บรรยากาศภายในงานนอกจากจะมีผู้เข้ารับรางวัลทั้ง 36 รางวัลมาร่วมรับรางวัลแล้ว ยังเต็มไปด้วยผู้ให้ความสำคัญและสนใจเกี่ยวกับงานด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มาร่วมงานอย่างมากมาย โดย พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ประธานมูลนิธิวิมุตตยาลัย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับรางวัล "ผู้ทำคุณประโยชน์ดีเด่นด้านทรัพยากรมนุษย์" "ทรัพยากรมนุษย์นั้นเป็นทุนสำคัญในการพัฒนา แต่มนุษย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นคนเก่งอย่างเดียวนั้นยังไม่ใช่กำลังในการพัฒนาสังคมหรือประเทศชาติที่ดีได้ เพราะคนเก่งหรือผู้มีปัญญาที่แท้คือ ผู้ที่รู้ทั้งทางโลกและธรรมอย่างลึกซึ้ง และมีคุณงามความดีที่สามารถกราบตัวเองได้อย่างสนิทใจ และนำมาเป็นทุนในการรับใช้เพื่อนมนุษย์ จุดสูงสุดของคุณงามความดี คือคุณงามความดีที่ลอยพ้นเรื่องของตนเองขึ้นไป เป็นทำดีเพื่อผู้อื่น มองเลยตัวเอง ผลประโยชน์ และอัตตาของตนขึ้นไป เหล่านี้คือทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่า ปัจจุบันปัญหาของการศึกษาโลกคือ การทำให้คนเก่งได้ แต่ยังไม่ใช่คนดี คนดีที่มีความเบิกบานในการรับใช้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้ โลกจึงกำลังประสบวิกฤติเรื่องทุนมนุษย์ ดังนั้นเราจึงต้องช่วยกันสร้างสรรค์พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เป็นมนุษย์ที่มีต้นทุนทางปัญญาและคุณธรรม"
ด้าน ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา อีกหนึ่งผู้เข้ารับรางวัล กล่าวว่า "ขอบคุณกรรมการทุกท่านที่ทำให้มีการมอบรางวัลในครั้งนี้ และขอให้มอบกำลังใจให้กับผู้ที่ทำประโยชน์ในด้านทรัพยากรมนุษย์ต่อไป เพื่อวันข้างหน้าจะได้มีบุคคลเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างมากมาย เพราะคน คือศูนย์กลางการพัฒนา เราต้องให้ความสำคัญกับมนุษย์ในทุกมิติของมนุษย์ โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นแม่แบบให้เราได้เป็นอย่างดี
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อสร้างประโยชน์ คงจำได้ว่า เมื่อครั้งผู้สื่อข่าวสำนักข่าวบีบีซีกราบบังคมทูลถามพระองค์ท่านว่า ทรงทำอะไรอยู่ พระองค์ทรงตอบสั้นๆ ว่า ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่มีประโยชน์ อะไรที่มีประโยชน์ก็ทำ แต่อะไรที่ไม่มีประโยชน์ก็ไม่ทำ จะเห็นว่าทรงรักษาดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตไว้ให้พวกเรา เหตุนี้จึงเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่จะต้องรักษา ทะนุถนอม ฟื้นฟูสิ่งที่เสียไปแล้วให้กลับมาให้ได้ และอนุรักษ์สิ่งที่คงอยู่ไว้เพื่อส่งมอบต่อให้ลูกหลานของ เพื่อคำว่าประโยชน์สูงสุดดังที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงตั้งความปรารถนาที่จะให้เกิดขึ้นได้"
สำหรับ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้ที่ได้รับรางวัลและให้ความสำคัญต่อคุณค่าทรัพยากรมนุษย์ ดังที่กล่าวว่า "มนุษย์ทุกคนมีคุณค่าอยู่ในตัว บางกรณีเขาก็ไม่สามารถค้นหาศักยภาพในตัวเองออกมาได้อย่างสมบูรณ์ ผู้บังคับบัญชาจึงต้องทำหน้าที่ในการส่งเสริม สนับสนุน ชี้แนะเพื่อให้เขาสามารถนำศักยภาพออกมาใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างเต็มกำลังควบคู่กับการประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นคนดีของสังคมและชาติบ้านเมือง"
บุญเกียรติ โชควัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้เข้ารับรางวัลอีกหนึ่งท่าน กล่าวถึงการบริหารคนไว้ว่า " การบริหารทรัพยากรมนุษย์ในประเทศไทยยังมีจุดอ่อนอยู่มาก เพราะบ้านเรายังไม่ค่อยฝึกคนให้รู้จักใช้ความคิดเท่าไรนัก จึงต้องตอกย้ำ ปรับเปลี่ยนทัศนคติของคนให้มากพอ หลักการบริหารคนที่สำคัญที่สุดคือความรัก รักตนเอง รักครอบครัว รักบริษัท รักสังคม รักประเทศชาติ รักษ์โลก คนเรายิ่งสูงขึ้นเท่าไร ยิ่งต้องเรียบง่ายขึ้นเท่านั้น สิ่งสำคัญจึงต้องรู้จักพอเพียง และหากมีปัญหาในการบริหารงาน ทำแล้วรู้สึกยาก ท้อ เครียด ให้เติมคำว่า 'ไม่' ข้างหน้าของทุกคำ แล้วทุกอย่างจะสามารถผ่านไปได้ เพราะการสั่งจิตให้มีความคิดเชิงบวกอยู่เสมอเป็นกลไกสำคัญในการที่จะประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนและมีความสุข"และผู้เข้ารับรางวัล "ผู้ทำคุณประโยชน์ดีเด่นด้านทรัพยากรมนุษย์" อีกหนึ่งท่าน ชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ว่า "จุดแข็งในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศไทยคือ การมีความคิดริเริ่มใหม่ๆ พยายามที่จะทำอะไรของตัวเองขึ้นมา แต่จุดอ่อนคือการไม่พยายามเรียนรู้ให้มาก ขาดวินัยในตนเอง ซึ่งในองค์กรของเรานั้นได้หลอมรวมพนักงานให้ทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข โดยไม่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา และเพศ ทุกคนจะได้รับการปลูกฝังให้ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี เข้าใจสังคม และช่วยเหลือสังคม เราได้พัฒนากำลังคนอย่างเข้มข้น ทั้งทักษะด้านความรู้ในงาน ทักษะในการทำงานร่วมกันกับผู้อื่น รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมในที่ทำงานให้พนักงานสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างเต็มศักยภาพ ทั้งยังให้โอกาสให้การเติบโตในเส้นทางอาชีพ นอกจากนี้เรายังมุ่งเน้นการพัฒนา เตรียมความพร้อมผู้นำผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในแต่ละระดับ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้มีส่วนร่วมทุกคนเพื่อการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน"
สำหรับผู้เข้ารับรางวัล "ผู้ทำคุณประโยชน์ดีเด่นด้านทรัพยากรมนุษย์" (Human Resource Excellence Award) ทั้ง 36 รางวัล ได้แก่ 1) คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ 2) สมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย 3) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) 4) LINE Company (Thailand) Limited 5) มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย 6) มูลนิธิไทยรัฐ 7) วัดพระบาทน้ำพุ 8) ศาสตราจารย์พิเศษเกษมสันต์ วิลาวรรณ 9) ศาสตราจารย์ ดร.ชาติชาย ณ เชียงใหม่ 10) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ 11) หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล 12) ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล 13) นายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา 14) นายภาณุ อุทัยรัตน์ 15) นายสมชาย พูลสวัสดิ์ 16) ศาสตราจารย์ (พิเศษ) สมพงษ์ จุ้ยศิริ 17) นายสวัสดิ์ โชติพานิช 18) นายกานต์ ตระกูลฮุน 19) นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ 20) นายชำนาญ พิมลรัตน์ 21) ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย 22) นายเทวินทร์ วงศ์วานิช 23) นายธัญญา ผลอนันต์ 24) นายบัณฑูร ล่ำซำ 25) นายบุญเกียรติ โชควัฒนา 26) นายประมนต์ สุธีวงศ์ 27) ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ 28) ดร.วิสุทธิ วิทยฐานกรณ์ 29) นายศุภชัย เจียรวนนท์ 30) นายสมพงศ์ นครศรี 31) ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา 32) นายอิสระ ว่องกุลศลกิจ 33) พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี 34) นายวิชิตพล ผลโภค 35) ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล และ 36) นายอภิชาติ การุณกรสกุล ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นบุคคลและองค์กรที่ผ่านการเสนอชื่อและคัดเลือกจากคณะกรรมการโครงการยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ทำคุณประโยชน์ด้านการพัฒนาทรัพยากมนุษย์ ซึ่งเป็นผู้ที่ทำคุณประโยชน์ด้านทรัพยากรมนุษย์อย่างโดดเด่นและต่อเนื่อง มีคุณูปการต่อการบริหารทรัพยากรมนุษย์ของประเทศไทย โดยการจัดงานมอบรางวัลยังเป็นการสร้างเครือข่ายการทำงานในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ร่วมกันอีกทางหนึ่ง