1. เลือกทักษะให้เหมาะสมกับที่ผู้ประกอบการต้องการ
ถ้าคุณคิดว่าจะส่งใบสมัครงานไปหลายที่ สิ่งสำคัญที่ควรทำคือ เขียนเรซูเม่แต่ละฉบับให้เหมาะกับแต่ละตำแหน่งงานและแต่ละบริษัทที่จะสมัคร บางคนเขียนเรซูเม่แค่ฉบับเดียว แล้วใช้สมัครงานกับทุกบริษัท ทำแบบนี้อาจจะไม่ได้งานซักที อย่าขี้เกียจค่ะ ผู้ประกอบการดูออกว่า คุณมีความตั้งใจ และพยายามเขียนเรซูเม่เพื่อนำเสนอตัวเองแค่ไหน ถ้าอยากให้เรซูเม่ของคุณโดดเด่น เข้าตาผู้ประกอบการ ให้ลิสต์ทักษะที่คุณมี (ทักษะที่สามารถปรับให้เข้ากับการทำงานด้านต่างๆ ได้) ออกมาให้หมด แล้วลองดูว่าทักษะไหนตรงกับที่ผู้ประกอบการต้องการ ที่ลงไว้ในประกาศงาน ทักษะที่คุณลิสต์ไว้อาจจะไม่ได้ตรงกับที่ผู้ประกอบการต้องการทั้งหมด 100% คุณต้องเลือกเขียนเน้นทักษะที่คุณมี และตรงกับที่ผู้ประกอบการต้องการ การเขียน keyword ทักษะเหล่านี้ ก็ทำให้เรซูเม่ของคุณโดดเด่นขึ้นมาแล้วค่ะ
2. เขียนทักษะที่มีให้สอดคล้องกับทักษะที่ผู้ประกอบการต้องการ
พยายามเขียนทักษะที่คุณมีให้สอดคล้องกับทักษะที่ผู้ประกอบการลงไว้ในประกาศงาน อย่าอธิบายเกินจริง แต่ให้เขียนอธิบายว่า คุณปรับใช้ทักษะที่มีกับการทำงานที่คุณรับผิดชอบอย่างไรบ้าง เช่น ในประกาศงานต้องการผู้สมัครงานที่มีทักษะในการคิดสร้างสรรค์งานได้ (creative thinking skills) คุณสามารถหยิบยกประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาของคุณมาเขียนได้ เช่น คุณเคยเป็นครูอาสาสมัครสอนภาษาอังกฤษให้กับเด็กๆ ในกัมพูชา งานที่คุณรับผิดชอบคือ คุณต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการหาวิธีใหม่ๆ เพื่อทำให้เด็กทุกคนมีส่วนร่วม และสนุกสนานในชั้นเรียน โดยการให้เด็กๆ ได้เล่นเกมที่สอดแทรกภาษาอังกฤษ และการออกกำลังกาย
3. อธิบายทักษะที่คุณมีให้ชัดเจนและกระชับที่สุด
เขียนอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับทักษะที่คุณมีให้ชัดเจนและกระชับที่สุด ไม่ควรเขียนแบบกว้างๆ เช่นคำเหล่านี้ มีทักษะการเป็นผู้นำที่ดี (good leadership skills) หรือ มีทักษะการคิดวิเคราะห์ที่ดีเยี่ยม (excels at critical thinking) คำเหล่านี้จะเป็นคำที่ผู้ประกอบการลงไว้ในประกาศงาน ถ้าคุณใช้คำเดียวกันนี้เขียนลงไปในเรซูเม่ของคุณ ผู้ประกอบการอาจยังมองไม่เห็นภาพว่าคุณจะใช้ทักษะที่มีกับการทำงานได้อย่างไร คุณควรใช้คำง่ายๆ และเขียนให้ชัดเจนว่า คุณประสบความสำเร็จอย่างไรในการใช้ทักษะที่คุณมีนี้ เมื่อผู้ประกอบการเห็นภาพว่าคุณสามารถปรับใช้ทักษะที่คุณมีให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไร แค่นี้ทั้งเรซูเม่ ทั้งตัวคุณก็จะเข้าตาผู้ประกอบการแน่นอน
4. เขียนสรุปความสำเร็จทั้งหลายด้วยตัวเลข
ผู้ประกอบการจะสะดุดตากับเรซูเม่ของคุณได้ คุณต้องเขียนสรุปสรรพคุณด้วยจำนวนตัวเลข จะทำให้เห็นภาพได้ง่ายและชัดเจนขึ้น เช่น ถ้าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญงานจัดการโครงการ สิ่งที่ควรเขียนคือ คุณสามารถบริหารจัดการโครงการ ที่ต้องเกี่ยวข้องกับคนหลายๆ ฝ่าย ทั้งภายในและภายนอกองค์กรได้ และสามารถจัดการกับโครงการต่างๆ ที่รับผิดชอบภายใต้งบประมาณและภายในเวลาที่กำหนด เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับเรซูเม่ของคุณ ให้คุณเขียนความสำเร็จทั้งหลายด้วยตัวเลข เช่น "คุณประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนความสามารถในการทำงาน ทำให้ทุกๆ วันมีผลผลิตเพิ่มขึ้น 30% และยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 20%"
5. เพิ่มคะแนนพิเศษด้วยทักษะความรู้เรื่องสื่อออนไลน์
ตอนนี้ บริษัทส่วนใหญ่กำลังต้องการคนทำงานที่มีความรู้เรื่องสื่อออนไลน์ อาจจะดูไม่เกี่ยวกับทักษะการทำงานโดยตรงซักเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณมีความรู้เรื่องนี้ ให้เขียนระบุลงไปในเรซูเม่ของคุณด้วย เช่น มียอดคนดูวิดีโอใน YouTube มากกว่า 50,000 วิว, มีผู้ติดตาม Instagram มากกว่า 10,000 คน หรือมีบล็อกที่มีคนเข้าชมและมีส่วนร่วมไม่ว่าจะเป็นคอมเมนท์หรือแชร์บทความในบล็อกของคุณอยู่อย่างต่อเนื่อง รับรองคุณได้คะแนนพิเศษเพิ่มเติมจากความรู้เรื่องสื่อออนไลน์นี้แน่นอนค่ะ
6. ตรวจทานและแก้ไขรอบสุดท้าย
ถ้าเขียนเรซูเม่เรียบร้อยแล้ว ให้อ่านตรวจทานอย่างน้อย 1-2 รอบ แต่ถ้ายังไม่แน่ใจว่าเรซูเม่ที่คุณเขียนดีหรือยัง คุณสามารถให้เพื่อน รุ่นพี่ หรือใครก็ได้ที่สามารถช่วยให้คำแนะนำคุณได้ ลองอ่านและแนะนำ เพื่อให้เรซูเม่ของคุณออกมาดีที่สุด ให้ผู้ประกอบการประทับใจในครั้งแรกที่เห็น บางคนอาจคิดว่าไม่สำคัญ แต่การตรวจทานและแก้ไข เป็นอีกส่วนที่สำคัญในการเขียนเรซูเม่เลยก็ว่าได้ เป็นการสำรวจความเรียบร้อยรอบสุดท้ายก่อนส่งเรซูเม่ไปสมัครงาน
สำหรับใครที่กำลังมองหางานใหม่หรือกำลังเตรียมยื่นใบสมัครไปที่บริษัทไหน ลองนำทั้ง 6 วิธีนี้ไปทำตามดูนะคะ ไม่ยากเลย สมัครงานครั้งต่อไปรับรองเรซูเม่ของคุณจะต้องเฉิดฉาย เข้าตาผู้ประกอบการแน่นอนค่ะ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit