สำหรับเส้นทางสู่ความเป็นเชฟของ "นิโคลัส" นั้นเริ่มต้นจากงานพาร์ทไทม์ ขณะกำลังศึกษาอยู่ที่ Institute of Contemporary Music Performance "นิโคลัส" ในวัย 19 ปี มีความใฝ่ฝันจะเป็นนักดนตรีแต่เมื่อเขาต้องมา อยู่ในก้นครัวเขาก็เริ่มรู้สึกสนุกกับการปรุงอาหาร ความเป็นศิลปินทำให้เขาใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไปทุกครั้งในการปรุง อาหาร รวมทั้งเทคนิคการครัวไปจนถึงการตกแต่งจานและรสชาติ ซึ่งถือเป็นงานศิลปะแขนงหนึ่งเช่นกัน
หลังจากรู้ตัวว่าชอบด้านอาหาร "นิโคลัส" ตัดสินใจไปฝึกฝนด้านการครัวที่ Novotel London West จากนั้นจึงมีโอกาสได้ทำงานในร้านมิชลินสตาร์ The Orrery ก่อนจะขยับตำแหน่งขึ้นมาเป็น Chef de Partie ที่ห้องอาหาร Chez Kristof รวมทั้งเพิ่มเติมประสบการณ์ที่ห้องอาหารระดับมิชลินสตาร์ชื่อดังประจำกรุงลอนดอน La Trompette
ใน ค.ศ.2010 เขาได้ย้ายกลับมายังโรงแรมเครือแอคคอร์อีกครั้งในตำแหน่ง Senior Chef de Partie ประจำห้องอาหาร Brasserie Roux โรงแรม Sofitel London St. James จากนั้น ค.ศ.2011 "นิโคลัส" ได้บินมาร่วมสร้าง สีสันให้กับห้องอาหาร Marcia เมือง Goiania ประเทศบราซิล ที่นั่นเขาได้เรียนรู้การใช้วัตถุดิบแปลกใหม่ของท้องถิ่นมาทำ อาหาร จากนั้นไม่นานเขาก็ย้ายมายังประเทศไทยในตำแหน่ง Sous Chef ประจำโรงแรม Grand Hyatt Erawan
3 ปีให้หลัง "นิโคลัส" ได้บินกลับไปฝึกฝนฝีมือด้านอาหารเพิ่มเติมที่ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ Marcus โรงแรม The Berkeley ประเทศอังกฤษ จากนั้นกลับมาเมืองไทยและร่วมงานกับห้องอาหารฝรั่งเศส La VIE โรงแรม VIE ก่อนจะย้ายมารับตำแหน่ง "Executive Sous Chef ประจำห้องอาหาร "ลาพาร์ต" โรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท ที่ซึ่ง "นิโคลัส" ได้ใช้ทักษะความชำนาญด้านอาหารฝรั่งเศสมาผสานความคิดสุดล้ำเพื่อสร้างประสบการณ์และ รสชาติอาหารฝรั่งเศสที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit