การทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่มีระยะเวลาถึง 21 วันนี้ จัดทำในช่วงฤดูฝนของประเทศไทยในพื้นที่ซึ่งประสบอุทกภัยจากฝนที่ตกหนักและเต็มไปด้วยมลภาวะจากกิจกรรมของมนุษย์และขยะอินทรีย์อื่น ๆ ซึ่งเครื่องดักยุงมอสคลีนสามารถทำงานได้เหนือกว่าเครื่องดักยุงมาตรฐานทั่วไปถึง 16 เท่า นอกจากนี้ ผลการศึกษายังแสดงให้เห็นว่า มอสคลีนสามารถดักจับยุงและแมลงอื่นที่ไม่ใช่ยุงโดยเฉลี่ยต่อวันมากถึง 457±403 ตัว และ 503±292 ตัว ตามลำดับ ในขณะที่เครื่องดักยุงมาตรฐานทั่วไปจะอยู่ที่ 29±20 ตัวและ 683±134 ตัวตามลำดับ มอสคลีนยังสามารถดักจับแมลงสายพันธุ์ Anopheles ซึ่งเป็นเป็นพาหะของโรคต่าง ๆ รวมถึง โรคไข้โอนีอง-นีอง ที่มีความเกี่ยวข้องกับโรคเนื้องอกในสมอง มาลาเรีย รวมถึงโรคร้ายแรงอื่น ๆ อาทิ พยาธิหนอนหัวใจสุนัข (Dirofilaria immitis) ซึ่งเครื่องดักยุงทั่วไปไม่สามารถดักจับแมลงในสายพันธุ์ชนิดนี้ได้
เครื่องดักยุงมอสคลีนมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าเครื่องดักยุงทั่วไปหลายประการ หากผู้บริโภคต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงและปราศจากสารพิษ ไร้สิ่งเจือปนจากสารปรอทหรือสารเคมีที่ก่อพิษ และไม่ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร เครื่องดักยุงมอสคลีนคือคำตอบสุดท้าย
หยางซือ ยี ผู้จัดการ บริษัท โซล ไวโอซิส จำกัด ประจำประเทศไทย กล่าวว่า "เรารู้สึกยินดีที่มีผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ช่วยยืนยันประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ที่เรามั่นใจว่าเหมาะกับผู้บริโภคในปัจจุบัน เนื่องจากประเทศไทยมีภูมิอากาศร้อนที่ทำให้เราต้องประสบกับปัญหาแมลงต่างๆ มากมาย มอสคลีนจึงช่วยปกป้องเราได้ ซึ่งถือเป็นวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับประชาชนในเมืองไทย รวมถึงภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก"
ผศ.ดร.ชิตชล ผลารักษ์ ผู้ทำการศึกษาครั้งนี้ เปิดเผยว่า "เครื่องดักยุงมอสคลีนสามารถดักจับยุงได้ถึง 6 สายพันธุ์ ในขณะที่เครื่องดักยุงทั่วไปดักจับได้เพียง 3 สายพันธุ์เท่านั้น การศึกษามีการเก็บข้อมูลแบบการกระจายแบบไม่ปกติ (Non-Normal Distribution) และการทดสอบของครัสคาลและวัลลิส (Kruskal-wallis Test) เพื่อตรวจสอบความแตกต่างระหว่างมอสคลีนกับเครื่องดักยุงมาตรฐาน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจำนวนยุงที่ถูกดักจับแล้ว ปรากฏว่าเราพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างมอสคลีนกับเครื่องดักยุงอื่น ๆ ซึ่งมอสคลีนมีประสิทธิภาพสูงที่สุด"
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit