'เย็นจิต สมเพาะ' ผู้จัดการโครงการ ระบุว่า การรวมตัวของภาคประชาสังคมกว่า 30 องค์กร เพื่อระดมทุนในการใช้จ่ายในโครงการฯ เนื่องจากทุนหลักในการจ่ายใช้สำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวีมาจากกองทุนโลก แต่เมื่อไม่นานมานี้มีแผนยกเลิกการสนับสนุนโครงการในประเทศไทย เนื่องด้วยไทยถูกยกระดับให้เป็นประเทศที่มีรายปานกลางถึงสูง ซึ่งไม่อยู่ในเงื่อนไขที่กองทุนโลกจะสนับสนุนได้ ทั้งนี้เงินที่ได้จากการระดมทุนทางโครงการฯจะใช้จ่ายสำหรับศูนย์สุขภาพในชุมชน การทำงานเชิงรุกในชุมชน ค่าใช้จ่ายในการหาอุปกรณ์ป้องกัน เป็นต้น โดยโครงการฯได้กำหนดการดำเนินงานเพื่อลงพื้นที่การดำเนินงานไว้ทั่วประเทศ ซึ่งในระยะเริ่มต้นจะเน้นไปยังพื้นที่ที่มีสถานการณ์เอชไอวีสูงก่อน ทั้งนี้พื้นที่แรกที่โครงการได้เริ่มดำเนินการประชาสัมพันธ์ ได้แก่ เพื่อนพนักงานบริการ (SWING) หรือสวิง
ทั้งนี้มูลนิธิสวิงเน้นให้บริการแก่พนักงานบริการที่มีความหลากหลายทางเพศในย่านพัฒน์พงษ์ 'สุรางค์ จันทร์แย้ม' ผู้อำนวยการฯ เปิดเผยข้อมูลว่า มูลนิธิสวิงก่อตั้งมานานกว่า 13 ปี เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเพื่อนพนักงานบริการที่มีความหลากหลายทางเพศ รวมทั้งผสานความร่วมมือกับเจ้าของสถานบริการเพื่อลงพื้นที่ให้เข้ารู้เกี่ยวกับเชื้อเอชไอวีและวิธีป้องกัน นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งคลินิกสำหรับให้บริการตรวจหาเชื้อเอชไอวี แก่พนักงานบริการที่ความหลากหลายทางเพศ หากทราบผลจะดำเนินงานประสานกับทางโรงพยาบาลที่เป็นเครือข่ายกับทางมูลนิธิฯ เพื่อเข้าทำการรักษาและกินยาให้ถูกต้อง และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทั้งนี้หากได้รับการตรวจหาเชื้อและทราบผลเร็ว ก็จะสามารถทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที และที่สำคัญยังสามารถอยู่ร่วมกับคนในสังคมได้อย่างไม่มีความแปลกแยกแกด้วย
ดังนั้นการร่วมมือการทุกคนในสังคม จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยประเทศไทยก้าวข้ามปัญหาโรคเอดส์และเชื้อเอชไอวีได้อย่างแน่นอน หากทุกคนในสังคมไม่นิ่งเฉยต่อปัญหาที่เกิดขึ้น
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit