ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์น้ำไหลหลากในจังหวัดสตูล พร้อมประสานจังหวัดเสี่ยงภัยภาคใต้เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากจากภาวะฝนตกหนักและฝนตกสะสมในระยะนี้

26 Sep 2017
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานมีพื้นที่เกิดสถานการณ์น้ำไหลหลากจากอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ในจังหวัดสตูล รวม 2 อำเภอ 6 ตำบล 13 หมู่บ้าน ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยครอบคลุมทุกมิติ พร้อมประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้เตรียมรับมือฝนตกชุกหนาแน่นและฝนตกหนักมาก โดยเฉพาะจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการ เผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องจากอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ตั้งแต่วันที่ 21 – 25 กันยายน 2560 ทำให้เกิดน้ำไหลหลากและ น้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ สตูล และตรัง รวม 11 อำเภอ 48 ตำบล 267 หมู่บ้าน โดยสถานการณ์ที่จังหวัดตรังคลี่คลายแล้ว ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำไหลหลากในจังหวัดสตูล 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสตูล และอำเภอละงู รวม 6 ตำบล 13 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 423 ครัวเรือน 1,500 คน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง มีฝนตกเล็กน้อย และอยู่ระหว่างเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเล ส่วนอิทธิพล ของพายุ "ทกซูรี" ตั้งแต่วันที่ 15 – 20 กันยายน 2560ทำให้เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 12 จังหวัด รวม 34 อำเภอ 94 ตำบล 347 หมู่บ้าน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำไหลหลากในจังหวัดพิษณุโลก 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพิษณุโลก อำเภอพรหมพิราม และอำเภอบางระกำ รวม 16 ตำบล 77 หมู่บ้าน ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง โดยแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ในเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัย พร้อมนำเรือและรถขนย้ายให้บริการและอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชน รวมถึงจัดรถ ผลิตน้ำดื่มและรถไฟฟ้าส่องสว่างให้บริการแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ นอกจากนี้ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง โดย ปภ.ได้กำชับให้หน่วยปฏิบัติให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างเต็มกำลัง มุ่งเน้นการดูแลชีวิตความเป็นอยู่และความปลอดภัยของผู้ประสบภัยเป็นหลัก พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับทุกหน่วยงานให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่นกับฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ในจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่ภาคใต้เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยเฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่เสี่ยงภัย อย่างใกล้ชิด พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว วัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำจุดเสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที สำหรับประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้ติดตามพยากรณ์อากาศและปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป