ซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 164 เมกะวัตต์ โดย CSG ตกลงที่จะไม่เจรจาหรือเข้าทำสัญญาใดๆ ไม่ว่าโดยตรงกับโดยอ้อมแก่บุคคลอื่นในระหว่างระยะเวลาที่ได้ให้สิทธิแต่เพียงผู้เดียวกับ QTC อย่างไรก็ดี QTC ไม่มีความผูกพัน ที่จะต้องลงทุนในโครงการดังกล่าว เนื่องจากบันทึกความเข้าใจเป็นข้อตกลงเพื่อการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในเบื้องต้นเท่านั้น
ทั้งนี้ การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำทั้งสองโครงการดังกล่าว เป็นการดำเนินการตามแผนการขยายธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าของ QTC เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบัน QTC ได้ดำเนินการตามแผนการดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าแล้วสองโครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นของ QTC รวมจำนวน 33.5 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย การลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Minbu ที่ประเทศเมียนมาร์ กำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวม 170 เมกะวัตต์ (หรือคิดเป็น 25.5 เมกะวัตต์ ตามสัดส่วนการถือหุ้นของ QTC)
ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ตามแผนในปี 2561 และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ของ L Solar 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี กำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวม 8 เมกะวัตต์ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วตั้งแต่ปี2554 โดย QTC ได้รับโอนหุ้นของ L Solar 1 จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา และคาดว่า QTC จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากผลการดำเนินงานของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ของ L Solar 1
นอกจากนี้ ในงวด 6 เดือนของปี 2560 รายได้จากธุรกิจหม้อแปลงซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทเอง ก็ได้ปรับตัวดีขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2559 ตามความต้องการซื้อหม้อแปลงไฟฟ้าในตลาดที่มีสัญญาณที่ดีขึ้น และคาดว่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทเชื่อว่าการเติบโตของธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้าร่วมกับการขยายธุรกิจไปยังธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจะเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนให้ QTC สามารถเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน และสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ตามความตั้งใจของ QTC
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit