ผลประกอบการของ เดมเลอร์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส ในช่วง 6 เดือนแรกมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) กว่า 1 พันล้านยูโร ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทฯ และมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 15% โดยมีขนาดสินเชื่อรวมถึง 1.34 แสนล้านยูโร
เมอร์เซเดส - เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) ในช่วงครึ่งปีแรก เติบโตขึ้นด้วยยอดสินเชื่อรวมกว่า 33,000 ล้านบาท และยังคงความเป็นผู้นำในการให้บริการทางการเงินสำหรับลูกค้าเมอร์เซเดส- เบนซ์
คุณศุภวุฒิ จิรมนัสนาคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ในปี 2560 นี้ เดมเลอร์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส (Daimler Financial Services) ได้ประกาศวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำด้านบริการทางการเงินที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ด้วยบริการดิจิทัลเต็มรูปแบบ และผู้นำด้านการให้บริการด้านการเดินทางที่หลากหลาย"
"หลายตลาดในยุโรปและอเมริกา การบริการด้านการเงินและการเดินทางแบบใหม่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการใช้รถร่วมกัน (car sharing) การใช้บริการรถสาธารณะรูปแบบใหม่ และการเช่ารถยนต์ระยะสั้นๆ เป็นรายนาทีในเมืองขนาดใหญ่ ซึ่งเดมเลอร์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส ได้เล็งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงนี้และได้นำเทคโนโลยีด้านการเดินทางมาปรับใช้ เพื่อตามสนองความต้องการของผู้ใช้รถยนต์มากยิ่งขึ้น เช่น "car2go" ผู้นำในตลาดการบริการการเช่ารถยนต์ระยะสั้นในเขตเมืองผ่านแอพลิเคชั่นบนมือถือ "mytaxi" แอพลิเคชั่นเรียกใช้บริการรถแท็กซี่อันดับหนึ่งในทวีปยุโรป "moovel" แอพลิเคชั่นแรกที่ให้บริการด้านการเดินทางเต็มรูปแบบ รวมถึงการจองตั๋วรถไฟทั่วประเทศเยอรมนีและสหรัฐอเมริกา และ "FlixBus" บริการรถโดยสารเพื่อเดินทางระหว่างเมืองในทวีปยุโรป ซึ่งทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการโดยเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer-Centric) นอกจากนั้น ลูกค้าจะมีทางเลือกที่จะใช้บริการทางเงินหรือเช่ารถยนต์ที่ตรงตามความต้องการเฉพาะของลูกค้าแต่ละราย "AutoGravity" เป็นแอพลิเคชั่นให้บริการเลือกรถยนต์และบริการทางการเงินที่ลูกค้าสามารถกำหนดเอง และ"Mercedes pay" ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นปีนี้ เป็นแอพลิเคชั่นสำหรับชำระค่าบริการผ่านสมาร์ทโฟน"
"ในด้านของผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วง 6 เดือนแรกนั้น ผลประกอบการของกลุ่ม เดมเลอร์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) กว่า 1 พันล้านยูโร ซึ่งเป็นสถิติสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทฯ และมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง15% อีกทั้งยังมีการให้สินเชื่อใหม่อีกเกือบ 1 ล้านสัญญา เพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทำให้จำนวนการให้สินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นเป็น4.6 ล้านสัญญา หรือคิดเป็นขนาดสินเชื่อรวม 1.34 แสนล้านยูโร สำหรับบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) ยังคงมีผลประกอบการเติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยยอดสินเชื่อรถยนต์ใน 6 เดือนแรกอยู่ที่กว่า 33,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อีกทั้งยังมีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดมาก และมีการให้สินเชื่อรถยนต์เมอร์เซดส-เบนซ์ มากกว่า 45% ของยอดขาย ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลมาจากการการให้บริการแบบครบวงจร (one-stop financial service solution) และการบริการทางการเงินที่หลากหลาย รวมถึง 'mySTAR Special' บริการทางเงินเฉพาะลูกค้าเมอร์เซดส-เบนซ์ โดยปัจจุบันมีสัดส่วนมากกว่า20% ของสินเชื่อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และโปรแกรมการประกันภัย 'MB Protection' ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดถึง 71% เติบโต 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และปัจจุบันให้การคุ้มครองลูกค้าเกือบ 20,000 ราย" คุณศุภวุฒิ กล่าว
คุณไมเคิล บราวน์ กรรมการบริหารฝ่ายขายและการตลาด กล่าวว่า "ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) เน้น 4 กลยุทธ์หลัก คือ การสร้างความตื่นเต้นและการมีส่วนร่วมของลูกค้า การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลักของบริษัทฯ การขยายช่องทางการให้บริการแบบดิจิทัล และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการบริการใหม่ให้แก่ลูกค้า ในส่วนของ กลยุทธ์แรก "การสร้างความตื่นเต้นและการมีส่วนร่วมของลูกค้า" เรายังคงให้ความสำคัญกับลูกค้าปัจจุบันให้คงอยู่กับครอบครัวเมอร์เซเดส-เบนซ์ตลอดไป ผ่านสิทธิพิเศษต่างๆ ที่ลูกค้าจะได้รับ รวมถึงข่าวสารต่างๆ เช่นแคมเปญ โปรโมชั่นใหม่ๆ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการตลาดเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์กับทั้งดีลเลอร์และลูกค้าอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี อาทิ กิจกรรม "The Art of Leather Workshop", "The Soulful of Flowers Workshop", "The Cooking for Fun Workshop", "The Movie Exclusive" และล่าสุดคือ "The Beauty Workshop with Guerlain" ที่จัดไปเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นต้น"
"สำหรับ กลยุทธ์ที่สอง "การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลักของบริษัทฯ" ทางบริษัทฯ ยังคงเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าตลอดระยะเวลาสินเชื่อ รวมถึงการรักษาฐานลูกค้าเก่าด้วยสิทธิพิเศษต่างๆ รวมไปถึงการนำเสนอแผนประกันภัย Mercedes-Benz Protection ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีดังจะเห็นได้จากในปีที่แล้วที่มีลูกค้าใช้บริการเป็นจำนวน 7 ใน 10 ของลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั้งหมด นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังมองเห็นศักยภาพของตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ในประเทศไทยที่มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอีกมากในอนาคต ในปีนี้เราจึงได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนบริษัท เดมเลอร์ คอมเมอร์เชียล วีฮีเคิลส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยเราได้จัดตั้งฟูโซ่ ลีสซิ่ง เพื่อดูแลในเรื่องการให้บริการด้านการเงินอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการให้สินเชื่อสำหรับลูกค้า การให้สินเชื่อสำหรับผู้จำหน่ายในการสต๊อกรถ และการสร้างโชว์รูม"
"สำหรับ กลยุทธ์ที่สาม "การขยายช่องทางการให้บริการแบบดิจิทัล" เรายังคงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอการบริการที่ดีที่สุดให้กับทั้งดีลเลอร์และลูกค้าทางช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น "Dealer Touchpoint (DTP)" ช่วยให้ดีลเลอร์สามารถทำธุรกิจได้ทุกที่ทุกเวลา "myBUSINESS" เพื่อให้ดีลเลอร์สามารถดูผลประกอบการของตนเองผ่านมือถือ และ "Customer Online Service (COS)" ระบบที่ลูกค้าสามารถดูประวัติการชำระค่างวด พิมพ์ใบเสร็จรับเงิน การติดต่อกับทาง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) ได้ด้วยตนเอง รวมถึงการเพิ่มการให้บริการใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น Digital Welcome message การแนะนำการใช้งานแบบวีดีทัศน์ การคำนวณยอดปิดสินเชื่อก่อนกำหนด และ การบัตรชำระค่างวดแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยในปัจจุบันมีลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่งมากกว่า 30% ที่ลงทะเบียนใช้งานระบบบริการข้อมูลลูกค้าออนไลน์ดังกล่าว และกลยุทธ์สุดท้าย "การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการบริการใหม่ให้แก่ลูกค้า" ในปีนี้เรายังมุ่งเน้นที่โปรแกรมทางการเงิน mySTAR ซึ่งเป็นวิธีที่ชาญฉลาดในการไฟแนนซ์รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ ด้วยเงินชำระครั้งแรกที่ยืดหยุ่น ค่างวดที่ต่ำกว่าโปรแกรมเช่าซื้อถึง 30% และทางเลือกที่คุณเป็นคนกำหนดได้เองตอนสิ้นสุดสัญญา ไม่ว่าจะเป็นการคืนรถและออกคันใหม่ (Return & Renew) หรือการจ่ายชำระค่าบอลลูนเต็มจำนวนเพื่อเป็นเจ้าของรถ (Retain) หรือ เลือกที่จะผ่อนชำระก้อนบอลลูนต่อไปอีก 1-4 ปี (Refinance) และล่าสุดทางบริษัทฯ ได้ออกผลิตภัณฑ์ mySTAR ในรูปแบบใหม่ซึ่งรวมประกันภัยชั้นหนึ่งไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ทางบริษัทฯ จะให้ความสำคัญในการให้ลูกค้าเลือกข้อเสนอในการคืนรถเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดรถยนต์มือสอง และกระตุ้นตลาดสินเชื่อรถยนต์ผ่านการที่ลูกค้าเลือกซื้อรถยนต์คันใหม่อีกด้วย" มร. ไมเคิล กล่าวทิ้งท้าย