การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบปีนี้ดุเดือดถึงพริกถึงขิงกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา ต้องวัดกันถึงสนามสุดท้ายก่อนที่มาสด้าจะคว้าชัยไปครองเป็นครั้งแรก โดยผลการแข่งขันในสนามสุดท้าย คือ เรซที่ 7 และ 8 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ จาก 6 สนามที่ผ่านมาทีมมาสด้าเก็บคะแนนประเภททีมนำมาเป็นอันดับหนึ่ง สนามนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีในการเก็บคะแนนสะสม ในเรซที่ 7 สองนักแข่งสังกัดทีมมาสด้าลงควบมาสด้า2 ทำผลงานได้ดีทะยานผ่านเส้นชัยทั้งคู่ โดยมานะสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมด้วยการคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ ส่วนไมเคิลตามติดเข้ามาเป็นอันดับที่ 4 ต้องลุ้นกันต่อเนื่องในเรซสุดท้าย โดยตั้งเป้าหมายหลักก่อนลงสนามคือต้องคว้าแชมป์เท่านั้น ทางด้านมานะยังแรงดีไม่มีตกยึดตำแหน่งโพเดียมได้สำเร็จ จบอันดับ 4 ส่วน ไมเคิล จบอันดับ 6 ถือเป็นการปิดท้ายรายการแข่งได้อย่างสวยสดงดงาม สองนักแข่งแห่งค่ายมาสด้ากอดคอกันขึ้นโพเดียมรับถ้วยแชมป์ประจำปี โดย มานะ พรศิริเชิด คว้าแชมป์ประเภทบุคคลไปครอง ส่วน ไมเคิล ฟรีแมน ไม่น้อยหน้าครองอันดับ 3 อย่างสวยหรู และในประเภททีมมาสด้ายังกวาดคะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในรุ่น Thailand Super Compact คลาส A ฝีมือการกวดของ 2 นักแข่งได้สร้างความฮือฮาไปทั้งวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ดีเอ็นเอสายพันธุ์สปอร์ตไม่เคยเรือนหายไปจากมาสด้า แต่กลับช่วยสร้างเสริมเติมแต่ง มุ่งพัฒนาเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งดียิ่งขึ้น การคว้าแชมป์ทั้งประเภทบุคลและประเภททีมในครั้งนี้นับเป็นการประกาศศักดาความเป็นสายพันธุ์สปอร์ตอย่างยิ่งใหญ่ บนสนามทดสอบที่เปี่ยมด้วยความท้าทาย มาสด้าส่งรถ 2 สปอร์ตตัวจี๊ด อย่างมาสด้า2 ซึ่งเป็นรถรุ่นเล็กที่สุดของมาสด้า ที่มาพร้อมเครื่องยนต์คลีนดีเซล ขนาด 1500 ซีซี ให้ความแรงได้ดั่งใจสั่ง ทำการลงแข่งขันภายใต้ทีม Mazda Innovation Motorsport มาต่อเนื่อง ซึ่งผลการแข่งขันดีขึ้นเป็นลำดับ โดยในปีนี้รถทั้ง 2 คัน มีความสมบูรณ์มากที่สุดประกอบกับได้นักแข่งฝีมือฉกาจอย่าง มานะ พรศิริเชิด มาร่วมทีม และไมเคิลเองสามารถปรับการขับให้เข้ากับการเซ็ตรถของทีมได้เป็นอย่างดี ถือเป็นความลงตัวของทีมอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ผลงานในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้กับการคว้าแชมป์มาครองได้เป็นผลสำเร็จและเป็นครั้งแรกของทีม
หากกล่าวถึงลีลาของ 2 นักแข่งในสนามล่าสุดเรซที่ 7 มานะออกสตาร์ทในอันดับที่ 2 ในการแข่งขันมีบางจังหวะเสียอันดับในบางรอบ แต่ด้วยฝีมือที่เหนือชั้น การสอดแทรกเข้าไลน์ การหาจังหวะเร่งแซง รวมทั้งการควบคุมพวงมาลัยที่แม่นยำของมานะ การกดคันเร่งเต็มสองเท้าทำให้กลับขึ้นนำเป็นจ่าฝูง ก่อนทะยานเข้าสู่เส้นชัยเป็นอันดับ 1 ได้สำเร็จ สะใจบรรดากองเชียร์เฮสนั่นแกรนด์สแตน ส่วนไมเคิลออกสตาร์ทในตำแหน่งที่ 4 แม้มีบางจังหวะที่เสียอันดับ แต่ยังสู้ไม่ถอยเร่งแซงกลับสู่อันดับเดิมได้สำเร็จ ก่อนเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 4 ในเรซนี้ ถึงแม้จะมีสายฝนที่โปรยปรายลงมาตลอดการแข่งขันเป็นอุปสรรคหลัก แต่ดูจะไม่ใช่ปัญหาสำหรับ 2 นักแข่งจากมาสด้า กลับเพิ่มสีสันความตื่นเต้นให้กับเรซนี้ให้ได้ลุ้นกันตัวโก่งยิ่งขึ้น
วันอาทิตย์ก่อนปิดฉาก ต้องลุ้นแชมป์กันต่อกับเรซสุดท้ายที่ต้องขับเขี้ยวกันมันส์หยด มานะออกสตาร์ทในอันดับที่ 5 ซึ่งในเรซนี้มานะถูกให้เพิ่มน้ำหนักตัวรถอีก 45 กิโลกรัม ตามกฎของการแข่งขัน แต่ไม่เป็นปัญหาต่อจิตใจอันแข็งแกร่ง มานะยังคงควบมาสด้า2 คู่ใจ ซิ่งทะยานสู่เส้นชัยในอันดับที่ 4 ขึ้นโพเดี้ยมได้สำเร็จ ส่วนไมเคิลออกสตาร์ทในอันดับที่ 2 ในระหว่างการขับเขี้ยวเกิดเสียหลัก รถหมุน แต่ใจยังสู้ไปต่อจนจบการแข่งขันในอันดับ 6
สำหรับการแข่งขันในปีนี้ มานะ แม้จะเป็นปีแรกที่เข้ามาร่วมทีมกับมาสด้าแต่ด้วยทักษะและประสบการณ์ความเชี่ยวชาญจึงปรับจูนเข้ากับรถแข่งมาสด้าได้อย่างรวดเร็ว สามารถพิชิตแชมป์ประจำปีนี้มาครองได้สำเร็จ ตามติดด้วยไมเคิลไม่น้อยหน้าคว้าอันดับ 3 มาได้เช่นกัน ส่งผลให้คะแนนรวมของประเภททีมคว้าอันดับ 1 บ่งบอกถึงการฟอร์มทีมที่เหนียวแน่น และการวางแผนที่ยอดเยี่ยมของทีม การการคว้าแชมป์ในครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของมาสด้าในวงการมอเตอร์สปอร์ต ตอกย้ำความเป็นแบรนด์รถยนต์สายพันธ์สปอร์ตตัวจริง
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit