นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวถึงความสำคัญของ โครงการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวและสถานที่ท่องเที่ยว "Amazing Thai Host" ว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลที่สืบเนื่องมาจากแผนยุทธศาสตร์ "ประชารัฐ" โดยเมื่อ "ประชาชน" และ "รัฐ" ได้ทำงานร่วมกันแล้วจะก่อให้เกิดความเข้มแข็งและความมั่นคงของประเทศในด้านต่างๆ ซึ่งคณะทำงานสานพลังประชารัฐด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวและไมซ์ (MICE) เล็งเห็นว่าการท่องเที่ยวเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของชาติ ก่อให้เกิดรายได้ การสร้างงาน การสร้างอาชีพและกระจายรายได้ให้กับประชาชนทั้งในเขตเมืองและในชนบท อีกทั้ง เป็นการตอบสนองนโยบายรัฐบาลด้านการดูแลผู้สูงอายุของประเทศไทยที่กำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
โครงการ "Amazing Thai Host" มีความสำคัญในด้านการจ้างงานผู้สูงอายุในท้องถิ่นที่มีความสามารถและต้องการรายได้หลังเกษียณอายุ ร่วมเป็นอาสาสมัครอำนวยความสะดวกและดูแลนักท่องเที่ยวประจำแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งเป็นโมเดลในประเทศที่มีการพัฒนาด้านการจัดการท่องเที่ยวกว่า ๒๐ ประเทศทั่วโลกนำมาใช้จนประสบความสำเร็จ อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้แคนาดา ฯลฯ
ในส่วนของเมืองไทยเริ่มมีการดำเนินโครงการ Amazing Thai Host ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ จังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่และน่าน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยได้กลุ่มผู้สูงอายุที่ได้รับการคัดเลือกร่วมในโครงการฯ จะประจำตามจุดแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นท้องถิ่นของตนเอง จำนวนทั้งสิ้น 152 คน
"โครงการนี้ นอกจากจะช่วยให้ผู้สูงอายุมีอาชีพเสริม มีรายได้ มีกิจกรรมทางสังคม มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนในท้องถิ่นแล้ว ก็สามารถที่จะเพิ่มเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัด และยกระดับรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับกลุ่มจังหวัด ทำให้ภาคการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดเติบโตและเกิดความยั่งยืนต่อไป" ปลัดฯ ท่องเที่ยวกล่าว
ในวันเดียวกัน ปลัดฯ พงษ์ภาณุ ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจตลาดไนท์บาซ่าร์ จังหวัดเชียงราย และให้สัมภาษณ์ว่าตลาดไนท์บาซ่าร์เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งได้รวมศิลปวัฒนธรรมทางภาคเหนือของไทย รวมถึงวิถีชีวิตของชาวเขา ชาวพื้นเมือง และผสมผสานความเป็นสมัยใหม่รวมอยู่ด้วย
ในปี 2559 ที่ผ่านมาเฉพาะที่ตลาดไนท์บาซ่าร์สามารถสร้างรายได้ถึง 2 หมื่นกว่าล้านบาท โดยแบ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 2 ล้านคน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกว่า 5 แสนคน เฉลี่ยรายได้ไม่ ต่ำกว่า 300 บาท/คน มีทั้งนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาแบบแพ็คเก็จทัวร์ หรือแบบส่วนตัว และมีระยะเวลา ในการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย 3 วันขึ้นไป
ความหลากหลายของตลาดแห่งนี้จะมีมากมายหลายอย่าง ซึ่งแบ่งเป็น 3 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 เป็นแหล่งรวมของชุมชน OTOP ชั้นนำของเชียงราย ร้านสินค้าโครงการหลวง สินค้าและผลิตภัณฑ์ชาวเขา
โซนที่ 2 จำหน่ายสินค้างานทำมือ และหัตถกรรม กิจกรรมสปา นวดแผนไทย และสมุนไพรไทย
โซนที่ 3 เป็นพื้นที่แสดงนิทรรศการ จำหน่ายสินค้า ของที่ระลึก สินค้าเบ็ดเตล็ด และของตกแต่งบ้าน
"ในนามของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มาสัมผัสบรรยากาศในงานนี้ด้วยตนเอง เพราะบริเวณโดยรอบจะตกแต่งด้วยโคมไฟแบบล้านนาและตุงทอ ซึ่งจะสะท้อนเอกลักษณ์ของเชียงรายให้งดงามและน่าชื่นชมมากขึ้น ทำให้รู้สึกได้ถึงบรรยากาศแบบล้านนาในสมัยก่อน และเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน เทศบาลได้กำหนดให้ผู้จำหน่ายสินค้าและอาหารในแต่ละโซน ให้ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ใช้ถุงกระดาษ ถ้วยชามที่ทำจากใบตอง ตะกร้าไม้ไผ่และลดการใช้ถุงพลาสติก เป็นต้น"
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit