กรมการท่องเที่ยว เดินเกมรุกต่อยอดความสำเร็จดันประเทศไทยขึ้นแท่น World’s Best Film Location เปิดเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทย ครั้งที่ 5

26 Jun 2017
กรมการท่องเที่ยว ประกาศความพร้อมเปิดเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทย ครั้งที่ 5 Thailand International Film Destination Festival 2017 : TIFDF2017ต่อยอดความสำเร็จตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นอันดับหนึ่งของโลเคชั่นที่ใช้เพื่อการถ่ายทำภาพยนตร์ที่ดีที่สุดของโลกหรือ World's Best Film Locationโดยการจัดกิจกรรมในปีนี้นำเสนอภายใต้แนวคิด "FASCINATING DESTINATION" พร้อมผลักดัน8 เขตพัฒนาการท่องเที่ยวในประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มเป้าหมายในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั่วโลก ผ่านกิจกรรมมากมาย อาทิ การแข่งขันการถ่ายทำภาพยนตร์สั้นในประเทศไทยโดยกลุ่มนักศึกษาด้านภาพยนตร์จากทั่วทุกมุมโลก โดยปีนี้มีกิจกรรมพิเศษ คือ การแข่งขันการถ่ายทำภาพยนตร์สั้นโดยนักศึกษาไทย ในหัวข้อ "การท่องเที่ยวเชื่อมโยงโครงการพระราชดำริ" เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งมีให้ผู้สมัครเลือกถึง 29 โครงการ ทั่วประเทศไทย และยังมีกิจกรรมการจัดฉายภาพยนตร์ที่จะนำภาพยนตร์ต่างประเทศชื่อดังที่เคยถ่ายทำในประเทศไทยมาฉายให้คนไทยได้ชม เพื่อย้อนความทรงจำและความประทับใจอีกครั้งหนึ่ง

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูรรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเผยว่า "กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องการท่องเที่ยวโดยตรง โดยมีนโยบายการท่องเที่ยว ที่มุ่งเน้นการเพิ่มรายได้ให้ประเทศ การกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น การพัฒนาคุณภาพคนไทย และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการท่องเที่ยวของประเทศไทย ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามและหลากหลายในประเทศไทย ซึ่งอุตสาหกรรมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยนั้น มีความเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นการนำเม็ดเงินมหาศาลเข้าประเทศ แต่ยังเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพในการเผยแพร่ภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลกอีกด้วยซึ่งเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทยนั้นมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2556 โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อเป็นช่องทางในการดึงดูดกลุ่มคนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และผู้ที่สนใจทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้มาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย

"สำหรับในปีนี้ เทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทยหรือThailandInternationalFilmDestinationFestival2017 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "FASCINATING DESTINATION" โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็น "Thailand - World's Best Film Location"กับการเป็นที่สุดของแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม มีระดับ ที่สุดของจุดหมายปลายทางในจินตนาการอันทรงคุณค่า และที่สุดของความเชื่อมั่นการันตีด้วยผลงานโฆษณา สารคดี และภาพยนตร์ที่เคยถ่ายทำในประเทศไทยโดยล่าสุดปี 2559มีคณะถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยทั้งหมดกว่า 700 เรื่อง สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 2,300 ล้านบาท และในช่วง 5 เดือน (ม.ค. - พ.ค.) ปี 2560 มีภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำแล้วทั้งสิ้น 369 เรื่อง สร้างรายได้กว่า

1,400 ล้านบาท โดยเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ปีนี้มีจำนวนเรื่องและรายได้เพิ่มสูงขึ้น (ในช่วงเวลาเดียวกัน ม.ค. – พ.ค. 59มีจำนวนเข้ามาถ่ายทำทั้งสิ้น 323 เรื่อง สร้างรายได้ประมาณ 846 ล้านบาท)ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่ต้องการมาตามรอยภาพยนตร์เหล่านั้นเช่น ภาพยนตร์เรื่อง James Bond 007 ที่เข้ามาถ่ายทำที่เกาะตะปู จังหวัดพังงา กระทั่งในปัจจุบันนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกยังคงเรียกเกาะตะปูว่า เกาะเจมส์บอนด์ หรือเมื่อเร็วๆนี้ ภาพยนตร์เรื่องLost in Thailand จากประเทศจีนที่เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย สร้างปรากฏการณ์ที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก หรือ Hang Over ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งในบทภาพยนตร์มีการนำเสนอเมนูอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักแก่ผู้ชมภาพยนตร์ทั่วโลกซึ่งปรากฎการณ์เหล่านี้ ล้วนมาจากปัจจัยสำคัญไม่ว่าจะเป็นด้านสถานที่ถ่ายทำที่มีความโดดเด่นและสวยงาม ศักยภาพและความพร้อมของทีมงานไทย และที่สำคัญที่สุดคือความเชื่อมั่นของกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศที่มีต่อประเทศไทย"

ด้าน นางสาววรรณสิริ โมรากุล อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่าในปีนี้เราดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ โดยมุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดที่อยู่ภายใต้ 8 เขตพัฒนาการท่องเที่ยว ตามยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย พ.ศ. 2558– 2560 เพื่อให้สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์แห่งใหม่ในประเทศไทยเป็นที่รู้จักแก่ผู้ที่สนใจเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยมากขึ้น โดยการจัดกิจกรรมเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทยประจำปี พ.ศ. 2560 มีตั้งแต่วันที่ 4-27 กรกฏาคม 2560 โดยปีนี้มีกิจกรรม ดังนี้

1) การแข่งขันการถ่ายทำภาพยนตร์สั้นในประเทศไทย(Thailand Short Film Competition)กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 - 25 กรกฏาคม 2560 โดยจะเริ่มเปิดรับสมัครทีมผู้เข้าแข่งขันที่เป็นนักศึกษาด้านภาพยนตร์ชาวไทย และ ทีมนักศึกษาด้านภาพยนตร์ชาวต่างชาติ จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ โดยผู้เข้าแข่งทีมต่างชาติจะมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านภาพยนตร์ ร่วมกันคัดเลือกให้เหลือ 24ทีม โดยแต่ละทีมประกอบด้วยผู้เข้าแข่งขัน 3 คน ได้แก่ นักศึกษาที่กำลังศึกษาด้านภาพยนตร์ เป็นนักศึกษาชาวต่างชาติ 2 คน ทำหน้าที่ผลิตภาพยนตร์และนักศึกษาไทย1 คนทำหน้าที่เป็น Production Assistant หรือผู้ช่วยการผลิต ซึ่งมีความเข้าใจในงานถ่ายทำภาพยนตร์และมีหน้าที่ในการประสานงานกับสถานที่ถ่ายทำต่างๆ เพื่อสร้างรูปแบบการทำงานร่วมกันระหว่างทีมงานต่างชาติและทีมงานไทย และที่สำคัญเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้งานด้านภาพยนตร์ร่วมกันซึ่งเหล่านี้จะได้รับโจทย์การแข่งขันที่เน้นการนำเสนอ วิถีท่องเที่ยว วิถีวัฒนธรรม วิถีชีวิตที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น รวมทั้งความสวยงามของธรรมชาติ และมรดกทางวัฒนธรรมที่ล้วนสะกดหัวใจนักท่องเที่ยวมาเป็นเวลานานโดยกำหนดให้ผู้เข้าแข่งขันเลือกถ่ายทำในจังหวัดที่อยู่ภายใต้8 เขตพัฒนาการท่องเที่ยวตามยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว พ.ศ. 2558– 2560 โดยจะมีรางวัลชนะเลิศประจำเขตพัฒนาการท่องเที่ยว 8 รางวัล และมีรางวัลยอดเยี่ยม (Grand Prize) 1 รางวัล

และภายใต้กิจกรรมการแข่งขันการถ่ายทำภาพยนตร์สั้นในประเทศไทย ในปีนี้จะมีการจัดกิจกรรมพิเศษ คือการแข่งขันภาพยนตร์สั้นตามรอยโครงการพระราชดำริโดยกิจกรรมนี้จะเปิดรับสมัครเฉพาะผู้สมัครที่เป็นนักศึกษาไทยเท่านั้น เพื่อลงพื้นที่ถ่ายทำภาพยนตร์สั้นในหัวข้อเรื่อง "การท่องเที่ยวเชื่อมโยงโครงการพระราชดำริ" เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช รัชกาลที่ 9 โดยมีโครงการพระราชดำริให้เลือก 29 โครงการจากทั่วประเทศ ซึ่งในรอบแรกจะคัดเลือกผู้สมัครให้เหลือ 30 ทีมเพื่อให้มานำเสนอผลงานกับผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังได้แก่คุณนนทรีย์ นิมิบุตร คุณปรัชญา ปิ่นแก้ว คุณโสฬส สุขุม และรศ.ปัทมาวดี จารุวร อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นจะคัดเลือกให้เหลือ 9 ทีม เพื่อไปถ่ายทำภาพยนตร์ ณ สถานที่จริง โดยมีรางวัลใหญ่สำหรับทีมชนะเลิศ 1 ทีม

2) การจัดฉายภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในประเทศไทย (Thailand on Screen) กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 25 กรกฏาคม 2560 ณ โรงภาพยนตร์พารากอนซีนีเพล็กซ์ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งจะนำภาพยนตร์ต่างประเทศที่เคยถ่ายทำในประเทศไทยมาฉายให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และในปีนี้จะจัดฉายภาพยนตร์ทั้งสิ้น 5 เรื่อง

ซึ่งภาพยนตร์เหล่านี้ เป็นภาพยนตร์ที่เคยโด่งดังเป็นอย่างมาก และล้วนถ่ายทำในประเทศไทย โดยจะร่วมย้อนความทรงจำไปสู่ความน่าสนใจในอดีตที่คนไทยไม่ควรพลาดเข้าชมในเทศกาลครั้งนี้ เช่นภาพยนตร์เรื่อง Deer Hunter (1978) จากสหรัฐอเมริกา และ Air America(1990) จากสหรัฐอเมริกา เป็นต้น

3) การประกาศรางวัลการแข่งขันการถ่ายทำภาพยนตร์สั้นในประเทศไทย (Awards Ceremony)กำหนดจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 27กรกฎาคม 2560 ณ สยามภาวลัย รอยัล แกรนด์ เธียเตอร์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งจะจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้ชนะเลิศการแข่งขันถ่ายทำภาพยนตร์สั้นทั้งทีมชาวไทยและทีมต่างชาติ นอกจากนี้ยังเป็นการนำเสนอมนต์เสน่ห์ของสถานที่ถ่ายทำในประเทศไทย และศักยภาพของบุคลากรไทยในอุตสาหกรรมภาพยนตร์

"โดยกิจกรรมทั้งหมดนี้ มีจุดประสงค์และเป้าหมายที่สำคัญ ในการผลักดันคลื่นลูกใหม่ที่เป็นกลุ่มนักศึกษาด้านภาพยนตร์จากทั่วโลก ทั้งไทยและต่างประเทศ รวมไปถึงทีมผู้สร้าง ผู้ผลิตภาพยนตร์ และบุคคลผู้สนใจทั้งรายใหม่และรายเดิม เพื่อการเผยแพร่ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในด้านแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม สามารถรองรับนักท่องเที่ยวและคณะถ่ายทำภาพยนตร์ได้เป็นอย่างดีมุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศและคาดหวังการเดินทางเข้ามาถ่ายทำของกองถ่ายภาพยนตร์จากนานาประเทศเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและถ่ายทำภาพยนตร์ของประเทศไทยในอนาคตต่อไป"