลค่า 2.51 ล้านล้านบาท เติบโตกว่าปีที่ผ่านมา 11% (ที่มา: กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) ซึ่งส่งผลให้ประเทศไทยติดอันดับท็อปเทน ของประเทศที่มีการเติบโตเร็วด้านการท่องเที่ยว (ที่มา: สภาการเดินทางและท่องเที่ยวโลก) ขณะที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของโลกในยุค 4.0 เติบโตกว่า 20.6%ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงเทรนด์ท่องเที่ยวโลกใน 3 ปัจจัยหลัก คือ ความก้าวล้ำของระบบดิจิทัล ที่เอื้อต่อการเข้าถึงแหล่งข้อมูลการท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว พฤติกรรมการท่องเที่ยวแบบอิสระ (Free Independent Traveler) ที่ปัจจุบันมีการเติบโตกว่า 60% และ การขยายตัวของสังคมผู้สูงอายุ ที่มีสัดส่วนมากถึง 20% ของประชากรทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในการซื้อสูง อย่างประเทศสหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา วิทยาลัยดุสิตธานี กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน อาจารย์สมภพ ชาตวนิช หัวหน้าหลักสูตรนวัตกรรมการบริการในธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรม วิทยาลัยดุสิตธานี กล่าวเสริมว่า สำหรับการเรียนด้านธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมในปัจจุบัน จะเน้นหนักในเชิงทฤษฎีเป็นหลัก ขณะที่ลักษณะงานด้านธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมในโลกยุคใหม่ จำเป็นต้องบูรณาการองค์ความรู้ในหลายสาขาร่วมกับความครีเอทีฟ สู่การต่อยอดเป็นผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ หรือการพัฒนานวัตกรรมบริการเพื่อสร้างจุดขายใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคเจนซี (Gen Z) ดังนั้น หลักสูตรนวัตกรรมการบริการในธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรม จึงมุ่งเน้นการจัดการเรียนการสอน ในรูปแบบการจัดการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงาน (WiL: Work-integrated Learning) ที่ผสมผสานความรู้เชิงวิชาการ (Academic) และวิชาชีพ (Professional) เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมของการทำงานให้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาเรียนรู้ ผ่านการฝึกประสบการณ์จริง ตลอด 2 ภาคการศึกษา ซึ่งมีเนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่วิชาพื้นฐาน จนถึงวิชาเฉพาะด้านในขั้นสูง เพื่อผลิตบัณฑิตที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในงานบริการ สู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและโรงแรมต่อไป
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการศึกษาเรียนรู้ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแบบเข้มข้นตลอด 3 ปีการศึกษาแล้ว ในปีการศึกษาที่ 4ภาคการศึกษาที่ 2 ผู้เรียนสามารถเลือกเข้าปฏิบัติงาน ณ สถานประกอบการชั้นนำในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทั้งในเครือดุสิตธานี โรงแรมชั้นนำ บริษัททัวร์ ธุรกิจการบิน และธุรกิจไมซ์ (MICE) ผ่านรายวิชาสหกิจศึกษา (Co-operative Education) เป็นเวลา 4 เดือน โดยจะต้องปฏิบัติงานเสมือนเป็นพนักงานจริงของสถานประกอบการ โดยมีคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ ซึ่งหลังจากนั้น ผู้เรียนจะต้องนำความรู้ที่ได้มาต่อยอดเป็นนวัตกรรมใหม่ รองรับไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวยุคใหม่ ยกตัวอย่างเช่น สมาร์ทโฮเต็ล สมาร์ททัวร์ลิซึ่ม ฯลฯ อย่างไรก็ดี การเรียนในหลักสูตรดังกล่าวตลอด 4 ปีการศึกษานั้น นอกจากจะเป็นการเติมเต็มศักยภาพผู้เรียนให้มีความรู้รอบในทุกมิติวิชาการ นวัตกรรมบริการ และความคิดสร้างสรรค์แล้ว ยังถือเป็นการผลิตคนทำงานให้พร้อมก้าวสู่โลกการทำงานจริง โดยไม่ต้องเรียนรู้งานเพิ่ม อาจารย์สมภพ กล่าวทิ้งท้าย
ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดคุณสมบัติและสมัครได้ตลอดการเปิดภาคเรียนที่ www.dtc.ac.th หรือ สมัครสอบด้วยตนเอง (Walk-in) ทุกวันจันทร์ - วันเสาร์ที่ วิทยาลัยดุสิตธานี (ข้างศูนย์การค้าซีคอนแควร์) ถนนศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หมายเลขโทรศัพท์ 02-361-7811 ถึง 3 และ www.facebook.com/DTCThailand
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit