ไวตามิ้ลค์สนับสนุนภาครัฐรณรงค์สร้างสุขภาพคนไทย

20 Jun 2017
ไวตามิ้ลค์ผู้นำตลาดนมถั่วเหลือง ขานรับนโยบายรัฐบาลในการรณรงค์ลดหวานในเครื่องดื่มและอาหาร สนับสนุนการติดตราสัญลักษณ์ "ทางเลือกสุขภาพ" บนผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำตาลน้อย เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตปรับตัวและมีทางเลือกที่ช่วยให้ผู้บริโภคสุขภาพดีกว่าเดิม กระตุ้นผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมก่อนกระทรวงการคลังเริ่มปรับขึ้นภาษีผลิตภัณฑ์ที่มีความหวานในปี 2561
ไวตามิ้ลค์สนับสนุนภาครัฐรณรงค์สร้างสุขภาพคนไทย

ในงานเสวนาเรื่อง "ภาษีความหวานกับการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรม" ที่จัดขึ้นโดยกรมอนามัยร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย ในงาน PROPAK Asia 2017 ตัวแทนจากกรมสรรพสามิต กรมอนามัย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และผู้ผลิตอาหารร่วมกันอภิปรายและแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับทิศทางภาษีความหวาน แนวทางการปฎิบัติสำหรับผู้ประกอบการและการสร้างการรอบรู้สินค้าทางเลือกเพื่อสุขภาพ

นายประจวบ ตยาคีพิสุทธิ์ ผู้ผลิตและจำหน่ายนมถั่วเหลืองไวตามิ้ลค์ โดยบริษัท กรีนสปอต จำกัด กล่าวว่า "มาตรการการติดตราสัญลักษณ์ ทางเลือกสุขภาพ ดังกล่าว เป็นความร่วมมือของทั้งภาครัฐ เอกชน และสังคม ในการกระตุ้นการเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีรสหวาน เนื่องจากคนไทยติดหวานและเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมากขึ้น เช่น โรคเบาหวาน ซึ่งคนไทยที่เป็นโรคเบาหวานมีจำนวนเพิ่มจากร้อยละ 6.9 ในปี พ.ศ. 2552 เป็น ร้อยละ 8.9 ในปี 2557 และผู้ที่มีภาวะอ้วนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 34.7 ในปี 2552 เป็นร้อยละ 37.5 ในปี2557 ตราสัญลักษณ์นี้จะเป็นเครื่องหมายทำให้ผู้บริโภคฉุกคิด และมีทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น

"ไวตามิ้ลค์ ถือเป็นหนึ่งในภาคเอกชนรายแรกที่ให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างเต็มที่ โดยจะนำร่องด้วยการติดตราสัญลักษณ์ ทางเลือกสุขภาพ บนผลิตภัณฑ์ไวตามิ้ลค์ สูตรกลมกล่อม ซึ่งมีน้ำตาลน้อยกว่า 6 กรัมต่อ 100 มล. และเตรียมจะพัฒนาสูตรอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ ไวตามิ้ลค์ยังได้ใช้ความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในการปรับสูตรผลิตภัณฑ์เพื่อลดปริมาณน้ำตาลลง แต่ยังคงไว้ซึ่งรสชาติที่กลมกล่อม โดยเริ่มตั้งแต่ต้นน้ำด้วยการร่วมกับเกษตรกรปลูกถั่วเหลืองด้วยวิธีธรรมชาติที่ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพ และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง สามารถนำมาผลิตเป็นนมถั่วเหลืองที่มีรสชาติอร่อยกลมกล่อม เชื่อว่าทั้งการติดตราสัญลักษณ์และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ นอกจากจะเพิ่มทางเลือกแล้ว ยังจะทำให้เกิดการตระหนักถึงการบริโภคเพื่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาว" นายประจวบ กล่าว

ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และสังคมในการจัดทำโครงการ มาตรการ และผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการบริโภคน้ำตาล จะช่วยให้ประเทศไทยรับมือกับการก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมสูงอายุได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคจะมีความเสี่ยงจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังลดลง ภาระของภาครัฐและสังคมในการดูแลผู้ป่วยเหล่านี้จะลดลงเช่นกัน

นายประจวบกล่าวเสริมว่า "ผู้ผลิตเป็นต้นทางในการแก้ปัญหาสุขภาพ ดังนั้น นอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หวานน้อยแล้ว เราจึงให้ความสำคัญกับการปลูกฝังความรู้เรื่องโภชนาการ และสร้างนิสัยในการรับประทานที่ถูกต้องตั้งแต่วัยเด็ก เพื่อให้เด็กเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักดูแลสุขภาพของตนเอง"

ไวตามิ้ลค์จึงจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพให้เยาวชนไทย ผ่านโรงเรียน 750 แห่ง เข้าถึงนักเรียนกว่า 1,000,000 คนทั่วประเทศ เพื่อสร้างพฤติกรรมการบริโภคอย่างเหมาะสม ร่วมกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อันจะนำไปสู่สังคมสุขภาพที่ยั่งยืน

"เราเชื่อว่าผู้ผลิตต้องผลิตสินค้าด้วยความรับผิดชอบ การลดปริมาณน้ำตาลธรรมชาติในเครื่องดื่มของเราไม่ใช่ทางแก้ปัญหาทั้งหมด เพราะถ้าผู้บริโภคยังคงใช้ชีวิตแบบเดิม ปัญหาจะยังอยู่ เรายังคงติดหวานต่อไป จึงต้องทำไปพร้อมกัน และต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นของประชาชน" นายประจวบกล่าว

HTML::image( HTML::image( HTML::image(