ครั้งแรกในโลก! มุนดิฟาร์มา เปิดตัว เบตาดีน เนเชอรัล ดีเฟนส์ ในเมืองไทย สยายปีกความเชี่ยวชาญสู่ตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเพื่อสุขอนามัย ชูจุดขาย ไร้ 4 สารตกค้าง อ่อนโยนด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ และช่วยลดการสะสมแบคทีเรีย

07 Jul 2017
มุนดิฟาร์มา ปักธงเปิดตัวแบรนด์ เบตาดีน เนเชอรัล ดีเฟนส์ ในเมืองไทย เป็นแห่งแรกของโลก ปล่อยกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเพื่อสุขอนามัย ครีมอาบน้ำ โฟมล้างมือ และเจลล้างมืออนามัย ขยายความเชี่ยวชาญจากผลิตภัณฑ์ดูแลบาดแผล สู่ปรากฏการณ์เขย่าตลาดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเพื่อดูแลสุขอนามัยชูจุดขาย ไร้ 4 สารตกค้าง อ่อนโยนด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ พร้อมช่วยลดการสะสมแบคทีเรีย99.99% คว้าติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดีและ ครอบครัว คุณพีช และ น้องเต็นท์ขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเตอร์ เจาะกลุ่มคุณแม่ ตั้งเป้าชิงส่วนแบ่ง 10% จากตลาดครีมอาบน้ำเพื่อสุขภาพผิวในช่องทางจำหน่าย Modern Trade
ครั้งแรกในโลก! มุนดิฟาร์มา เปิดตัว เบตาดีน เนเชอรัล ดีเฟนส์ ในเมืองไทย สยายปีกความเชี่ยวชาญสู่ตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเพื่อสุขอนามัย ชูจุดขาย ไร้ 4 สารตกค้าง อ่อนโยนด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ และช่วยลดการสะสมแบคทีเรีย

มุนดิฟาร์มา (ประเทศไทย) เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดเบตาดีน เนเชอรัล ดีเฟนส์(Betadine Natural Defense) ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเพื่อสุขอนามัย สำหรับทุกคนในครอบครัว ที่รังสรรค์ขึ้นทั้งในรูปแบบครีมอาบน้ำ โฟมล้างมือ และเจลล้างมืออนามัย ชูจุดขายไร้ 4 สารตกค้าง ได้แก่ SLS(Sodium Lauryl Sulfate) MIT(Methylisothiazolinone) Parabensและ Triclosanพร้อมสารสกัดจากธรรมชาติช่วยลดการสะสมแบคทีเรียได้สูงถึง 99.99%มีให้เลือกถึง4 สูตรได้แก่ มอยซ์เจอไรซิง มานูกา ฮันนี่, ไบรท์เทนนิ่ง พอมิกราเนต, คลูลิ่ง ยูคาลิปตัส และ เพียวริฟายอิง ทีทรี

มร.อูโก้ อเลซานโดร ซาฟเวดรา ผู้จัดการทั่วไป มุนดิฟาร์มา (ประเทศไทย)เผยว่า "ตลาดครีมอาบน้ำในเมืองไทย ปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 5,800 ล้านบาท โดยกลุ่มครีมอาบน้ำเพื่อสุขภาพผิวมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 23% หรือคิดเป็น1,300ล้านบาท โดยรวมแล้วผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำ มีการเติบโตขึ้นจากปีก่อนราว 5% โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำเพื่อสุขภาพผิวเติบโตที่ 8% หากพิจารณากลุ่มตลาดผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำเพื่อสุขอนามัยจะพบว่ามีการครอบครองส่วนแบ่งโดยผลิตภัณฑ์เพียงไม่กี่แบรนด์ ขนาดของตลาด การเติบโต และจำนวนผู้เล่นในตลาด เป็นปัจจัยหลักที่ทางเรามองเห็นว่าเป็นโอกาสของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ลงในกลุ่มนี้โดยมีการตั้งเป้าการตลาดไว้ที่ส่วนแบ่ง 10%ในตลาดครีมอาบน้ำเพื่อสุขอนามัย ภายในสิ้นปี 2560 นี้"

ปัจจุบันเบตาดีน เป็นผู้นำในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลบาดแผล ครองส่วนแบ่งทางการตลาดในเมืองไทยที่ 42% การนำเสนอผลิตภัณฑ์เบตาดีน เนเชอรัล ดีเฟนส์ ในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่เป็นการออกสู่กลุ่มตลาดใหม่เพื่อสุขอนามัยในทุกวัน และ ช่องทางจำหน่ายใหม่คือModern Trade ทั้งยังได้เลือกวางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นประเทศแรกของโลก

"ประเทศไทยมีการเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำที่น่าสนใจ และมีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ไม่มากนัก การออกผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จะสร้างความหลากหลายให้แก่ผู้บริโภค มอบคุณค่าที่โดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นอย่างชัดเจน ในครึ่งปีหลังของ 2560 จะมีการใช้งบประมาณการตลาดอยู่ที่ประมาณ 100ล้านบาท โดยเน้นทำการตลาดในกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นเป้าหมายหลัก คือกลุ่มคุณแม่ ที่ต้องใส่ใจดูแลสุขอนามัยของทุกคนในครอบครัว เป็นผู้กุมอำนาจการจับจ่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้ภายในบ้าน โดยจะสื่อสาร ผ่านการใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี และครอบครัว ที่มีไลฟ์สไตล์เหมาะกับผลิตภัณฑ์ และ ยังเป็นขวัญใจของกลุ่มเป้าหมายผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะ"มร.อูโก้ กล่าวเสริม

มร.รามัน ซิงห์ ประธานกรรมการบริหารมุนดิฟาร์มากล่าวว่า "มุนดิฟาร์มา ได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายอันยอดเยี่ยม ที่ส่งเสริมให้ทุกครอบครัวปลอดภัยจากความสกปรกและเชื้อโรค ทั้งภายในบ้านและสิ่งแวดล้อมรอบตัว เราเชื่อมั่นว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์เบตาดีน เนเชอรัล ดีเฟนส์ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากทุกครัวเรือน ในฐานะผลิตภัณฑ์เครื่องใช้เพื่อสุขอนามัยส่วนบุคคล"

เบตาดีน เนเชอรัล ดีเฟนส์ นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์เบตาดีน ที่คิดค้นและพัฒนาโดยมุนดิฟาร์มา ต่อยอดจากบทสรุปความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ดูแลบาดแผล สู่เป้าหมายใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเพื่อสุขอนามัย นับเป็นอีกหนึ่งปรากฎการณ์ที่น่าจับตามอง และน่าติดตามต่อไปในอนาคต ถึงการต่อยอดแบรนด์เบตาดีน ออกไปอย่างไม่รู้จบ

HTML::image( HTML::image( HTML::image(