นายพงษ์ภาณุ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2559 รูปแบบการท่องเที่ยวตามแม่น้ำเจ้าพระยา แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเรือภัตตาคาร ซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุด ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวยุโรป อเมริกา โอเซียเนีย แบ่งมูลค่าทางเศรษฐกิจ 3,067 ล้านบาท, กลุ่มเรือทัวร์ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ เรือเช่าเหมาลำ บริการนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์เป็นหลัก และเรือด่วนเจ้าพระยา บริการนักท่องเที่ยว ทั้งกรุ๊ปทัวร์ และ F.I.T. มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ 353 ล้านบาท และกลุ่มเรือหางยาว ได้รับความนิยมทั้งจากนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์ และ F.I.T. เน้นการท่องเที่ยวเพื่อเที่ยวชมวิถีชีวิตในลำคลองต่างๆ มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ 328 ล้านบาท รวมมูลค่าทางเศรษฐกิจทั้งสิ้น 3,748 ล้านบาท
การท่องเที่ยวตามแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นรูปแบบการท่องเที่ยวทางน้ำที่เกี่ยวเนื่องกับวิถีชีวิตของคนไทย ซึ่งในอดีตกรุงเทพได้ชื่อว่าเป็น "เวนิสตะวันออก" เป็นการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเนื่องจากนักท่องเที่ยวสามารถได้ชื่นชมวิถีชีวิตและวิถีชุมชนตามสองฝั่งแม่น้ำลำคลอง รวมถึงโบราณสถานและ สิ่งปลูกสร้างซึ่งมีอยู่ทั้ง 2 ฝั่งคลอง ซึ่งนักท่องเที่ยวไม่สามารถสัมผัสบรรยากาศแบบนี้จากที่ใดในโลก เพราะมีแค่ประเทศไทย 1 เดียวเท่านั้น
"ส่วนมาตรการด้านความปลอดภัยนั้น หากนักท่องเที่ยวต้องการขอความช่วยเหลือสามารถ โทรประสานได้ที่เบอร์สายด่วน 1155 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ทั้งนี้ ตำรวจท่องเที่ยวยังได้มีการ บูรณาการการทำงานร่วมกับตำรวจน้ำในการให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวและผู้ประสบเหตุทางน้ำ ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นถึงมาตรการด้านความปลอดภัยและการให้ความช่วยเหลืออีกด้วย"
"ท้ายนี้ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่าน ช่วยกันรักษาแม่น้ำลำคลอง เพื่อเป็นการรักษาทัศนียภาพที่สวยงามของเมืองไทยไว้ โดยไม่ทิ้งขยะลงแม่น้ำลำคลองเพื่อไม่เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการระบายน้ำ" ปลัดฯ พงษ์ภาณุ กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit