บมจ.ทีโอที โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมศักยภาพ ชุมชนในการนำเทคโนโลยี นวัตกรรม และการสร้างสรรค์ มาพัฒนาเศรษฐกิจขยายฐานตลาดสร้างรายได้ให้กับชุมชนผ่าน e-Commerce เป็นพลัง ประชารัฐเพื่อไปสู่เป้าหมายนโยบายประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาล พันตำรวจโท หม่อมหลวงกิตติบดี ประวิตร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการส่งเสริมและพัฒนาชุมชนให้เติบโตโดยใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และการสร้างสรรค์ ซึ่งจะช่วยผลักดันชุมชนชาวสิงห์บุรี สร้างความเข็มแข็งทางเศรษฐกิจจากภายในสู่ภายนอกประเทศตามนโยบายประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาล ทั้งนี้ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจของชุมชนและส่งเสริมให้เยาวชนและคนไทยได้ร่วมอนุรักษ์ประวัติศาสตร์วัฒนธรรม และหัตถกรรมของประเทศ ส่งเสริมให้เกิดการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยสิงห์บุรีมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญเชิงประวัติศาสตร์และศาสนา อาทิ พระพุทธไสยาสน์ในวิหารวัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร ค่ายบางระจัน แหล่งเตาเผาแม่น้ำน้อย รวมถึงวิถีชีวิตริมฝั่งแม่น้ำน้อย พร้อมแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยเรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์ของชุมชน รวมถึงสนับสนุนให้เกิดการขยายตลาดสร้างเศรษฐกิจให้กับชุมชน โดยมีผลิตภัณฑ์ชุมชนที่สำคัญ ได้แก่ กระเป๋าผ้าไทย ชุดผ้าไทย หมี่กรอบ หมูทุบ ปลาร้าสับกระป๋อง และปลาช่อนแดดเดียว เป็นต้น
นายประจักษ์ มโนจันทร์เพ็ญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักขายและบริการลูกค้าภูมิภาคที่ 5 และหัวหน้าคณะทำงานโครงการ TOT Young Club กล่าวว่า โครงการ TYCเป็นกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR โดยปีนี้นับเป็นปีที่ 4 มีชุมชนเข้าร่วมโครงการฯ แล้ว 36 แห่งใน 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ โดย ทีโอที ตั้งเป้าขยายชุมชนในปี 2560 เพิ่มขึ้น จำนวน 12 ชุมชน สำหรับกิจกรรม TYC "เด็กไทยมีดี ใช้ไอทีเพื่อพัฒนาวิสาหกิจชุมชน" ปี 2560 ที่ชุมชนวิทยาลัยอาชีวศึกษาสิงห์บุรี เป็นชุมชนแห่งที่ 5 ของปี 2560 ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญเพื่อร่วมเป็นพลังประชารัฐในการพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชน วิทยาลัยอาชีวศึกษาสิงห์บุรีให้เข้มแข็ง ที่นอกจากการสนับสนุนให้เกิดการแปรรูปผลิตภัณฑ์ขยายตลาดสร้างเศรษฐกิจชุมชนแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมสนับสนุนชุมชนนำผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปสร้างมูลค่านำไปสู่รายได้เพิ่มให้กับชุมชน ซึ่งสอดรับกับนโยบายรัฐบาลที่ส่งเสริมให้เกษตรกรในนครพนมปลูกพืชอื่นๆ ให้เหมาะสมกับพื้นที่ และรองรับกับอนาคต ซึ่งตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยมีเป้าหมายเพื่อนำผลิตภัณฑ์ของชุมชน และให้คนในชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน ทั้งส่วนราชการท้องถิ่น อบต. หน่วยงานท่องเที่ยว สื่อมวลชนท้องถิ่น สถานศึกษาในชุมชนร่วมผลักดันสนับสนุน โดยเยาวชนได้นำความรู้ในด้านสื่อ Social Media มาสนับสนุนเพื่อขยายภาคการตลาดให้กับชุมชน ขับเคลื่อนชุมชนตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 รวมถึงสนับสนุนภูมิปัญญาความรู้ในท้องถิ่น นำผลิตภัณฑ์และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของชุมชนมา
บริหารจัดการสร้างสรรค์พัฒนา เพื่อสร้างโอกาสให้กับชุมชน และทั้งนี้ TYC นับเป็นหนึ่งในโครงการที่จะไปสนับสนุนนโยบายประเทศไทย 4.0 ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยภายในโครงการเน้นการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และการสร้างสรรค์ เพื่อสร้างเศรษฐกิจให้กับชุมชน ปี 2560 โครงการ TYC ของ ทีโอที ได้สนับสนุนทั้งในด้านของ application การซื้อขายออนไลน์ การพัฒนาและทำตลาดผ่านเว็บไซต์และ facebook ของชุมชน ซึ่งจะตอบโจทย์ของรัฐบาลในการที่จะสร้างมูลค่าในสินค้าและบริการด้วยการแปรรูปผลิตภัณฑ์ของชุมชนขยายสู่ตลาด โดยโครงการฯ จะมีการ อบรมให้ความรู้ในการใช้งานด้าน ICT ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาชุมชนของตนเอง เช่น การสร้าง web page ชุมชน การใช้ Facebook การตกแต่งภาพ การถ่ายทำวิดีโอ พร้อมทั้งการนำเสนอขายสินค้าชุมชนผ่านช่องทาง e-commerce ด้วยการสร้างสื่อSocial media ของชุมชนสร้างเป็นเครือข่ายเพื่อพัฒนาชุมชนร่วมกัน รวมถึงการนำระบบการซื้อขาย e-Commerce มาต่อยอดขยายตลาดให้กับชุมชน ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทีโอที จัดกิจกรรมชุมชนใหม่ TYC ไปแล้ว จำนวน 4 ชุมชน คือ
ชุมชนบ้านเกาะหวาย จ.นครนายก https://www.facebook.com/tyckohwai/
ชุมชนถ้ำรงค์ จ.เพชรบุรี https://www.facebook.com/tycthamrong/
ชุมชนน้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ https://www.facebook.com/tycnamkliang/
ชุมชนเรณูนคร จ.นครพนม https://www.facebook.com/tycrenu/
สำหรับชุมชนใหม่จะดำเนินการตามโครงการของ ปี 2560 อีกจำนวน 7 ชุมชน คือ ชุมชนเทศบาลตำบล ป่าป้อง จ.เชียงใหม่ ชุมชนอำเภอลับแล จ.อุตรดิตถ์ ชุมชนพนางตุง จ.พัทลุง ชุมชนกะเปอร์ จ.ระนอง ชุมชนบ้านดงกระทงยาม จ.ปราจีนบุรี ชุมชนมาบตาพุดจ.ระยอง ชุมชนบางน้ำผึ้ง จ.กรุงเทพมหานคร บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit