นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า สตรีมีครรภ์เป็นกลุ่ม ที่มีความเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายจากการเดินทาง เนื่องจากสภาพร่างกายและสรีระที่เปลี่ยนแปลงในขณะตั้งครรภ์ โดยเฉพาะหากประสบอุบัติเหตุ จะทำให้ได้รับบาดเจ็บรุนแรง ส่งผลให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแท้ง และเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะข้อควรปฏิบัติในการเดินทางสำหรับสตรีมีครรภ์ ดังนี้ การโดยสารรถยนต์ นั่งบริเวณเบาะด้านหน้าข้างคนขับ โดยปรับเลื่อนพนักพิงไปด้านหลังให้มากที่สุด ในลักษณะกึ่งเอนนอน พร้อมใช้หมอนหนุนหลังและรองคอ เพื่อป้องกันอาการเมื่อยล้า คาดเข็มขัดนิรภัยอย่างถูกวิธี ทุกครั้งที่เดินทาง โดยแนวทแยงคาดผ่านร่องอกไปตามแนวโค้งของท้อง ปรับสายเข็มขัดนิรภัยให้กระชับ ไม่บิด หรือเป็นเกลียว เพื่อป้องกันแรงกระชาก ทำให้เกิดอันตรายได้ แนวนอนอยู่บริเวณใต้ท้อง เหนือต้นขา และกระดูกเชิงกราน รวมถึงใช้หมอนใบเล็ก รองบริเวณหน้าท้องส่วนล่าง แล้วจึงคาดเข็มขัดนิรภัย ห้ามคาดทับบริเวณหน้าท้องโดยตรงการโดยสารรถโดยสารประจำทาง หลีกเลี่ยงการใช้บริการรถโดยสารที่มีคนหนาแน่น เพราะอาจถูกเบียดล้มและเป็นลม ก่อให้เกิดอันตรายได้ ระมัดระวังอุบัติเหตุขณะขึ้น – ลงบันได และระหว่างรถชะลอความเร็ว ควรรอให้รถจอดสนิท ค่อยเดินขึ้น – ลงรถ ไม่ยืนบริเวณบันได หรือโหนรถเมล์ เพราะเสี่ยงต่อการพลัดตก และหกล้ม การโดยสารรถไฟฟ้า เพิ่มความระมัดระวังอันตราย โดยเฉพาะบริเวณบันไดเลื่อน เพราะอาจสะดุดล้ม ทางเข้าออกประตูรถไฟฟ้าที่มีคนใช้บริการหนาแน่น เพราะอาจถูกกระแทกหรือหกล้มได้ หลีกเลี่ยงการใช้ทางเข้าออกอัตโนมัติ เพื่อป้องกันที่กั้นปิดลงมากระแทกท้อง เพื่อความปลอดภัย ควรใช้ทางเข้าออกสำหรับสตรีมีครรภ์ ยืนรอรถไฟฟ้าบริเวณชานชาลาหลังเส้นเหลือง ห้ามยืนหรือล้ำเข้าไปในเส้นที่กำหนด ห้ามยื่นแขนหรือขาออกไปในรางรถไฟขณะที่มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่าน รวมถึงไม่หยอกล้อเล่นบริเวณชานชาลารถไฟฟ้าอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุพลัดตกลงไปในราง ที่สำคัญ สตรีมีครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงการซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ เพราะการทรงตัวไม่ดี ทำให้เสี่ยงต่อการพลัดตกรถ และได้รับอันตราย หากจำเป็นต้องโดยสารรถจักรยานยนต์ ควรใช้ความเร็วต่ำ และสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง จะช่วยลดการบาดเจ็บรุนแรง และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit