นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า อุบัติเหตุทางถนนมักมีสาเหตุส่วนหนึ่งจากความไม่พร้อมของสภาพรถ การตรวจสอบรถให้พร้อมใช้งานจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง เพื่อความปลอดภัยกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะข้อควรรู้เกี่ยวกับ การตรวจสอบสภาพรถ โดยสภาพยาง ตรวจสอบยางให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ หน้ายางไม่ชำรุด ไม่บวม หรือปริแตก ดอกยางควรลึกมากกว่า ๓ มิลลิเมตร เติมแรงดันลมยางตามค่ามาตรฐานที่รถกำหนด ลมยางไม่อ่อน หรือแข็งเกินไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการยึดเกาะถนน และรีดน้ำ รวมถึงป้องกันอุบัติเหตุจากยางระเบิดระบบไฟส่องสว่าง ตรวจสอบการทำงานของระบบไฟให้ส่องสว่าง ทุกตำแหน่ง ทั้งไฟหรี่ ไฟต่ำ ไฟสูง ไฟเลี้ยว ไฟท้าย ไฟเบรก ไฟถอยหลัง ไฟตัดหมอก หากพบว่าไฟในตำแหน่งใดหรี่ หรือไม่ติด ควรเปลี่ยนหลอดไฟใหม่ จะทำให้มองเห็นเส้นทางชัดเจน และผู้ขับรถคันอื่นมองเห็นรถเราได้จากระยะไกล ใบปัดน้ำฝน หมั่นทำความสะอาดยางใบปัดน้ำฝน หากกวาดน้ำบนกระจกไม่สะอาด มีคราบสกปรก มีเสียงดังหรือกระตุกขณะใบปัดน้ำฝนทำงาน เนื้อยางใบปัดน้ำฝนแห้งกรอบ ให้เปลี่ยนยางใบปัดน้ำฝนใหม่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่มีสาเหตุจากทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทาง ไม่ชัดเจน เครื่องยนต์ หากมีสัญญาณไฟเตือนบริเวณหน้าปัดรถ เครื่องยนต์มีเสียงดังผิดปกติ ให้นำรถไปซ่อมที่ศูนย์บริการ หรืออู่ซ่อมรถก่อนนำไปใช้งาน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากสภาพเครื่องยนต์บกพร่อง ระบบเบรก กรณีหยุดหรือชะลอความเร็วรถแล้วเบรกมีเสียงดังผิดปกติ พวงมาลัยปัด ไม่สามารถหยุดรถได้ในระยะทางที่ปลอดภัย ถือเป็นสัญญาณเตือนว่าระบบเบรกผิดปกติ ควรตรวจสอบระยะเบรก และเติมน้ำมันเบรกให้อยู่ในระดับที่กำหนด พร้อมเปลี่ยนผ้าเบรกใหม่ จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากเบรกแตก หรือเบรกค้าง หม้อน้ำรถยนต์ ตรวจสอบหม้อน้ำ รังผึ้ง และข้อต่อสายยางไม่ให้มีรอยรั่วซึม พร้อมหมั่นเติมน้ำในหม้อน้ำไม่ให้พร่องหรือต่ำกว่าเกณฑ์ เพื่อให้ระบบระบายความร้อนทำงานได้ตามปกติ จะช่วยป้องกันความร้อนขึ้นสูง ส่งผลให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ การเรียนรู้ข้อควรปฏิบัติเกี่ยวกับการตรวจสอบสภาพรถ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ จากสภาพรถที่ไม่พร้อม และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit